วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ มีโอกาสเดินเข้าโรงหนังอีกแล้ว ต้องไม่พลาดกับหนังการ์ตูนคลาสสิกจากดิสนีย์ที่วันนี้มันได้โลดแล่นอีกครั้งในแบบหนังคนแสดง ‘Dumbo’ ชื่อไทยว่า ‘ดัมโบ้’ แอนิเมชั่นขนาดความยาว 1 ชั่วโมง 4 นาที เมื่อปี 1941 เรียกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ที่เก่าแก่กว่าคนรุ่นนี้จะรู้จักแต่ก็ใช่จะไม่มี
ความที่คลุกคลีอยู่หนังมาบ้าง เลยทำให้ได้รู้จักชื่อนี้มาหลายปีอยู่ แต่ก็มิได้เข้าไปสัมผัสหรือทำความรู้จักอะไรมากมายนัก มาได้รู้จักกับเจ้าช้างน้อยหูใหญ่บินได้เอาก็วันนี้นี่แหละ
รอบสื่อได้เห็นญาญ่าตัวเป็นแว้บนึงด้วย น่าร้ากกกก
เรื่องย่อหนัง ‘Dumbo’
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคณะละครสัตว์ที่ตระเวนไปแสดงตามเมืองต่างๆ ตามรายทางที่รถไฟจะไปถึง แล้ววันหนึ่ง คณะละครแห่งก็ตื่นเต้นเมื่อ “จัมโบ้” แม่ช้างที่กำลังตั้งท้องลูกกำลังจะให้กำเนิดช้างตัวใหม่ แต่ผลกลายเป็นว่า พวกเขาได้ลูกช้างที่มีใบหูทั้งสองข้างใหญ่โต ผิดแปลกจากช้างโดยทั่วไป
แต่คณะละครสัตว์แห่งนี้มีเด็กกำพร้าสองคนที่รักเจ้าช้างตัวนี้มาก ทั้งสองเป็นลูกของชายผู้ซึ่งเพิ่งกลับมาจากการเป็นทหาร กลับมาพร้อมกับสภาพของการเป็นพ่อผู้แขนเหลือเพียงข้างเดียว Holt Farrier (Colin Farrell)
เขากลับเข้ามาในคณะละครสัตว์ในฐานะคนเลี้ยงช้าง
หน้าที่ของการฟูมฟักสัตว์ตัวใหม่กลายเป็นของเขา มันได้ชื่อว่า “ดัมโบ้” โดยมิตั้งใจ แต่มันก็กลับต้องกำพร้าแม่เมื่อเจ้าของคณะขายมันไป เด็กๆ ได้รู้ว่าดัมโบ้มีความสามารถในการบินจึงคิดช่วยพาแม่ของมันกลับมาด้วยความพิเศษที่มันมี
ทว่ายังมีตัวละครที่เข้ามาสร้างสีสันอย่าง V. A. Vandevere (Michael Keaton) นายทุนผู้มีสวนสนุกขนาดใหญ่และต้องการได้คณะละครสัตว์ไปร่วมสร้างความบันเทิง นายวันเดเวียร์คนนี้มีสาวสวยผู้ซึ่งเป็นนักแสดงเอกของที่นั่นเป็นสาวคนสนิท เธอคือ Colette Marchant (Eva Green) ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แสดงร่วมกับดัมโบ้ด้วย
งานนี้จะจบลงเยี่ยงไร ดัมโบ้จะเจอจัมโบ้มั้ยหนอ?
รีวิวหนัง ‘Dumbo’
ความจริงแล้ว มันเป็นหนังดิสนีย์ที่เล่าเรื่องราวหลายเรื่องหลากมุมเคล้าปนกันได้ในเรื่องเดียว เมื่อมองด้วยสายตาผู้ใหญ่ มันเล่าได้ทั้งเรื่องราวของความกำพร้าของทั้งคนและช้าง เด็กทั้งสองกำพร้าแม่ผู้เข้าใจลูกที่สุด ก่อนที่จะได้พ่อกลับมาแม้จะไม่ค่อยเข้าใจลูกมากเท่าแม่ของพวกเขาก็ตาม ไม่ต่างอะไรกับดัมโบ้ที่เพิ่งเกิดมาไม่นานก็กลับต้องถูกพรากแม่ไป ความคิดถึง ความโหยหาความรักเหมือนๆ กัน
อาจเป็นส่วนสำคัญให้เด็กๆ กับช้างต่อกันติดอย่างง่ายดาย
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ก็คือ การค้นหาความพิเศษในตัวเอง แม้ว่าการเป็นช้างที่มีหูใหญ่มันจะดูผิดประหลาดไปจากช้างทั่วไป หากแต่มันกลายเป็นความพิเศษเมื่อดัมโบ้มันกลายเป็นช้างที่บินได้ แถมยังใช้แสดงในคณะละครสัตว์ เรียกคนดูได้อีกต่างหาก
มันดีแค่ไหนที่มีคนเห็น เชื่อในความสามารถที่เรามีและไม่มองว่าเป็นสิ่งประหลาด
แม้ว่าการจะแสดงความสามารถเหล่านั้นได้ จะต้องใช้ “ขนนก” เพื่อกระตุ้นให้มันออกมา อาจแสดงถึงความไม่กล้าไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เลยต้องมี “ตัวช่วย” มาสร้างความเชื่อมั่นให้เสมอๆ ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว
ก็คงเหมือนหลายๆ คนที่มีความสามารถ แต่มิกล้าจะแสดงมันออกมาเพราะว่าขาดความมั่นใจ เหมือนหนังจะบอกทุกคนให้ลุกขึ้นมายืนหยัดและเชื่อมั่น ว่าทุกคนมีความสามารถ มีพลังที่จะทำอะไรที่ถนัดและชอบ
จงกล้าและแสดงมันออกมา!
นอกเหนือไปจากนี้ เรายังได้เห็นเรื่องราวของความเป็นจริงทางธุรกิจ เมื่อคณะละครสัตว์ที่มีปัญหาด้านการเงินรุมเร้ามากมาย ในที่สุด เจ้าของคณะอย่าง Max Medici (Danny DeVito) ก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้มันอยู่รอดด้วยการรวมตัวเองเข้าไปอยู่กับนายทุนใหญ่ที่ก็ดูจะมิได้รักในคณะละครสัตว์อย่างจริงใจ หากเห็นแต่เม็ดเงินที่จะได้จากตัวชูโรงใหม่ๆ เท่านั้น
ที่น่าตื่นตาก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่ดัมโบ้ได้แสดงความสามารถให้ทุกคนได้เห็น ผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นไปว่าดัมโบ้จะรอดพ้นจากเหตุการณ์น่าหวาดเสียวนั้นหรือไม่ หลายช็อตได้ยินเสียงปรบมือจากผู้ชมกันยกใหญ่
ทุกอย่างดูดี ภาพสวยอลังการ ดูมีหลากหลายมิติที่น่าจะหยิบจับมาเล่าอะไรให้ออกมาน่าสนใจ ทว่า หนังกลับเดินไปแบบเรียบเรื่อย จนคนดูที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอย่างผมเกิดอาการง่วงหาวไปบ้างบางที
แถมตัวละครบางตัวยังทำให้อึ้ง ไม่คิดว่าจะทำเช่นนี้ได้ เหมือนเป็นบทลงเอยง่ายๆ อะไรแบบนั้น
หน้าหนังและงานภาพนั้นแสดงถึงความเก่าบวกความเป็นแฟนตาซีในสไตล์ดิสนีย์ มีความฟรุ้งฟริ้ง เปี่ยมล้นจินตนาการ หนังพยายามโอบอุ้มคนที่เติบโตมาพร้อมกับความไม่มั่นใจ ความมีไม่พร้อมเท่าเทียมคนอื่น ให้ลุกขึ้นสู้และแสดงตัวตนออกมาอย่าได้อายใคร
ทว่าก็โยนความเป็นตัวร้ายให้กับนักธุรกิจบางคนที่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเบื้องหลังที่มาให้เราเห็นสักเท่าไหร่
แต่หนังก็มีดีพอจะเป็นหนังสำหรับครอบครัวที่ชวนกันมาดูทั้งบ้าน เพื่อที่จะได้ทั้งพักผ่อน และได้เห็นพลังของครอบครัวที่เชื่อใจกัน ฝ่าฟันร่วมกัน เพื่อวันหนึ่งสิ่งที่รักที่ฝันที่ตั้งใจมันจะกลายเป็นจริงขึ้นมา
มิใช่อยู่แต่ในโลกของหนัง…เพียงเท่านั้น
ชื่อภาพยนตร์: Dumbo / ดัมโบ้
ผู้กำกับภาพยนตร์: Tim Burton
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Helen Aberson (novel), Ehren Kruger (screenplay)
นักแสดงนำ: Eva Green, Lucy DeVito, Nico Parker, Colin Farrell, Danny DeVito, Michael Keaton
ความยาว: 112 นาที
ปี: 2019
แนว/ประเภท: Family, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 28 มีนาคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Walt Disney Pictures, Tim Burton Productions, Infinite Detective
ดัมโบ้
พล็อตและบท - 6
โปรดักชั่นอลังการ - 8
การแสดง - 6
ดนตรีประกอบ - 7
6.8
Dumbo
หนังครอบครัวที่หยิบเอาแอนิเมชั่นสมัยหลายสิบปีก่อนมาสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นคนแสดง ด้วยวิสัยทัศน์ของลุงทิม เบอร์ตัน ที่ยังคงมีลายเซ็นอยู่ในนั้นชัดเจน ขยายไลน์เรื่องให้ออกมามีหลายแง่มุม หยิบจับผสมผสานกันจนกลายเป็นหนังครอบครัวที่ดูได้เพลินๆ ช้างน้อยดัมโบ้น่ารักน่าเอาใจช่วย น่าเสียดายที่เรื่องราวไม่ได้ชักชวนให้สนุกมากนัก เรียบเรื่อยไปหน่อย กับตัวละครร้ายที่ดูจะจบแบบง่ายๆ ไปนิด