นิตยสารระดับตำนานอย่าง ‘LIFE’ นั้นน่าจะมีคนไทยหลายคนคุ้นเคยมาจาก ‘The Secret Life of Walter Mitty’ กันบ้างแล้ว เรื่องราวของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับนิตยสารเล่มนี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านจอภาพยนตร์ให้กับคนไทยได้รับชมกันอีกครั้ง ผ่านทางภาพยนตร์ดราม่าชีวประวัติที่สร้างจากเรื่องจริงโดยใช้ชื่อเดียวกับนิตยสารว่าและมีชื่อไทยว่า ‘เพื่อนผมชื่อ เจมส์ ดีน’
เราอาจจะได้เจอเรื่องราวของคนที่ฝันจะใช้ชีวิตและได้ใช้ชีวิตกันมาแล้ว และตอนนี้ คงได้เวลาที่จะพบเจอกับเรื่องราวที่มีถ่ายทอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ จากคนจริงๆ ที่เกี่ยวข้องกับนิตยสารเล่มนี้
เขาเคยเป็นแวมไพร์ และตอนนี้ เขาเป็นช่างภาพครับ
เรื่องย่อหนัง ‘LIFE’
เมื่อกระทาชายนายคนที่ชื่อ เดนนิส สต็อก (Robert Pattinson) ที่ดำรงชีพด้วยการเป็นช่างภาพขายงานถ่ายรูปให้กับนิตยสารชื่อดังหลายหัว โดยเฉพาะ LIFE เกิดอยากจะเติบโตเป็นคนที่พุ่งทะยานสู่ความสำเร็จ มีแกลเลอรี่แสดงภาพของตัวเองกับเขาบ้าง และเกิดไปเจอเข้ากับจิมมี่ หรือ เจมส์ ดีน (Dane DeHaan) ดาราโนเนมที่สตูดิโอตั้งใจปลุกปั้นให้ดังผู้กำลังจะมีหนังที่เขาแสดงนำเป็นเรื่องแรก
เดนนิส เกิดปิ๊งขึ้นมาทันใดเลยว่า…
เนี่ยแหละ นายคนนี้นี่แหละที่ฉันจะถ่ายภาพชีวิตของเขาเพื่อเป็นเหมือนก้าวแรกที่จะพาดาราหน้าใหม่คนนี้ให้โด่งดัง ด้วยเหตุในบุคลิกภาพบางอย่างที่น่าสนใจของจิมมี่
รีวิวหนัง ‘เพื่อนผมชื่อ เจมส์ ดีน’
เดนนิสเลือกที่จะไขว่คว้าโอกาสและเติมฝันที่มีทั้งๆ ที่ชีวิตส่วนตัวของเดนนิสเองก็ใช่ว่าจะราบรื่นนัก เขามีลูกชายที่เกิดอดีตภรรยาที่ไม่ค่อยได้กลับไปหานัก สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะอาชีพที่ต้องร่อนเร่ไปทั่วและไม่มีวันหยุดพักที่แน่นอนนั่นเอง จุดนี้ที่นำมาซึ่งความเป็นดราม่าของเรื่องราว
พาร์ทดราม่าครอบครัว ที่ไม่ชวนอิน
ทว่าระหว่างรับชม กลับไม่พบเรื่องราวใดๆ ที่พาอินไปกับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์นี้ ไม่ใช่แค่รู้สึกว่าเป็นพ่อกับลูกที่เหินห่างจนไม่สนิทกันเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกมากกว่าตรงที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกันนี่สิ
ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงผู้เป็นพ่อและแม่ของลูกก็ดูจะไม่มีอะไรให้จับต้องสักเท่าไหร่ น่าเสียดายที่พาร์ทนี้ไม่มีอะไรให้จดจำ
เรียบง่าย และเรียบเรื่อย
ดูเหมือนผู้กำกับอย่าง Anton Corbijn จะพยายามคุมโทนให้มันเหมือนกันตลอดทั้งเรื่อง ทุกเวลาของหนังดูเรียบง่าย ดำเนินไปอย่างไม่เร่งเร้าซึ่งก็ทำให้ได้เห็นอะไรอย่างที่ชีวิตจริงๆ คนเราเป็นกัน หากแต่มันก็ไม่ทำให้หนังไม่มีจุดพีค และเรียบเรื่อยจนน่าง่วงนอน
การแสดงของ Dane DeHaan ดูจะเป็นสิ่งดีที่สุดในหนังเรื่องนี้ เขาทำให้เรื่องราวในหนังนั้นมีสีสัน เพราะเป็นพวกที่มีอารมณ์ศิลปินจัดๆ ไม่ยอมอยู่ในกรอบ แถมไม่อยู่กับร่องกับรอย ไปไหนมาไหนเอาตามใจชอบ
สิ่งที่ทางสตูดิโอ(ที่ยุคนั้นพวกเขาเป็นใหญ่)จัดวางไว้ให้เพื่อโปรโมตนักแสดงอย่างเป็นระบบและมีสิทธิในการชี้เป็นชี้ตายให้กับอนาคตของดารา กลับกลายเป็นสิ่งไร้ค่าไม่น่าสนใจสำหรับเจมส์ ดีน แม้แต่เดนนิสเองก็ต้องสับสนหัวปั่นอยู่บ้างที่ตารางของตนถูกป่วนไปหมด
เมื่ออยู่ดีๆ เขาก็ลุกขึ้นมาย้ายก้นกลับไปยังบ้านเกิด มันกลายเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะญาติพี่น้องดีใจกันยกใหญ่ แถมเดนนิสยังได้โอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานถ่ายภาพมาเป็นจุดเริ่มต้นเกียรติประวัติของชีวิตตัวเองเสียอีกด้วย
พาร์ทแรงบันดาลใจ ไม่สื่อสาร
หนังอย่าง ‘LIFE’ ดูพยายามอยู่พอสมควรที่จะแทรกใส่แง่มุมความคิดเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย แต่ก็เหมือนจะเพียงแตะๆ แต่ไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในใจคนดูแต่อย่างใด เพราะเรายังไม่เห็นว่าพวกเขาได้ “ใช้ชิวต” อย่างเด่นชัด หรือพวกเขา “ชื่นชมทุกสิ่งรอบข้าง” อย่างจะแจ้ง ทุกอย่างดูผ่านมาและผ่านไปอย่างนั้น ไม่เว้นแม้แต่บทกวีที่ดังออกมาจากจิตของจิมมี่
ไม่มีอะไรจะให้อินจริงๆ หรือเราเข้าไม่ถึงพวกเขาก็ไม่รู้
ชื่อภาพยนตร์: LIFE / เพื่อนผมชื่อ เจมส์ ดีน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Anton Corbijn
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Luke Davies (screenplay)
นักแสดงนำ: Robert Pattinson, Peter Lucas, Lauren Gallagher, Joel Edgerton, Alessandra Mastronardi, Dane DeHaan
ความยาว: 111 นาที
แนว/ประเภท: Biography, Drama
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 12 พฤศจิกายน 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: See-Saw Films, Barry Films, First Generation Films
เพื่อนผมชื่อ เจมส์ ดีน
LIFE - 5.5
5.5
LIFE
หนังอย่าง 'เพื่อนผมชื่อ เจมส์ ดีน' ดูพยายามอยู่พอสมควรที่จะแทรกใส่แง่มุมความคิดเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย แต่ก็เหมือนจะเพียงแตะๆ แต่ไม่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในใจคนดูแต่อย่างใด เพราะเรายังไม่เห็นว่าพวกเขาได้ "ใช้ชิวต" อย่างเด่นชัด หรือพวกเขา "ชื่นชมทุกสิ่งรอบข้าง" อย่างจะแจ้ง ทุกอย่างดูผ่านมาและผ่านไปอย่างนั้น ไม่เว้นแม้แต่บทกวีที่ดังออกมาจากจิตของจิมมี่ ไม่มีอะไรจะให้อินจริงๆ หรือเราเข้าไม่ถึงพวกเขาก็ไม่รู้