นึกว่าสัปดาห์นี้จะไม่ได้ดูหนังก่อนชาวบ้านชาวช่องเสียแล้ว แต่ในที่สุด โชคก็ดลบันดาลให้ได้ชม ‘The Wolverine’ ในวันนี้ หนังมนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ใน X-Men มาหลายภาค ก่อนจะมีภาคแยกของตัวเองอย่าง ‘X-Men Origins: Wolverine’ ในปี 2009 ซึ่งก็ทำกำไรภายในอเมริกาไปเพียงเล็กน้อย จนมาวันนี้ มนุษย์กลายพันธุ์ตัวแรกๆ ของโลกก็กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าจะมาครั้งไหน วูล์ฟเวอรีน ก็ยังเป็นวูล์ฟเวอรีน หรือโลแกน (Hugh Jackman) เจ้าเก่าหน้าตาเต็มไปหนวดเครากับทรงผมแปลกตาแต่ดูท่าจะเหมาะกับหน้าของฮิวจ์แกดี มนุษย์ที่เกิดในยุคนี้คงไม่อาจจินตนาการหน้าของวูล์ฟเวอรีนเป็นอย่างอื่นนอกจากหน้าของ ฮิวจ์ แจ็คแมน ไปได้ และทุกครั้งที่มา ทุกคนก็จดจำได้อย่างดีกับอาวุธสามง่ามที่งอกออกมาจากหมัด พ่วงด้วยความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว
จนทำให้วูล์ฟเวอรีนมีชื่ออย่างมากในเรื่องการเป็นอมตะ
รีวิวหนัง ‘The Wolverine’
ในภาคนี้ คนเขียนบทเลิกค้นหาจุดเริ่มต้นของเขา แล้วหันมาเล่าเรื่องที่เขาไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัยบ้างดีกว่า วีรกรรมการช่วยเหลือชายชาวญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีต นำพา ยูคิโอะ (Rila Fukushima) สาวญี่ปุ่นมาดเซอร์ไว้ผมแดงสืบเสาะจนเจอและมารับตัวไปร่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายต่อมาชิดะ (Hal Yamanouchi) คนที่เขาเคยช่วยเหลือไว้ แม้ไม่เต็มใจนัก แต่เขาก็ยอมไปที่นั่น หากมันไม่ใช่เพียงไปเพื่อเสร็จธุระแล้วก็กลับเสียเมื่อไหร่ ไปๆ มาๆ เขาต้องอยู่ต่ออย่างจำใจเมื่อได้รู้สาเหตุที่แท้จริงของการได้รับเชื้อเชิญครั้งนี้ นั่นคือ ของขวัญของการไม่ต้องแบกรับความ “คงกระพัน” ไว้กับตัวอีกต่อไป
นั่นคือสิ่งที่คุณจะได้จากตัวอย่างของหนังเรื่องนี้…
นอกจากเขาจะต้องสูญเสียพลังในการฟื้นฟูตัวเองแล้ว เขายังได้พบกับหลานสาวแสนสวยของยาชิดะ เธอคือ มาริโกะ (Tao Okamoto) ที่เป็นหมอคอยรักษาปู่ของตัวเอง และเรื่องราวภายในครอบครัวนี้ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาต้องอยู่ต่อ แต่นั่นก็ทำให้เขาได้พบบางสิ่งบางอย่างที่เขาอาจตามหาคำตอบของมันมาตลอดก็ได้
วูล์ฟเวอรีน คือ มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีร่างกายแข็งแกร่ง กระดูกทำด้วยโลหะชนิดพิเศษ มีอาวุธเป็นสามง่ามบนมือทั้งสองข้าง มีพลังการฟื้นฟูตนเอง แต่การอยู่มานานและอยู่ไปอย่างไร้จุดหมายดูน่าเศร้า ใครต่อใครอาจอยากได้อยากมีชีวิตที่อมตะ แต่สำหรับคนที่อยู่มานานเกินไปแล้ว มันอาจกลายเป็นสิ่งที่สร้างแต่ความหดหู่ก็เป็นได้
หนังเลือกจะเล่าเรื่องเกือบทั้งหมดบนเกาะๆ หนึ่งในญี่ปุ่น มีนักแสดงมาจากญี่ปุ่นอยู่เป็นส่วนใหญ่ของหนัง ไม่ได้ขับเน้นเฉพาะปมที่อยู่ภายในใจของตัวโลแกนเพียงเท่านั้น หากก็ยังเล่าไปถึงความยุ่งยากในตระกูลยาชิดะอีกด้วย พวกเขาไม่ได้เพียงแสนร่ำรวยด้วยเงินทอง หากยังร่ำรวยไปด้วยปัญหาภายใน ที่เกี่ยวโยงกับการเลือกตัดสินใจของชายกลายพันธุ์นาม “วูล์ฟเวอรีน”
จะว่าไป ฉากบู๊แอ็คชั่นก็อาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่ การต่อสู้แบบถึงลูกถึงคนเป็นแบบฉบับปกติของหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว หากแต่การเลือกที่จะบู๊ช่วงแรก และไปต่อด้วยเรื่องราวโรแมนติก ทำให้หนังดูมีสีสันที่แปลกแตกต่างออกไปได้ประมาณหนึ่ง การเล่าถึงความยุ่งเหยิงในครอบครัวนี้ก็ไม่ค่อยส่งผลให้หนังน่าสนใจเพิ่มขึ้นนัก ช่วงไคลแม็กซ์ก็ยังไม่ได้พีคมากเพียงพอ อาจทำให้รู้สึกว่าดีกว่าภาคที่ย้อนไปเล่าจุดกำเนิด แต่แม้จะไม่ได้คาดหวังไว้ก่อนล่วงหน้า ก็ยังพบว่าไม่ถึงกับประทับใจในภาคนี้ กระนั้นก็ไม่ถือว่า น่าผิดหวังแต่อย่างใด
ขณะที่งาน 3 มิติ แม้จะมีมิติและไม่ได้โดดเด่นจนต้องดูในแบบ 3 มิติครับ
ชื่อภาพยนตร์: The Wolverine / เดอะ วูล์ฟเวอรีน
ผู้กำกับภาพยนตร์: James Mangold
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Mark Bomback (screenplay), Scott Frank (screenplay)
นักแสดงนำ: Hugh Jackman, Rila Fukushima, Will Yun Lee, Hiroyuki Sanada, Tao Okamoto, Hal Yamanouchi
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
ความยาว: 126 นาที
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Twentieth Century Fox Film Corporation, Marvel Entertainment, Dune Entertainment
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 25 กรกฎาคม 2556
เดอะ วูล์ฟเวอรีน
The Wolverine - 7
7
The Wolverine
ไม่ได้ขับเน้นเฉพาะปมที่อยู่ภายในใจของตัวโลแกนเพียงเท่านั้น หากก็ยังเล่าไปถึงความยุ่งยากในตระกูลยาชิดะอีกด้วย ฉากบู๊แอ็คชั่นก็อาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่ การต่อสู้แบบถึงลูกถึงคนเป็นแบบฉบับปกติของหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะที่งาน 3 มิติ แม้จะมีมิติและไม่ได้โดดเด่น