รีวิวซีรีส์ My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี | ปลดปล่อยหัวใจให้โบยบิน

ช่วงนี้ ซีรีส์เกาหลีในเน็ตฟลิกซ์มักจะมาใหม่พร้อมๆ กัน ทำให้ต้องเริ่มดูเริ่มเขียนไปพร้อมๆ กัน นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง ผลงานจากนักเขียนพัค – Park Hae Young ที่เคยฝากผลงานไว้กับ ‘My Mister’ นั่นไง มาวันนี้ เธอเขียนเรื่องใหม่ หยิบจับเรื่องราวของพี่น้องในครอบครัวมาขีดเขียนอีกเช่นเคย ในเรื่องใหม่ ‘My Liberation Notes’ ชื่อไทย ‘ปล่อยใจสู่เสรี’ ซีรีส์จำนวน 16 ตอนที่เริ่มฉายออนไลน์กันไปตั้งแต่ 9 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวดราม่าผสมโรแมนติก มันเป็นเรื่องชีวิตคนสามคนที่ชีวิตยังไม่ไปไหน อยู่บ้านของพ่อแม่ แต่ไปทำงานในเมืองหลวง ชีวิตติดอยู่ระหว่างบ้านและที่ทำงาน ชีวิตเหมือนถูกกักขังให้อยู่กับที่ไม่ไปไหน ดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความเบื่อหน่ายและความรู้สึกโดดเดี่ยว สิ่งที่พวกเขาต้องการคืออิสรภาพที่ไม่รู้จะเจอวันไหน

แม้ใจเหนื่อยแต่ก็ยังพอมีแรงพยายาม

เรื่องย่อซีรีส์ ‘My Liberation Notes’

มันเป็นเรื่องราวของสามพี่น้องที่ต่างไม่ประสบความสำเร็จในด้านความรักและต้องดิ้นรนในหน้าที่การงาน ทั้งสามยังอยู่กับพ่อแม่ในหมู่บ้านซันโพ แถมยังมีคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วยอีกหนึ่ง

ยอมชางฮี (Lee Min Ki/อีมินกิ จากซีรีส์เรื่อง ‘The Beauty Inside’ และ ‘The Lies Within’) เป็นลูกชายคนกลางที่มุ่งหวังจะออกไปจากบ้านของพ่อแม่เสียที เขาทำงานในบริษัทดูแลร้านสะดวกซื้อ ไร้ซึ่งความฝัน ไม่สมหวังในชีวิตรัก แม้เป็นคนที่ค่อนข้างมีความคิด

ด้านยอมมีจอง (Kim Ji Won/คิมจีวอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Lovestruck in the City’, ‘Arthdal Chronicles’ และ ‘Descendants of the Sun’) ลูกสาวคนสุดท้อง ทำงานออฟฟิศในกรุงโซล เป็นคนที่มีนิสัยเก็บตัว ขี้อาย และโดดเดี่ยว แม้จะเป็นคนหน้าตาดีแต่ก็กลับถูกเพื่อนมองว่าสวยเรียบเกินไป อย่างไรก็ตาม เธอเองก็ปรารถนาจะปลดเปลื้องตัวเองออกไปจากชีวิตที่น่าเบื่อ และต้องการบางอย่างเข้ามาเติมเต็มเช่นกัน

ด้านพี่สาวคนโตอย่าง ยอมกีจอง (Lee El/อีเอล จากซีรีส์เรื่อง ‘A Korean Odyssey’, ‘Black’ และ ‘Goblin’) เธอทำงานเป็นหัวหน้าทีมอยู่ในบริษัทสำรวจตลาด ไม่ค่อยพอใจหน้าตาของตัวเอง ไม่เคยมีใครมาจีบและเริ่มจะหมดหวังกับเรื่องความรัก

ด้วยความที่บ้านนี้มีอาชีพทั้งเกษตรกรรม ปลูกผักทำสวน ไม่พอยังเปิดกิจการรับทำอ่างล้างจานและตู้ พวกเขาจึงรับชายคนหนึ่งมาเป็นลูกมือ เขาคือ มิสเตอร์กู (Son Suk Ku/ซนซอกกู จากซีรีส์เรื่อง ‘D.P.’, ‘Be Melodramatic’ และ ‘Designated Survivor: 60 Days’) คนแปลกหน้าที่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังชีวิตของเขา จู่ๆ เขาก็โผล่มาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ แล้วพ่อแม่ก็รับเขาไว้ทำงาน โดยให้อยู่บ้านข้างๆ เป็นคนพูดน้อย มักจะซื้อเหล้ามากินจนเมามายอยู่คนเดียว ก่อนที่วันหนึ่ง ยอมมีจองก็เลือกจะเดินเข้าไปในชีวิตของเขา

รีวิวซีรีส์ ‘ปล่อยใจสู่เสรี’

ระหว่างดู เรารู้สึกได้ว่าแต่ละคนต่างมีบางอย่างอยู่ในใจและดิ้นรนหาคำตอบที่ใช่ให้กับมัน ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกมืดมนเพราะผจญกับเรื่องเหล่านี้มายาวนาน แรงใจที่ถดถอยยังคงพยายามประคองหล่อเลี้ยงตัวเองเพื่อไม่ให้มอดดับ

การเปลี่ยวเหงาของสี่ตัวละคร

เริ่มที่ยอมมีจอง เป็นลูกสาวคนเล็กที่พ่อของเธอไว้เนื้อเชื่อใจที่สุด ดูเป็นคนที่พ่อแม่รู้สึกพึ่งพาได้มากที่สุด ดูเป็นคนเรียบร้อย ไม่มีปากมีเสียง เอาแต่ครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียว วันธรรมดาเธอเดินทางด้วยรถบัสต่อด้วยรถไฟฟ้าเข้าสู่กรุงโซล ทำงานในบริษัทที่ชื่อ Joy แต่ชีวิตการทำงานของเธอหาได้จอยไม่ ถูกเจ้านายผู้ชายกดขี่ มีเพื่อนร่วมงานผู้หญิงก็เอาแต่เม้าท์และพยายามสอบถามแต่เรื่องที่เธอไม่อยากตอบ แม้จะมีความสวยแต่ก็เรียบเกินไปจนแทบไม่ดึงดูดให้ใครเข้ามา

พอวันหยุด ยอมมีจองก็ต้องมาช่วยเหลืองานที่บ้าน แถมยังต้องปกปิดไม่ให้พ่อแม่รู้เรื่องที่เธอให้ผู้ชายหยิบยืมเงินแล้วชิ่งจนถูกตามทวงหนี้ ชีวิตแบบนี้มันน่าเหนื่อยใจไหมล่ะทุกคน?

ด้านยอมกีจอง พี่สาวคนโตที่ชีวิตทำให้เธอรู้สึกเหมือนสาวทึนทึกที่หาคนข้างกายไม่ได้สักที แต่ดูเหมือนการได้กรรมการเป็นไลฟ์โค้ชเริ่มจะทำให้ชีวิตเธอมีหนทางไปมากขึ้น แต่ที่ดีไปกว่านั้น คือ การที่เธอได้พบกับโจแทวอน (Lee Ki Woo/อีคีอู) เขาเป็นทั้งพ่อหม้ายลูกติด เป็นน้องชายของเพื่อน ทั้งเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนร่วมชมรมของน้องสาว ก่อเกิดความหวังและแสงสว่างในชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

ยอมชางฮี ลูกชายคนกลางที่ยังไม่อาจจากบ้านไปไหน เขายังคงเป็นชายที่เผชิญกับเรื่องรักๆ เลิกๆ ไม่หยุดหย่อน ในที่ทำงานอย่างบริษัทดูแลร้านสะดวกซื้อก็ต้องเจอปัญหาหลายหลากโดยเฉพาะปากคน พยายามจะสร้างรายได้ทางใหม่ๆ ให้กับครอบครัวก็โดนพ่อขัด อยากจะมีรถเผื่อว่าสาวๆ จะมองมั่งก็ถูกพ่อขัดอีกเช่นกัน สุดท้ายก็ไม่ได้ไปไหนสักที

ด้านมิสเตอร์กู หรือคุณกู ผู้ไม่ยอมเปิดตัวตน ไม่มีใครรู้ชื่อจริง ไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขามาจากไหน เคยเป็นอะไรมาก่อน เขาเข้ามาเป็นลูกจ้างที่พูดน้อยทำมาก ลุยงานหนักไม่เคยปริปาก แต่เสร็จงานก็เอาแต่เมาหัวราน้ำอยู่คนเดียวทุกวี่วัน การเข้ามาของยอมมีจองจะเปิดเผยตัวตนของเขาออกมาได้แค่ไหนนะ?

ซีรีส์เล่นกับเลข 3

เท่าที่มองเห็นในซีรีส์เรื่องนี้ ค่อนข้างจะมีเลข 3 อยู่หลายที่ หนึ่งคือ ครอบครัวนี้มีลูกอยู่ 3 คน พี่น้องทั้งสามต่างก็โตจนมีงานมีการทำแล้วแต่ก็ยังคงอยู่ในบ้านเดียวกันกับพ่อแม่ เหมือนกับในซีรีส์ ‘My Mister’ เลย ที่บอกเล่าเรื่องราวของสามพี่น้อง ทั้งสองเรื่องเล่าถึงการดิ้นรนเหมือนๆ กัน ต่างแค่ประเด็นในการดิ้นรนเท่านั้น

บริษัทที่ยอมมีจองทำงานอยู่นั้น ก็พยายามเหลือเกินที่จะทำให้เธอเข้าร่วมชมรมใดสักชมรมหนึ่ง ที่นั่น การมีชมรมอาจดูคล้ายกรงขังรูปแบบหนึ่ง เธอรู้สึกอึดอัดจนต้องร่วมกับพนักงานบริษัทอีกสองคนก่อตั้งชมรมกันขึ้นมาเอง “ชมรมอิสรภาพ” ที่มีสมาชิก 3 คน และแต่ละคนต่างช่วยกันค้นหามันร่วมกัน

เรื่องราวที่ค่อนข้างเรียล แต่ก็แอบเนือยอยู่เหมือนกัน

ซีรีส์เรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของคนที่ดูใกล้เคียงกับชีวิตจริงๆ ของเรา บางคนอาจยังมีชีวิตที่ติดอยู่ในวังวนของที่ทำงานและพ่อแม่ ปัญหาหลายอย่างในที่ทำงาน ไม่เคยถูกหยิบมาสนทนาในบ้าน ได้แต่เก็บและคิดวนอยู่ในหัว ขณะที่เรื่องราวในบ้านก็ทำเอาหมดแรงจะยิ้ม ยิ่งมาเจอกับสภาพของการเดินทางไปกลับระหว่างโซลกับบ้านที่อยู่ห่างไกลอีก ตัวละครจะเกิดอาการหมดไฟก็คงจะไม่แปลก

แต่ดูเหมือนพวกเขายังคงดิ้นรนหาทางออกให้กับตัวเองอยู่ น้องคนเล็กอย่างยอมมีจอง ผู้มีสีหน้าเย็นชา ไม่เคยยิ้มให้ใคร เลี่ยงการเข้าสังคม และรู้สึกตีบตันในการหาคนรู้ใจ ที่ผ่านมา เธอไม่เคยรู้สึกชอบใครเลยสักคน จึงพยายามค้นหาหนทางใหม่ เลือกจะเดินเข้าไปและคบผู้ชายโดยไม่ต้องใช้เงื่อนไขเดิมๆ ทว่าการเลือกชายหนุ่มลึกลับภายในหมู่บ้าน ก็คงต้องเตรียมใจรับแรงกระแทกกันหน่อยแหละ

บางคนอาจพยายามหลบหนีตัวเองไปอยู่ที่ใหม่ที่ไม่เคยมีใครรู้จัก มิสเตอร์กูคือตัวแทนของคนเหล่านั้น แต่เขาจะหลบมันได้นานสักเพียงไหนกัน ถ้าวันหนึ่ง หัวใจของเขาต้องยึดโยงอยู่กับใครอีกคน ตัวตนที่ปิดไว้ก็อาจต้องเผยออกมา

ซีรีส์ที่ค่อนข้างเดินไปอย่างเชื่องช้า อาจรู้สึกได้ว่าเรื่องราวในแต่ละตอนๆ ไม่ค่อยจะเดินไปไกลนัก ระหว่างทางมีแต่บทสนทนาที่ยืดยาว การรับชมจึงอาจต้องปรับใจให้เดินช้าตามไปด้วย ถ้ามีเวลาก็ลองฟังบทสนทนาของพวกเขา อาจได้กระเทาะความจริงของชีวิตเพิ่มขึ้นมาได้บ้าง

ระหว่างนั้นก็เอาใจช่วยพี่น้องทั้งสาม ให้ก้าวผ่านไปยังสิ่งที่มุ่งหวัง ค้นพบคำตอบ และยิ้มรับทุกวันใหม่ที่ผ่านเข้ามา

อยากไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านใช่หรือไม่? ค้นหาเที่ยวบินและที่พักที่ใช่ ได้ที่นี่!

จะเป็นเที่ยวเดียวหรือไป-กลับ ไม่ว่าเป็นภายในประเทศไทย หรือไต้หวัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ UAE ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เลือกวัน เวลา และค่าใช้จ่ายที่ต้องการได้ทันที พร้อมบริการจองโรงแรม-ที่พัก ครบจบในที่เดียว!

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์