รีวิวหนัง The Substance สวยสลับร่าง | จิกกัดวงการมายา ไปสุด..สะอิดสะเอียน

เคยฝันถึงตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่านี้มั้ย สาวกว่า สวยกว่า เพอร์เฟกต์กว่า สำหรับบางคนที่ผ่านเข้ามาถึงช่วงสูงวัย อาจเกิดความคิดพวกนี้แว่บเข้ามาในหัว แต่สำหรับคนที่อยู่ในวงการบันเทิงมายาวนานล่ะ ในวันที่พวกเขาอับแสงและถูกเฉดหัวทิ้ง หากมีสักแสงนึงสว่างขึ้นมา เขาจะยินดีเดินไปหามันหรือไม่ วันนี้ นายแพทได้เดินมาเจอหนังเรื่อง ‘The Substance’ หรือชื่อไทย ‘สวยสลับร่าง’ ที่บอกเล่าเรื่องราวพวกนั้นไว้ได้อย่างน่าสนใจ

รู้สึกยังไงกับหนังเรื่องนี้?

หนังที่ยากจะตัดคะแนนเรื่องนี้ เล่าถึงสภาพจิตที่บิดเบี้ยวของดาราคนหนึ่งที่วงการมายาบีบให้เธอต้องใช้สารอมฤตเพื่อสร้างเธอในตัวตนใหม่ แต่ต้องกลายเป็นคน 2 ร่างที่ใช้ชีวิตสลับกัน สองนักแสดงหลักคือทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยม ราวกับไม่คิดจะมีใครยอมใคร จิกกัดทุนนิยมและวงการมายาที่เน้นภาพลักษณ์ได้ถึงแก่น แม้หนังยาวแต่แน่นจนไม่เห็นช่วงใดเป็นส่วนเกิน ยิ่งเดินเรื่องก็ยิ่งบ้าคลั่ง องก์สุดท้าย คือไปสุดมาก

บอกเลยว่า จัดจ้านทั้งงานภาพ ดนตรีประกอบ บทหนัง และการแสดง

เรื่องย่อหนัง ‘The Substance’

เอลิซาเบธ ‘ลิซซี่’ สปาร์เคิล (Demi Moore จากหนัง ‘The Unbearable Weight of Massive Talent’) คือผู้หญิงที่รุ่งโรจน์อยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้ สังขารของเธอร่วงโรยลงไปมาก มากจนนายทุนใหญ่ที่ปลุกปั้นเธอมานานอย่างฮาร์วีย์ (Dennis Quaid จากหนัง ‘Midway’ และ ‘A Dog’s Journey’) คิดที่ปลดระวางเธอออกจากวงการ และเฟ้นหาคนใหม่ที่ใสปิ๊งกว่ามาแทนที่

และในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนั้นเอง ลิซซี่ก็พบได้หนทาง เมื่อมีผู้นำเสนอสารมหัศจรรย์ที่จะแปรเปลี่ยนชีวิตของเธอให้พลิกชั่วข้ามคืน ด้วยยาชนิดนี้ เพียงเข็มเดียว มันจะปลดล็อกดีเอ็นเอและสร้างตัวเธอในอีกแบบออกมา ซู (Margaret Qualley จากหนัง ‘Poor Things’) คือตัวเธอแบบที่สวยและเยาว์วัยกว่า แถมยังสมบูรณ์แบบกว่า แต่การใช้สารดังกล่าวก็เต็มไปด้วยข้อแม้ที่เธอต้องทำตามอย่างเคร่งครัดไม่งั้นเกิดผลเลวร้ายติดตามมา

รีวิวหนัง ‘สวยสลับร่าง’

แม้จะเป็นคนที่ชอบดูหนัง แต่เอาเข้าจริงก็เพิ่งจะรู้จักกับผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศสคนนี้ กอราลี ฟาร์ฌาต์ แต่ท่ามกลางความไม่รู้จัก ก็ทำให้รู้สึกทึ่งในความสามารถในการทำหนังได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะนี่คือหนังยาวเรื่องที่สองในชีวิตของเธอเท่านั้น และก่อนหน้านี้ เธอเคยกำกับซีรีส์ ‘The Sandman’ ไปตอนนึง และนี่คือหนังที่คว้ารางวัลบทยอดเยี่ยมจะเทศกาลหนังเมืองคานส์ และเธอคือคนที่ทั้งกำกับและเขียนบท หนังได้ Metascore 77 กับได้มะเขือสดจากเว็บไซต์ Rotten Tomato ไม่รู้สึกอยากดูก็แปลกแล้วล่ะ

จุดเริ่มต้น มันเล่าถึงช่วงชีวิตของหญิงในวงการบันเทิงคนหนึ่ง ที่กำลังจะถูกเจ้านายผู้ชายเฉดหัวทิ้งและคิดปั้นดาราสาวคนใหม่มาแทนที่ มันคือแรงจูงใจที่ลากดึงให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่ทั้งน่าติดตาม ทั้งสะท้อนความจริงของวงการมายา ในสไตล์ดราม่าสยองขวัญ

สารวิเศษที่แปรเปลี่ยนทุกคนที่ใช้ให้กลายเป็นอีกคนที่อ่อนวัยและดูดีกว่า แต่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ที่เหมือนข้อบังคับและบทลงโทษแสนโหดเหี้ยม เพียงสารนี้เพียงหนึ่งเข็ม มันจะสร้างตัวคุณในอีกแบบที่ทั้งสาวและสวยจนสามารถจะเฉิดฉายในวงการ เป็นที่รักของผู้คนอีกครั้ง แต่ทุกอย่างมีราคาที่ต้องแลก เพราะหลังจากใช้สารนี้ เธอจะกลายเป็นคน 2 ร่าง ร่างหนึ่งเป็นร่างต้นแบบที่สังขารร่วงโรย แต่อีกร่างเป็นสาวรุ่นสวยสะพรั่ง แต่มีข้อแม้ว่า เธอต้องสลับใช้ทั้งสองร่าง ร่างละ 7 วันเพื่อรักษาสมดุล

สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมก็คือ ทั้งสองร่างเป็นหนึ่งเดียวกัน คือตัวเราเหมือนกัน ไม่มีทางไหนที่จะหนีจากตัวเองไปได้

อันที่จริง หนังมันเล่าเรื่องราวหลายอย่างปนกันในหนังเรื่องเดียวนะ อย่างแรก คงเป็นการสะท้อนถึงความจมไม่ลงของดาราบางคน ที่ยอมรับไม่ได้กับความร่วงโรยของร่างกาย อันเป็นผลต่อชื่อเสียงและความนิยม ถึงขนาดยอมจะฉีดสารบางอย่างเข้าร่างกาย ซึ่งมีกระบวนการชวนคลื่นเหียน อย่างต่อมา คือ มันสะท้อนถึงวงการบันเทิงที่ดาราคือสินค้าที่มีเวลาจำกัด เจาะจงไปที่เพศหญิงผู้เพศชายควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ อีกอย่างที่สัมผัสได้ก็คือ เรื่องบิวตี้สแตนดาร์ดที่กลายเป็นหนามทิ่มแทงคนในวงการมายา พวกเธอต้องดูดีอยู่เสมอ แต่ความไม่จีรังยั่งยืนก็พรากมันไปได้ในวันหนึ่ง จนเธอเองต้องตัดสินใจดังกล่าว อย่างสุดท้ายก็คงเป็นเรื่องการเดินทางที่โหดร้ายของตัวละครที่ไม่ยอมรับในตัวตน

อันที่จริง ถ้าคนเราสติยั้งคิดคงไม่เลือกสั่งสินค้าตัวนี้มาใช้งาน แต่เพราะความกลัวแก่ของลิซซี่เป็นตัวผลักดัน สิ่งที่เกิดขึ้น คือ มันไม่ใช่ว่าตัวเธอกลับไปสาวเหมือนเดิม แต่เป็นการแบ่งตัวตนออกเป็นสอง ทั้งสองตัวตนมีความคิดและอารมณ์เป็นของตนเอง จึงไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นตามมา

แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกทึ่งก็คือ ลีลาการเล่าที่ใส่ลูกบ้าเข้าไปไม่ยั้ง ทั้งงานภาพและดนตรีประกอบมาอย่างจัดเต็ม แถมยังเล่าเรื่องแข็งแรงได้แม้หนังจะยาวถึง 2 ชั่วโมง 21 นาที แต่มันกลับตึงไม่มีหย่อน ไม่มีตรงไหนที่ย้วยเกินหรือควรเล่าข้าม

Taglines: If you follow the instructions, what could go wrong?

ภาพในหนังมีแต่เรื่องพาหวาดเสียว และภาพชวนแหวะมากมาย ใครที่กลัวเลือดอาจต้องงดอาหารก่อนเข้าชมสำหรับบางคนเลยด้วยซ้ำ อีกส่วนก็คงเป็นเมกอัพที่ทำได้สุดของจริง ขณะที่การแสดงของสองตัวนำก็เรียกได้ว่าไม่มีใครจะยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เดมี่ มัวร์ ที่โพรไฟล์ของเธอก็ตรงกับตัวละครในฐานะดาราสาวที่เคยโด่งดังแต่กำลังถูกสังขารที่ร่วงโรยฉุดรั้ง ขณะที่ มาร์กาเร็ต ควอลลีย์ ก็เซ็กซี่เกินต้านสมควรที่ร่างเหี่ยวจะรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดชัง

หนังอาจจะมีบางช็อตที่ชวนให้หัวเราะได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะขำไม่ออกซะมากกว่า ดูไปก็รู้สึกสงสารตัวละครไป และสำหรับช่วงสุดท้ายของหนังจิกกัดวงการเรื่องนี้ บอกได้เลยว่า ถ้าทุกคนได้ดูจะต้องมีคำ “บ้าคลั่ง” ผุดขึ้นในใจอย่างแน่นอน

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง