การเป็นผู้ใหญ่มันหมายถึงการผ่านอะไรมาทุกอย่าง ทั้งสุข เศร้า เหงา ทุกข์ ทั้งอารมณ์แห่งความสับสน ประสบการณ์ที่มาพร้อมกับอารมณ์ผสมกันทำให้มันกลายเป็นความทรงจำเฉพาะตัวของเรา อารมณ์อันซับซ้อนของมนุษย์นี่ช่างเข้าใจยากถ้าจะหยิบมาให้เด็กก็เข้าใจได้ ผู้ใหญ่ก็เข้าถึงดี วิธีการของ Pixar Animation ที่จะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ก็คือ แบ่งข้างนอกกับข้างใน แล้วเล่ามันพร้อมกันเสีย มันเลยกลายมาเป็นแอนิเมชั่นอย่าง ‘Inside Out’ ไงครับ
หลายคนอาจจะรู้สึกอยู่บ้างว่า ผลงานในช่วงหลังๆ ของ Pixar นั้นไม่ค่อยจะเปรี้ยงปร้างในด้านคำชมสักเท่าใดนัก แต่เมื่อได้ชมแอนิเมชั่นเรื่องนี้จบลง ใจผมมันบอกว่า Pixar กลับมาแล้ว กับการสร้างสรรค์ทั้งด้านเนื้อหา ภาพ และเสียงที่สมบูรณ์ในทุกองค์ประกอบจนต้องยกนิ้วให้ เพราะมันคือเรื่องราวของคนทุกคนบนโลกนี้ ที่เราต้องผ่านวัยทารก วัยเด็ก วัยรุ่น จนมาถึงวัยผู้ใหญ่ เราเติบโตมาพร้อมๆ กัน ทั้งพัฒนาการทางด้านร่างกาย
และพัฒนาการทางด้านอารมณ์
ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ไรลีย์ยังเป็นเด็กน้อย อารมณ์ของเธอยังไม่ค่อยซับซ้อน จนเธอเริ่มเข้าเรียน อารมณ์ของเธอก็เริ่มซับซ้อนขึ้น หนังแยกแยะให้เราได้รู้จักตัวอารมณ์ที่อยู่ในข้างในของไรลีย์ทั้งห้า ที่มี Joy (ลั้ลลา), Sadness (เศร้าซึม), Anger (ฉุนเฉียว), Fear (กลั๊วกลัว) และ Disgust (หยะแหยง) ซึ่งทั้งหมดจะคอยผลัดกันมาทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ของไรลีย์ในแต่ละขณะเวลา
ไม่พอ ‘Inside Out’ ยังจำลองกระบวนเก็บ ลบ ฝัง รวมไปถึงกระบวนข้างเคียงที่อยู่กับเรามานานเท่าอายุขัย ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนในจินตนาการ ความฝัน ความคิด จิตใต้สำนึก ความสลับซับซ้อนของการจัดระบบความคิดของมนุษย์มากันพร้อมหน้า พวกเขาอธิบายมันด้วยวิธีการอันแยบยล การดำเนินเรื่องที่สลับกันไประหว่างข้างในและข้างนอกเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าสนใจตลอดช่วงเวลาของหนัง ไหลลื่นไม่มีสะดุดจนประทับใจไปกับทั้งเรื่อง
ซึ่งต้องยกผลประโยชน์ให้กับฝ่ายเขียนบทและตัดต่อเป็นสำคัญ
จินตนการที่บรรเจิด การดำเนินเรื่องไหลลื่น ผสานเข้ากับเรื่องราวที่มนุษย์ทุกผู้ต้องเคยผ่าน เหตุการณ์ในวัยเด็ก ความเจ็บปวดและความสุขในวัยเยาว์ ที่คละเคล้ากันเป็นประสบการณ์และความทรงจำ หล่อหลอมจนกลายเป็นเราในปัจจุบัน ทุกอย่างในหนังจึงพร้อมจะทำให้เชื่อได้อย่างไร้เงื่อนไขแม้ว่านั่นจะเป็นเพียงภาพเคลื่อนที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ ใส่สีสันและเรื่องราวมันออกจะแฟนตาซี
เมื่อ Joy ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มตัวอารมณ์ผู้วาดหวังจะให้ไรลีย์เติบโตมาพร้อมๆ กับความสุข ต้องพบว่า Sadness กำลังทำผิดพลาดกับความทรงจำถาวรของเด็กน้อย พวกเธอทั้งสองหลุดเข้าไปในเขาวงกตที่เก็บความทรงจำทั้งหมดเอาไว้ ตอนนี้หนูน้อยกลายเป็นเด็กเจ้าอารมณ์และกำลังตัดสินใจผิดๆ มีแต่ Joy เท่านั้นที่จะทำให้ไรลีย์กลับมาสดใสได้ เธอต้องเอาชนะทุกอุปสรรคเพื่อให้ได้ไรลีย์คนเดิมกลับมา
‘ข้างใน’ นั้นคือระบบที่แสนใหญ่ที่มีผลต่อ ‘ข้างนอก’ มากมายนัก
แอนิเมชั่นที่สุดมหัศจรรย์จากพิกซาร์เรื่องนี้ นอกจากจะแยบยลในการเล่าเรื่องไม่พอ ยังได้ให้แง่คิดกับเรา สอนเราโดยไม่ยัดเยียดอีกต่างหาก นับว่าบทดีเยี่ยมจนน่าจะเป็นตัวเก็งคว้าออสการ์แอนิเมชั่นปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ
แต่เชื่อไหมว่า ผมดูแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ผมได้ทั้งยิ้ม หัวเราะ เสียน้ำตา และเอาใจช่วยให้ภารกิจของ Joy และเพื่อนๆ ตัวอารมณ์ทั้งสี่ให้ผ่านพ้นและสำเร็จอย่างที่มุ่งหมาย ทั้งที่มันก็เป็นแค่ตัวอารมณ์ของไรลีย์เท่านั้น ในขณะที่น้ำตายังไม่เหือดแห้งไปจากเบ้าตาดีนัก หนังก็จบลงพร้อมกับฉากแถมช่วงแอนด์เครดิต ที่พาเอาผมขำกลิ้งหยุดไม่อยู่ พลางคิดในใจว่า…
“เออว่ะ มันใช่จริงๆ Pixar กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งแล้ว”
ชื่อภาพยนตร์: Inside Out / มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Pete Docter, Ronaldo Del Carmen
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Pete Docter (story), Ronaldo Del Carmen (story) (as Ronnie del Carmen), Meg LeFauve (screenplay by), Josh Cooley (screenplay by), Pete Docter (screenplay by), Amy Poehler (additional dialogue), Bill Hader (additional dialogue)
นักแสดงนำ: Amy Poehler, Bill Hader, Lewis Black, Richard Kind, Phyllis Smith, Mindy Kaling, Kaitlyn Dias
ความยาว: 94 นาที
แนว/ประเภท: Animation, Adventure, Comedy, Drama, Family, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/ท , MPAA/PG
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 12 สิงหาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Pixar Animation Studios, Walt Disney Pictures
มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง
Inside Out - 9
9
Inside Out
แอนิเมชั่นที่สุดมหัศจรรย์จากพิกซาร์เรื่องนี้ นอกจากจะแยบยลในการเล่าเรื่องไม่พอ ยังได้ให้แง่คิดกับเรา สอนเราโดยไม่ยัดเยียดอีกต่างหาก นับว่าบทดีเยี่ยมจนน่าจะเป็นตัวเก็งคว้าออสการ์แอนิเมชั่นปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ
2 คอมเมนต์