รีวิวหนัง Nocebo แม่บ้านหมอผี | ความระทึกที่มากับแม่บ้านคนใหม่

แม้ตัวอย่างอาจพาเราคิดไปว่านี่คงเป็นหนังสยองขวัญ และคิดว่ามันเป็นหนังที่พาเราไปพบเจอความหลอนของแม่บ้านที่เข้ามาเป็นคนแปลกหน้าในบ้านของครอบครัวหนึ่ง แต่เมื่อได้สัมผัสกับหนังจริงๆ แล้ว ‘Nocebo แม่บ้านหมอผี’ มันแตกต่างจากที่รับรู้แต่แรกไปพอสมควร

ผลงานชิ้นล่าในปี 2022 ของผู้กำกับอย่าง Lorcan Finnegan ที่เคยมีผลงานอย่าง ‘Vivarium’ (2019), ‘Without Name’ (2016) และ ‘Foxes’ (2011) แต่ละชิ้น ไม่ระทึกก็สยองขวัญแทบทั้งสิ้น และครั้งนี้ก็ได้ Garret Shanley มือเขียนบทที่เคยร่วมสร้างผลงานสองเรื่องแรกที่ว่ามา

ครั้งนี้ พวกเขาได้ร่วมงานกันอีกครั้งในหนังระทึกขวัญที่มีปมประเด็นค่อนข้างน่าสนใจ

เรื่องย่อหนัง ‘Nocebo’

มันเป็นเรื่องราวของ คริสติน (Eva Green จากซีรีส์ ‘Penny Dreadful’, หนังเรื่อง ‘Casino Royale’ และ ‘300: Rise of an Empire’) นักออกแบบเสื้อผ้าเด็ก ที่ใช้ชีวิตเป็นครอบครัวอยู่กับสามีอย่างเฟลิกซ์ (Mark Strong จากหนังเรื่อง ‘1917’, ‘Shazam!’ และ ‘Kingsman: The Secret Service’) ที่ก็มักจะเกี่ยงกันไปรับบ็อบส์ (Billie Gadsdon จากหนังเรื่อง ‘Cruella’) ลูกสาวที่โรงเรียนอยู่บ่อยๆ ในด้านการงาน ดูเหมือนชีวิตการงานของเธอกำลังจะรุ่ง ถ้าไม่ต้องสะดุดกับอาการป่วยอันแสนประหลาดบางอย่าง

ทุกวัน เธอต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่ครอบด้วยสายออกซิเจน ไปไหนก็ต้องระแวงว่ามือไม้จะสั่นเกร็ง เท่านั้นไม่พอ จู่ๆ ก็มีหญิงสาวชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งมาเคาะประตูบ้าน เธอบอกว่าตนชื่อ ไดอาน่า (Chai Fonacier) ด้วยความมึนงงหรืออะไรสักอย่าง คริสตินรับเธอไว้ทำงานด้วย แต่ดูเหมือนเธอจะได้มากกว่าแค่ช่วยงานบ้าน เธอมีความสามารถในการใช้วิชาพื้นบ้านที่ช่วยรักษาอาการของเธอได้ ก่อนที่

รีวิวหนัง ‘Nocebo’

ชีวิตของแฟชั่นดีไซเนอร์คนหนึ่งที่กำลังมีความสุขกับงานออกแบบเสื้อผ้าสำหรับเด็ก ทุกอย่างพลิกผันเพียงชั่วเสี้ยวนาทีเมื่อเธอได้พบกับสุนัขตัวนั้น อาการป่วยอันแปลกประหลาดนำมาซึ่งชีวิตการงานที่ระส่ำระสาย เธอไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขเหมือนอย่างที่ฝันไว้ แต่แล้วการมาของหญิงสาวชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนนั้น ก็เหมือนจะฉุดเธอกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง พร้อมๆ กับความเคลือบแคลงใจ

ไดอาน่า หญิงสาวชาวฟิลิปปินส์ผู้นี้ จู่ๆ ก็มาเคาะประตู บอกว่าเธอเรียกมา ทั้งๆ ที่คริสตินจำไม่ได้แต่ก็ให้เข้าบ้าน จัดแจงห้องหับให้สรรพเสร็จ ความป่วยไข้ของคริสตินนั่นล่ะมั้งที่ทำให้เธอรับไดอาน่าเข้าร่วมชายคาอย่างมึนงง ท่ามกลางความไม่ไว้ใจของลูกสาวและสามี แต่หญิงสาวผู้นี้กลับสามารถใช้วิธีพื้นบ้านบางอย่างช่วยรักษาอาการของเธอได้อย่างน่าอัศจรรย์

หนังเริ่มต้นมาได้น่าสนใจ ความลับบางอย่างที่ซุกซ่อนไว้ บวกกับเหตุผลที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ คือ สิ่งที่ยังค้างคาใจผู้ชม ระหว่างนั้น หญิงแปลกหน้าก็เริ่มปฏิบัติการใหม่ นอกเหนือจากการช่วยรักษาอาการของคริสตินให้หายชั่วคราวแล้ว สิ่งที่เธอทำนั้นดูคล้ายเป็นการควบคุมจิตใจของคนในบ้าน แท้จริงเธอดำรงตนเป็นหมอผีที่ใช้ไสยศาสตร์คอยกำกับคนในบ้าน

และระหว่างนั้น ผู้ชมก็จะค่อยได้รับรู้เรื่องราวอีกด้าน เมื่อหนังเริ่มเล่าเรื่องอดีตของฝั่งไดอาน่าแม่บ้านคนใหม่ สลับกันไปกับเรื่องในปัจจุบัน

ทว่า การดำเนินเรื่องในช่วงกลางที่เล่าสลับนี้กลับทำให้ความระทึกมันดร็อปลงไป แม้เพิ่มความสงสัยว่า เหตุการณ์ในอดีตจะเกี่ยวข้องอย่างไรกับปัจจุบัน แต่การเล่าที่สลับก็ทำให้มันไปได้ช้าลงกว่าเดิม ต้องรอสักพักถึงจะรู้ว่า ทุกสิ่งที่เล่ามาทั้งสองช่วงเวลา สองสถานที่ แท้จริงแล้ว มันคืออะไรเมื่อหนังให้คำตอบกับผู้ชมในช่วงท้ายเรื่อง และนั่นทำให้หนังกลับมาน่าตื่นเต้นและตื่นตาได้อีกครั้ง

ทางด้านนักแสดงนั้น หนังเรื่องนี้ใช้ตัวแสดงน้อยมาก ทั้งยังเล่าเรื่องวนเวียนอยู่แต่ในบ้าน จะเรียกว่าเป็นหนังที่มินิมอลก็ได้ว่า แต่ทุกตัวถือว่าทำหน้าที่ได้ดีพอๆ กัน โดยเฉพาะ Eva Green เธอแสดงเป็นหญิงสาวผู้มีอาการป่วยไข้ทางจิตได้โคตรดี แต่กลับเป็น Chai Fonacier ที่เล่นเป็นแม่บ้านที่โดดเด่นได้มากกว่า ขณะที่ดนตรีประกอบก็ช่วยสร้างความระทึกชวนสงสัยได้อยู่ แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับนายแพทคือประเด็นของหนัง

เมื่อมันไม่ได้แค่ให้ผู้ชมรู้สึกลุ้นระทึกปนหลอนไปวันๆ มันยังเล่าเรื่องความเหลื่อมล้ำ ปมประเด็นเรื่องการกดขี่ ปัญหาขัดแย้งทางเชื้อชาติและระบบนายทุน ทั้งวิพากษ์ไปถึงลัทธิจักรวรรดินิยมที่กัดกินผู้คนในอีกฟากฝั่ง

และเห็บหมัดหมาถูกนำมาเปรียบเปรยถึงการกัดกินและสูบเลือดสูบเนื้อได้อย่างตรงประเด็น

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง