รีวิวซีรีส์ Agency | การเมืองสุดวุ่นวายในแวดวงโฆษณา

จู่ๆ ก็มีซีรีส์เกาหลีเรื่องหนึ่งที่โผล่เข้ามาในบริการของเน็ตฟลิกซ์ ไปค้นดูก็พบว่ามันออกอากาศไปตั้งเดือนกุมภา ทำให้เข้าสตรีมมิ่งแบบรวดเดียว ทั้ง 16 ตอน เรื่องราวของหญิงสาวผู้มาดมั่น เย็นชา แต่เก่งกาจในแวดวงเอเจนซี่โฆษณา ใช่แล้ว ซีรี่ส์เรื่องนั้นคือ ‘Agency’ หรือชื่อไทยแบบไม่ต้องคิด ‘เอเจนซี่’ นั่นเองครับ

เดินผ่านไปผ่านมาอยู่สองสามวัน หลังจากเดินออกจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เพิ่งจบไป ก็ลองเปิดใจดูซีรีส์อีกเรื่องก่อนจะพบว่าไม่ถูกจริต ในที่สุด ก็กลับมาเดินเข้าบริษัทเอเจนซี่โฆษณา พื้นที่ที่เราไม่คุ้นเคย เพื่อพบกับหญิงสาวคนที่เคยคุ้น กับผลงานซีรีส์ที่ได้รับเรตติ้งในเกาหลีเพียงเลขหลักเดียวในช่วงแรก ก่อนที่จะมาจบที่ 16.044% บ่งบอกถึงความสนุกของมันได้เป็นอย่างดี อีกอย่าง ก็คือ มันเป็นผลงานการกำกับของ Lee Chang Min คนที่เคยกำกับ ‘Welcome to Waikiki’ มาทั้งสองภาค

ถ้าเช่นนั้น จะช้าอยู่ใย หยิบมาเขียนรีวิวถึงเลยก็แล้วกันเนอะ!

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Agency’

โกอาอิน (อีโบยอง/Lee Bo Young จากซีรีส์ ‘Mine ธาตุแท้’) หญิงสาวสวยโสดผู้เย็นชาบ้างาน แต่มีปัญหาซึมเศร้า นอนไม่หลับ แทบไม่มีเพื่อน มุ่งมั่นสนใจแต่เงินและความสำเร็จ เธอเป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ผู้ถูกทอดทิ้งให้เติบโตอย่างโดดเดี่ยว จบจากมหาวิทยาลัยบ้านนอก และไต่เต้าจากจุดต่ำสุดในวงการโฆษณา จนได้เป็น ผอ.ฝ่ายสร้างสรรค์

ด้วยฝีมือและความมุ่งมั่น ทำให้เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กรรมการโก ประธานฝ่ายสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้บริหารหญิงคนแรกของวีซี คอมมิวนิเคชันส์ เป็นหน้าเป็นตาให้กับวีซีกรุ๊ป แต่น่าเสียดายที่เธอมีวาระเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เธอกลายเป็นหุ่นเชิดให้กับองค์กรที่มุ่งหวังสร้างภาพความเท่าเทียมทางเพศ

ในที่ทำงาน รายล้อมด้วยคนที่ไม่ชอบเธอเสียเป็นส่วนใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ ควอนอูชอล (คิมแดกน/Kim Dae Gon) ผอ.ฝ่ายที่ขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งประธานฝ่ายสร้างสรรค์ด้วยกันมาตลอด แต่สุดท้ายกลับถูกเธอเข้าป้ายปาดหน้าไป แต่หนึ่งในคนที่อยู่ข้างเธอคือหัวหน้าฮัน ฮันบยองซู (อีชางฮุน/Lee Chang Hoon) ผู้ที่รู้ใจเธอเป็นอย่างดี

ผอ.ควอนอาจดูเป็นขวากหนามสำคัญในหน้าที่การงานของโกอาอิน แต่ที่จริงเป็นกรรมการชเว ชเวชางซู (โจซองฮา/Cho Seong Ha จากซีรีส์เรื่อง ‘Lovers of the Red Sky’) ประธานฝ่ายวางแผนเสียมากกว่าที่เธอต้องรับมือ เขาคนนี้ไม่ได้ต้องการให้เธออยู่ในหน้าที่ผู้บริหารนานนัก เพราะตัวเขาเองก็หมายตาตำแหน่งประธานบริษัทไว้อยู่เช่นกัน

แต่มันก็ไม่ได้จบแค่นั้น ซีรีส์เรื่องนี้ ยังมีอีกตัวแปรสำคัญอย่างองค์หญิงอินฟลูเอนเซอร์ คังฮันนา (ซนนาอึน/Son Na Eun จากซีรีส์เรื่อง ‘Ghost Doctor’) ลูกสาวของประธานบริษัทที่กลับเกาหลีมาพร้อมกับผู้ช่วยพัค พัคยองอู (ฮันจุนอู/Han Joon Woo จากซีรีส์เรื่อง ‘Through the Darkness’ และ ‘Happiness’) เธอคือสาวที่จบด้านการตลาด เป็นคนฉลาดที่บ้ายอดฟอลโลเวอร์ ผู้เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด หลังเธอได้เป็นผู้บริหารหญิงเพียงไม่กี่วัน

เป็นคำถามกลับมาที่กรรมการโก เธอจะใช้เวลาอันจำกัดนี้ ฝ่าฟันจนทุกอย่างสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้หรือไม่ หรือต้องมีอันกระเด็นออกจากเอเจนซี่ชื่อดังนี้ไป คงต้องมาลองลุ้นกัน

รีวิวซีรีส์เกาหลี ‘เอเจนซี่’

คนเขียนบทสร้างตัวละครหลักตัวนี้ขึ้นมา ให้เป็นคนที่มีเบื้องหลังอันปวดร้าว ให้เธอเกิดในครอบครัวที่ยากจน จนแม่ต้องตัดสินใจทิ้งให้เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว จนแทบไม่น่าเชื่อว่า เธอจะเติบโตมาอย่างดีจนกลายเป็นผู้บริหารของเอเจนซี่โฆษณาชื่อดัง แต่ความที่เป็นผู้หญิงในแวดวงโฆษณาเกาหลี เธอจะต้องผจญและเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ชายร่วมองค์กร

วิบากกรรมผู้หญิงในวงการโฆษณา

ซีรีส์เรื่องนี้ มีตัวเอกเป็นผู้หญิง และเล่าเรื่องโดยมีแบ็กกราวด์เป็นบริษัทเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ที่มีเจ้าของเป็นคนร่ำรวย มีศูนย์กลางเป็น โกอาอิน หญิงสาวที่เติบโตขึ้นมาจากความยากไร้ ถูกทอดทิ้งแต่เด็ก จึงโตมากลายเป็นคนที่มีบุคลิกภายนอกกร้าวแกร่ง แต่ภายในอ่อนไหว เธอมุ่งมั่นสร้างความสำเร็จจนทำให้เธอต้องสูญเสียไปหลายอย่าง ไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน ทำงานจนดึกดื่น นอนไม่หลับ ต้องพึ่งพายา พยุงเคมีในสมองให้คงที่ เบื้องหน้า เธอคือหญิงแกร่งแห่งวงการโฆษณา ที่ต้องต่อกรกับผู้ชายมากหน้าที่พร้อมจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อข่มเธอ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถที่มี ทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารหญิงคนแรกของบริษัทได้สำเร็จ ที่จริงก็ไม่ใช่เธอที่ทำมันโดยลำพัง เธอมีทีมที่เชื่อและศรัทธา โดยเฉพาะหัวหน้าฮัน และอีกทั้งเธอยังมีที่ปรึกษาคนพิเศษคนที่เคยเป็นหัวหน้าของเธอและถูกกรรมการชเวไล่ออกไป

ตัวละครผู้หญิงที่เราเห็นว่า น่าสนใจยังมีหลายตัว ยกตัวอย่างเช่น นักเขียนโจอึนจอง (จอนฮเยจิน/Jeon Hye Jin จากซีรีส์เรื่อง ‘My Liberation Notes’) ทำงานเป็นนักเขียนผู้ถวายชีวิตให้กับงานที่รัก แต่กลับต้องพบปัญหาว่า งานของเธอนั้นกัดกินเวลาของครอบครัวเธอไป ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนงอนหนักมากที่เคยเบี้ยวนัดหลายหนแล้ว

อีกตัวก็คือ ซออึนจา (คิมมีคยอง/Kim Mi Kyung) เธอคือหญิงที่เคยทอดทิ้งลูกน้อยด้วยความจำเป็น เพราะฐานะที่ยากจนในวันนั้น เธอยังคงเฝ้ามองดูความเป็นไปของลูกสาวอย่างเจ็บปวดและรู้สึกผิด เป็นอีกตัวที่คนดูอย่างเราเอาใจช่วยให้ได้กลับไปพบกับลูกอีกครั้ง

และตัวที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เธอคือ คังฮันนา สาวสวยที่ถูกเรียกว่า ‘องค์หญิงอินฟลูเอนเซอร์’ ลูกสาวคนเล็กของท่านประธานแห่งวีซีกรุ๊ป ผู้สร้างสีสันให้กับเรื่องราวด้วยการเข้ามาแทรกกลางในสงครามระหว่างกรรมการโก และ กรรมการชเว

ซัดกันนัวระหว่าง กรรมการโก กับ กรรมการเชว แต่ต่อมาก็กลายเป็นศึกระหว่าง คังฮันนา และพี่ชายของเธอ

บทของซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากเน้นเล่าเรื่องเบื้องหลังการทำงานที่เหนื่อยหนักและยากลำบากของคนในแวดวงโฆษณาแล้ว ก็ยังเล่าถึงการเชือดเฉือน ชิงไหวชิงพริบ ของคนในวงการโฆษณา โดยมีสองตัวหลักในหมากเกมนี้ เป็น กรรมการโก และ กรรมการชเว

เธอเริ่มใช้อำนาจที่ได้มาแม้เพียงชั่วคราว ขจัดพนักงานที่ไร้ประโยชน์ออกไปจากบริษัท พร้อมกับยื่นเงื่อนไขว่าภายในครึ่งปี เธอจะลาออกหากบริษัทไม่ได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แน่ล่ะว่า กรรมการชโวก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะขัดขวางเธอไม่ให้ทำสำเร็จ ทีนี้ เราก็จะได้เห็นถึงแนวทางการทำงานสร้างงานหนังโฆษณาสักตัวขึ้นมา พร้อมๆ กับได้เห็นกลการเมืองภายในบริษัท กลายเป็นสงครามระหว่างคนเก่งที่มีแรงผลักดันมาจากปมวัยเด็ก กับคนฉลาดแกมโกง ก่อนการมาคังอันนา ลูกสาวของประธานบริษัทจะผลักเกมให้เข้มข้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง

โกอาอินและคังฮันนา คือสองหญิงที่ปูมหลังช่างแตกต่าง แต่ก็พอมองเห็นความเหมือนกันของทั้งคู่อยู่อย่างหนึ่งคือ บุคลิกคิดอย่างมีกลยุทธ์แต่แสดงออกอย่างคนบ้า ทีแรก ก็เหมือนซีรีส์จะเล่าเรื่องสงครามระหว่างสองกรรมการ แต่ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นว่า คังฮันนา และ คังฮันซู​ (โจบ๊กแร/Jo Bok Rae จากหนังเรื่อง ‘Josee’ และซีรีส์เรื่อง ‘Connect’) สองพี่น้องตระกูลคังต่างก็ขัดแย้งแก่งแย่งตำแหน่งกันเอง ทำให้เรื่องราวในช่วงถัดมา เป็นสงครามของคนสองคู่ที่คาบเกี่ยวกันไปมา ชิงไหวชิงพริบกันสนุกดีเลยล่ะ

ถ่ายทอดความไม่เท่าเทียมในโลกปัจจุบัน

ในซีรีส์ เราจะได้เห็นว่า ท่านพ่อของท่านประธาน หรืออีกอย่างก็คือ คุณปูของคังฮันนา เขามักจะเรียกคนที่ทำงานให้กับวีซีว่าเป็น ‘ทาส’ อยู่หลายครั้งหลายหน สะท้อนมุมมองของคนร่ำรวยที่มองพนักงานบริษัทที่ทำให้กับตัวเองได้อย่างดี ขณะเดียวกัน หลานรักของปู่ ก็เคยพูดในทำนองที่ว่า ฝั่งไหนที่ชนะ เธอก็จะเข้าข้างฝั่งนั้น ความคิดแบบคนรวยเช่นนี้แหละมั้ง ที่ทำให้พวกเขามั่งคั่งเสมอมา

นอกจากนี้ โกอาอิน ก็ยังต้องแข่งขันกับรุ่นพี่ของตนเองที่เคยทำงานอยู่ด้วยกัน แล้ววันนึงรุ่นพี่คนนั้นก็ออกไปตั้งบริษัทเอง และบอกเหตุผลกับอาอินว่า ไม่อยากเป็นขี้ข้าคนรวย ทำให้เราเข้าใจเลย เป็นพนักงาน แม้ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหาร แต่ทำงานหนักแค่ไหน สุดท้ายก็ยังเป็นแค่ทาสผู้สร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ให้กับคนรวยอยู่ดี

ขณะเดียวกัน การเป็นคนรวยก็มีข้อเสีย อย่างที่คังฮันนาบอก พวกเขาไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่นการที่ต้องแต่งงานด้วยเหตุผลทางธุรกิจ ซีรีส์เรื่องนี้จึงสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมในโลกปัจจุบัน ในหลายๆ แง่มุม ทั้งความรวยความจนที่ส่งผลต่อความคิดและการกระทำ และความเป็นเพศหญิงในแผ่นดินที่ชายยังคงเป็นใหญ่

อีกครั้งกับการแสดงอันยอดเยี่ยมของ อีโบยอง

ต้องขอชื่นชมการแสดงของซานาอึนซะก่อน เรื่องนี้เธอได้ใส่ชุดเยอะมาก ดูแพงทั้งนั้น แถมยังได้เปลี่ยนทรงผมใหม่ทุกวัน และได้เล่นเป็นตัวละครแซ่บๆ พูดอะไรตรงใจ ส่งสายตาจิกๆ ซึ่งนาอึนก็เล่นได้น่ารักน่าหยิกไม่เบาเลยล่ะ

ส่วนอีโบยอง นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอได้เล่นเป็นผู้หญิงแกร่งๆ มีความสตรองภายนอก แต่ปิดบังซ่อนเร้นความอ่อนไหวให้แสดงออกมายามอยู่ลำพัง เธอสวมบทบาทได้ดี ทั้งตอนเป็นสาวมั่นที่เก่งกาจไม่หวั่นไหว และตอนที่ปมปัญหาในอดีตกำลังกลับมากระทบกระเทือนใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เธอทำได้แบบนี้ ผลงานก่อนหน้าอย่าง ‘Mine’ เธอก็ทำให้เห็นเป็นประจักษ์มาก่อนแล้ว

ด้วยเรื่องราวที่เข้มข้นน่าติดตาม การเชือดเฉือนระหว่างตัวหลัก ทั้งตัวละครสมทบที่มากมาย ทั้งหยิบเบื้องหลังชีวิตของชาวเอเจนซี่มาเปิดเผย ไม่แปลกเลยที่จะได้รับเรตติ้งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนตอน

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวซีรีส์ ‘Mine ธาตุแท้’

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์