ดูเหมือนหนังหมาๆ จะเข้าช่วงนี้กันสองสามเรื่องติด แต่หนังเรื่องที่ผมได้ดูในวันนี้เป็นหนังภาคต่อครับ เรื่องมันดำเนินต่อมาจากภาคแรกที่เล่าถึงเบลีย์ หมาตัวโตที่เกิดหลายชาติภพเพื่อเจอกับอีธานเด็กชายที่มันรัก และภาคนี้ก็ดำเนินเรื่องต่อจากภาคนั้น ‘A Dog’s Journey’ แล้วก็ใช้ชื่อแบบอ้างอิงง่ายๆ ให้รู้ว่าเป็นภาคต่อว่า ‘หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม 2’ นั่นแหละครับ
หลังจากภาคที่แล้ว กำกับโดย Lasse Hallström มาภาคนี้เปลี่ยนผู้กำกับเป็น Gail Mancuso ซึ่งการเปลี่ยนผู้กำกับจากชายกลายเป็นผู้กำกับหญิง อาจเป็นการเลือกที่ถูก เมื่อทำให้หนังมีมุมที่ลึกซึ้งขึ้น กินใจคนรักหมามากขึ้น
แม้มันจะเป็นเพียงจุดเล็กๆ ก็ตามที
เรื่องย่อหนัง ‘A Dog’s Journey’
เรื่องราวดำเนินต่อจากภาคแรกแบบแทบจะทันที เบลีย์ เจ้าหมากลับชาติมาเกิดเป็นว่าเล่น ตอนนี้มันได้ใช้เวลาในวาระสุดท้ายของชีวิตกับอีธาน (Dennis Quaid) เด็กชายที่มันรัก ซึ่งบัดนี้อีธานก็แก่ตัวลงมากเช่นกัน
มันได้พบกับสมาชิกใหม่ในฝูงเดียวกับอีธานและฮันน่าห์ (Marg Helgenberger) ภรรยาของเขา นั่นคือ ซีเจ (Kathryn Prescott) หลานสาววัยกำลังน่ารัก ที่กลอเรียแม่ของเธอ (Betty Gilpin) ดูจะไม่ลงรอยกับอีธานและฮันน่าห์สักเท่าไร จนวันหนึ่ง สองแม่ลูกก็จากไปไกลถึงนิวยอร์ก
และในวาระสุดท้ายของชีวิต อีธานฝากฝังซีเจไว้กับเบลีย์ นั่นจึงกลายเป็นเป้าหมายอันใหม่สำหรับมัน
คราวนี้ เบลีย์ผู้กำเนิดใหม่เป็นหมาตัวเล็กบ้างใหญ่บ้าง ก็ได้เวลาตามหาซีเจให้พบ และเป็นหมาที่น่ารักของเธอให้ได้ตามที่อีธาน เด็กชายของเขาได้ฝากฝังไว้
รีวิวหนัง ‘หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม 2’
เรื่องราวของภาคต่อที่ขยายจากการยึดโยงตัวของเบลีย์กับเด็กชายที่ชื่ออีธาน ไปสู่การดูแลคนที่อีธานฝากฝังไว้ นั่นคือ ซีเจ หลานสาวที่อีธานรักและเป็นห่วง และเบลีย์ก็ตามไปทำหน้าที่นั้นเท่าที่หมาตัวนึงที่เกิดใหม่แถมยังระลึกชาติได้จะสามารถทำได้
เรื่องราวที่ผสานความคิดเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด กับเรื่องของสุนัขเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ อาจจะไม่ถึงมีประเด็นใหม่อะไรนัก แต่มันก็ยังเป็นหนังที่ชวนประทับใจเมื่อมันยังหยิบแง่มุมของหมาที่โดนใจมนุษย์มาเล่น
แล้วมันก็ได้ผลอีกครั้ง
ในภาคนี้ ยังหยิบยกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เข้ามาด้วย เรื่องความไม่ลงรอยของแม่กับลูก ซีเจเติบโตมากับแม่ที่อยู่ในวงการเพลงหากแต่ก็เอาแต่ติดเหล้า มีชีวิตรื่นเริงยามราตรี และซีเจก็คาดหวังว่าเมื่อตนโตพอจะแยกตัวไปอยู่ด้วยตนเองได้ เธอก็จะรีบไปทันที
มนุษย์อยากเติบโตไปมีชีวิตของตนเอง แต่ถึงอย่างไร จิตใจของมนุษย์ก็ไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น และสุนัขก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่จำเป็นต่อมนุษย์อยู่ดี
Kathryn Prescott เล่นเป็นซีเจ หรือที่แม่เธอเรียกว่า คลาริตี้ เธอน่ารักดีอะ เธอเคยเล่นมาทั้งซีรีส์ ’24: Legacy’ เล่นมาทั้งหนัง ‘Polaroid’ แต่ผมเพิ่งจะได้มาเห็นหน้าเธอก็ในหนังเรื่องนี้นี่แหละ ในหนังเธอต้องเล่นเป็น CJ ตอนโตเป็นสาวที่ไม่ต่างอะไรกับอีธานที่ต้องพบเจอกับเบลีย์ผู้กลับชาติมาเกิดเป็นหมาหลายครั้งหลายครา
เธอมีพรสวรรค์ด้านดนตรีที่อาจจะได้รับสืบทอดมาจากแม่ แต่หนังก็ไม่ได้ทำให้เราเห็นเท่าไหร่ว่าแม่เธอมีพรสวรรค์แค่ไหน หากซีเจเธอได้ทั้งเล่นกีตาร์และร้องเพลงให้เราได้ดู เพียงแต่เธอดูไม่มีความกล้ามากพอจะแสดงให้คนอื่นๆ เห็นสักเท่าไหร่
หนังหยิบอินไซด์ของบางคนมาเล่นให้เราได้อินได้ซึ้งกันด้วย
ความแปลกประหลาดเกิดขึ้นในใจตอนที่พบว่า เมื่อเจ้าเบลีย์เกิดใหม่ในร่างของหมาเล็กเพศเมีย เราก็ยังได้ยินเสียงของมันเป็นผู้ชาย ซึ่งมันแปลกดีนะ ผมว่า เสียงของ Josh Gad รับหน้าที่พากย์เสียงในใจหมาเบลีย์ในทุกชาติภพ เขาทำหน้าที่ได้ดีเลยล่ะ พาหัวเราะคิกคักก็ได้ พาให้น้ำตารื้นไหลก็ได้อีก
เป็นหนังที่คนรักหมาทุกคนต้องชื่นชอบ เพราะคุณจะได้ทั้งสุข เศร้า เสียใจ ไปกับเบลีย์ ไม่ว่ามันจะเกิดเป็นหมาพันธุ์ไหน หรือชื่ออะไรก็ตาม
เขียนถึงมันอยู่ นึกถึงมันอีกครั้ง น้ำตาก็ยังกลับมาได้เสมอเลยแหละครับ
ชื่อภาพยนตร์: A Dog’s Journey / หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม 2 / A Dog’s Purpose 2
ผู้กำกับภาพยนตร์: Gail Mancuso
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: W. Bruce Cameron, Maya Forbes, Cathryn Michon, Wallace Wolodarsky
นักแสดงนำ: Josh Gad, Dennis Quaid, Kathryn Prescott, Marg Helgenberger
แนว/ประเภท: Adventure, Comedy, Drama, Family, Fantasy
เรท: USA/PG, ไทย/
ความยาว: 109 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: DreamWorks, Walden Media, Amblin Entertainment
หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม 2
พล็อตและบท - 7.5
การแสดง - 8.7
เพลง/ดนตรีประกอบ - 7.1
การดำเนินเรื่อง - 7.9
งานถ่ายภาพ - 7.2
7.7
A Dog's Journey
เรื่องราวที่ผสานความคิดเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด กับเรื่องของสุนัขเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ อาจจะไม่ถึงมีประเด็นใหม่อะไรนัก แต่มันก็ยังเป็นหนังที่ชวนประทับใจเมื่อมันยังหยิบแง่มุมของหมาที่โดนใจมนุษย์มาเล่น แล้วมันก็ได้ผลอีกครั้ง