รีวิวซีรีส์ Stranger Things 5 | บทสรุปของวิกฤติเรื่องประหลาดในฮอว์กินส์
แล้วซีซันสุดท้ายของซีรีส์อันดับต้นๆ ใน Netflix ก็มาถึงจนได้ เรื่องราวของเหล่าเด็กเนิร์ดและผู้คนในเมืองฮอว์กินส์ที่ต้องผจญกับเรื่องลึกลับและเลวร้ายไม่รู้จักจบสิ้น จากวันที่เริ่มต้น มันกล่าวถึงแล็บทดลองลับของรัฐบาลที่ก่อเกิดเรื่องประหลาด ผ่านมาจนถึงวันที่เราได้รู้จักกับโลกกลับด้านสัตว์ประหลาดต่างๆ จนได้มาพบกับปีศาจเวคน่า บัดนี้ ก็คงได้เวลาที่เราจะรู้บทสรุปของ ‘Stranger Things 5’ กันเสียทีนะครับทุกคน
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์ชื่อดังจากเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้?
เหตุประหลาดของเมืองฮอว์กินส์ ดำเนินมาถึงซีซันสุดท้ายแล้ว ผู้ชมจะได้ล่วงรู้ถึงแผนการที่แท้จริงของปีศาจเวคน่า และก็ได้เวลาที่หนุ่มสาวประสานมือผู้ใหญ่ร่วมกันจัดการมันให้สิ้นซากซะที วิลที่เริ่มรู้วิธีจัดการมัน แอลที่เก่งกล้าขึ้นมาก เช่นเดียวกับกลุ่มแก๊งที่ร่วมแรงร่วมใจกันกำจัดเฮนรี่ เด็กหนุ่มที่กลายร่างเป็นปีศาจได้ พร้อมหวังปิดจ๊อบหนนี้ซะทีไม่ว่าต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม
ซีซัน 5 มี 8 ตอน แบ่งฉายเพื่อหวังผลให้คนติดตามและสร้างการพูดถึง ไม่ว่ายังไงคนดูที่ตามมาตลอดต้องเอาใจช่วยให้พวกเขาทำสำเร็จอย่างแน่นอน
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Stranger Things 5’
เรื่องราวในซีซันสุดท้ายนี้ เล่าถึงปีศาจเวคน่าที่กำลังคิดการใหญ่หลังมันแยกเมืองออกเป็นสองฟาก หลายจุดของเมืองมีแผ่นเหล็กวางปูอยู่ราวกับปะยางจักรยาน ขณะคนเมืองฮอว์กินส์เหมือนถูกขังให้อยู่แต่ในเมือง ทางการทหารเองก็ตั้งฐานทดลองแม็คซีขึ้น และแมกซ์ (Sadie Sink จากหนังเรื่อง ‘The Whale’) ก็อยู่ในสภาพโคม่าหลับไหลไม่ได้สติ
ฮอลลี่ วีลเลอร์ (Nell Fisher จากหนังเรื่อง ‘Evil Dead Rise’) น้องนุชคนสุดท้องของแนนนซี่ (Natalia Dyer จากหนังเรื่อง ‘Things Heard & Seen’) กับไมค์ (Finn Wolfhard จากหนังเรื่อง ‘It’) นั้นก็โตขึ้นมากแล้ว บ้านของเธอรับเอาครอบครัวไบเออร์สเข้ามาอยู่ด้วย เลยค่อนข้างจะคนเยอะเป็นพิเศษ
อีกสิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงก็คือ โรบิน บัคลีย์ (Maya Hawke จากหนังเรื่อง ‘Inside Out 2’) กลายเป็นดีเจและประจำอยู่ที่กะต๊าก มีผู้ช่วยเป็น สตีฟ แฮร์ริงตัน (Joe Keery) ที่ยังอยู่ในช่วงการแย่งชิงหัวใจของแนนซี่กับโจนาธาน ไบเออร์ (Charlie Heaton จากหนังเรื่อง ‘Shut In’)
ดัสติน เฮนเดอร์สัน (Gaten Matarazzo) ยังคงชอบใส่เสื้อเฮลไฟร์คลับ ส่วนหนึ่งในใจยังคงเจ็บปวดกับการจากไปของเอ็ดดี้ ส่วนเจน ฮอปเปอร์ หรือแอล (Millie Bobby Brown จากหนังเรื่อง ‘Godzilla: King of the Monsters’) ก็หายตัวไปซุ่มไปฝึกวิชาอยู่กับจิม (David Harbour) และจอยซ์ (Winona Ryder) แม่ของวิล ซึ่งต้องบอกว่าพลังของเจนพัฒนาไปมากมายจริงๆ
พวกเขารวมหัวกันสร้างปฏิบัติการคลาน ภารกิจลาดตระเวนเพื่อตามหาเว็คน่า จิมไม่ยอมให้แอลลงไปเพราะมองว่าเวคน่าก็ตามหาแอลอยู่
รีวิวซีรีส์ ‘สเตรนเจอร์ ธิงส์ 5’
เรื่องราวที่งวดเข้ามาทุกที ก็นี่มันซีซันสุดท้ายของสเตรนเจอร์ ธิงส์แล้วนี่นา เหล่าตัวเอกแห่งเมืองฮอว์กินส์ออกแนวเล่นเกมรุกมากขึ้น พวกเขาออกลาดตระเวณในอุโมงค์ใต้ดินกันบ่อยขึ้นเพื่อตามหาตำแหน่งที่อยู่ของปีศาจเวคน่า เช่นเดียวกับเวคน่าที่ก็กำลังตามหาแอลอยู่เช่นกัน ซีซันนี้ คนดูจะได้ล่วงรู้ความมุ่งหมายของปีศาจเวคน่าว่าเขาต้องการทำอะไร
หลังสั่งสมรวบรวมพลังจนแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว เวคน่า (ที่ถูกเฉลยว่า เขาคือ เฮนรี่ (Jamie Campbell Bower จากหนังเรื่อง ‘The Mortal Instruments: City of Bones’) ตัวละครคนสำคัญในการทดลองของ ดร.เบรนเนอร์) กำลังรวบรวมเหล่าเด็ก ๆ ให้เพียงพอจะกระทำการบางอย่าง บางอย่างที่ว่านั่นคือการนำพาโลกทั้งสองเข้ามารวมกัน และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นโลกใหม่ที่เวคน่าคือผู้ยึดครอง
ซีซันที่ห้านี้ ถูกเน็ตฟลิกซ์ออกเป็น 3 ขยัก ขยักแรกเป็น EP. 1-4 สี่ตอนแรกที่บอกเล่าเรื่องราวการออกตามหาซึ่งกันและกัน พร้อมเปิดเผยร่องรอยบางสิ่งที่ได้รับการอธิบายในขยักต่อไป
และซีซันนี้ เราก็จะได้เห็นฮอลลี่ที่โตและมีบทบาทมาก Nell Fisher เป็นเด็กที่น่ารักมาก และบทของเธอก็สำคัญกับซีซันนี้อย่างมากเช่นกัน เพราะเธอจะพาเราไปพบกับคุกที่เกิดจากความทรงจำและจิตใต้สำนึกของเฮนรี่ ดินแดนที่เธอเรียกมันว่า คามาซอตช์
ไม่ใช่แค่น้องเนลล์ แต่ก็ยังมีตัวละครเด็กเปรตอย่าง แดเร็ค (Jake Connelly) ที่ผู้ชมจะรู้สึกเกลียดมันในนาทีแรก ก่อนจะเอ็นดูในช่วงถัดมา อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเขาอยู่กับเรื่องราวมาตั้งแต่นาทีแรก นั่นคือ วิล ไบเออร์ส (Noah Schnapp จากหนังเรื่อง ‘Bridge of Spies’) ที่บทบาทของเขาเชื่อมโยงกับเวคน่าอย่างเหนียวแน่น คราวนี้ เขาเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็นพลังวิเศษได้ด้วย ทำให้ซีซันนี้เราจะได้เห็น พลังที่เพิ่งค้นพบของวิลเลี่ยม และพลังของเจนที่รุดหน้าไปมาก
อีกคนที่อาจจะไม่ถึงกับมีบทมากนัก แต่เธอคือนักแสดงคนสำคัญ ดร. เคย์ (Linda Hamilton) ทหารนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวหน้าที่คุมการทดลองนั่นเอง
ตอนที่ 4 เป็นตอนที่สนุกสุด ลุ้นสุด intense สุด เราจะได้พวกหมาเดโมอย่างเยอะที่ออกมาอาละวาด และที่ขาดไม่ได้คือเวคน่า คนดูเลยต้องลุ้นระทึกเอาใจช่วยแก๊งตัวละครหลักให้รอดพ้น
เมื่อมันเดินมาถึงขยักที่สอง EP. 5-7 ของซีซันสุดท้าย เรื่องราวช่วงนี้ อาจถูกมองได้ว่ามันไม่ค่อยเดินไปไหน คงเพราะโดยส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมมือกันของทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ในเมืองฮอว์กินส์เพื่อเอาชนะเวคน่า และพาทุกคนกลับคืนโลกแห่งความจริง
ทุกคนคงได้เห็นแมกซ์นอนหลับไหลอยู่ในโรงพยาบาล ก่อนพบว่าที่แท้เธอติดอยู่ในแคมาซ็อตช์ (คุกของเฮนรี่) ส่วนฮอลลี่และแดเร็คถูกเวคน่าจับตัวไปเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นเพราะเวคน่ามองว่าเด็กนั้นจิตใจอ่อนแอและถูกชักนำได้ง่าย ส่วนตัวละครที่เหลือ บ้างก็อยู่ในโลกกลับด้าน บ้างก็ยังอยู่ในโลกของเรา พวกเขาต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่อพาที่เหลือกลับมาอยู่ด้วยกัน
ไม่เท่านั้น มันยังเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับโลกกลับด้านที่แลดูน่ากลัว อาจเป็นคำอธิบายของหลายสิ่งที่ชวนสงสัยกันมา แต่สำหรับคนที่ชอบเอาความจริงมาผสมก็อาจจะรู้สึก “เหรอ?” คิดไปอีกที ก็ตามประสาซีรีส์ไซไฟแฟนตาซีสไตล์เยาวชนทั่วไป ไม่ใช่ไซไฟจ๋าที่จะต้องยึดโยงกับความสมจริงขนาดนั้น
สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นเลยคือ เฮนรี่นั้นนอกจากจะมีพลังจิตและแปลงร่างเป็นปีศาจเวคน่าได้แล้ว ก็ยังมีความสามารถในการปั่นหัวเด็ก ๆ ด้วย แต่แม้จะเก่งขนาดนั้น แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ จึงยังมีจุดอ่อนหรือบาดแผลในจิตใจ จนเปิดให้แมกซ์เข้าไปหลบซ่อนตัว และเจอกับฮฮลลี่ที่มีความกล้ามากพอจะทำให้เกิดอะไรขึ้นมาได้
บทซีรีส์มีพื้นที่พอให้หยิบแง่คิดสอนใจเด็ก วัยรุ่น รวมไปถึงผู้ใหญ่ อย่างเช่น ความรู้สึกผิดที่เกาะกินจอยซ์ ซึ่งมันก็อาจเกิดขึ้นกับเราด้วยเช่นกันและมันต้องใช้เวลากว่าสลัดมันหลุดไปได้ หรือบทที่ให้กำลังใจเหล่าเด็ก บอกให้มีความกล้าและเข้มแข็ง กระตุ้นเร้าให้พวกเขาปลุกมันขึ้นเพื่อนำทางกลับบ้าน กลับสู่โลกที่เป็นของพวกเขา นอกจากนี้ ก็ยังเขียนบทอย่างคนเข้าใจความรู้สึกของคน LGBTQ+ ในเรื่องนี้ มีทั้งโรบินและวิลที่เหมือนจะมองตาก็เข้าใจซึ่งกัน
ในซีซันนี้ เราจะได้ล่วงรู้จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของปีศาจเวคน่า และเหล่าตัวละครนำจะต้องหยุดยั้งและสังหารเฮนรี่ (หรือที่จริงก็คือเว็คน่า) ให้สำเร็จ
ภารกิจครั้งสุดท้าย จะต้องใหญ่ที่สุด ครั้งนี้จะมีคนตายจริง และตัวละครนำจะต้องใช้กระสุนจริงเพื่อฆ่าเหล่าทหาร หลังจบ EP.7 ไป ก็คงต้องให้เวลาก่อนที่ EP.8 ตอนสุดท้ายของซีซันสุดท้ายจะเดินทางมาถึงกันแหละครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
| ชื่อซีรีส์ | Stranger Things 5 / สเตรนเจอร์ ธิงส์ 5 |
| ผู้สร้าง | Ross Duffer, Matt Duffer |
| ผู้กำกับ | Matt Duffer, Ross Duffer, Shawn Levy, Frank Darabont |
| ผู้เขียนบท | Matt Duffer, Ross Duffer, Ross Duffer, Caitlin Schneiderhan |
| นักแสดง | Millie Bobby Brown, Finn Wolfhard, Winona Ryder, David Harbour, Gaten Matarazzo, Caleb McLaughlin, Natalia Dyer, Charlie Heaton |
| แนว/ประเภท | ดราม่า, แฟนตาซี, สยองขวัญ, ลึกลับ, ไซไฟ, ระทึกขวัญ |
| จำนวนตอน | ซีซัน 5: 8 ตอน |
| ช่องทางรับชม | Netflix |
| เริ่มออกอากาศ | EP.1-4: 27 พฤศจิกายน 2025 EP.4-7: 26 ธันวาคม 2025 EP.8: 1 มกราคม 2026 |
| ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | 21 Laps Entertainment, Monkey Massacre, Netflix |
คะแนนรีวิว สเตรนเจอร์ ธิงส์ 5
พล็อตและบท - 7.5
การแสดง - 7.8
การดำเนินเรือ่ง - 7.8
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 8.4
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.6
7.8
Stranger Things 5
เหตุประหลาดของเมืองฮอว์กินส์ ดำเนินมาถึงซีซันสุดท้ายแล้ว ผู้ชมจะได้ล่วงรู้ถึงแผนการที่แท้จริงของปีศาจเวคน่า และก็ได้เวลาที่หนุ่มสาวประสานมือผู้ใหญ่ร่วมกันจัดการมันให้สิ้นซากซะที วิลที่เริ่มรู้วิธีจัดการมัน แอลที่เก่งกล้าขึ้นมาก เช่นเดียวกับกลุ่มแก๊งที่ร่วมแรงร่วมใจกันกำจัดเฮนรี่ เด็กหนุ่มที่กลายร่างเป็นปีศาจได้ พร้อมหวังปิดจ๊อบหนนี้ซะทีไม่ว่าต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ซีซัน 5 มี 8 ตอน แบ่งฉายเพื่อหวังผลให้คนติดตามและสร้างการพูดถึง ไม่ว่ายังไงคนดูที่ตามมาตลอดต้องเอาใจช่วยให้พวกเขาทำสำเร็จอย่างแน่นอน













