แอนิเมชัน

รีวิวหนัง Lightyear | บัซ ไลท์เยียร์ ผู้เด็ดเดี่ยวกับหุ่นเหมียวตัวขโมยซีน

นักบินอวกาศอีโก้สูงที่ต้องทดสอบเซลพลังงานเพื่อหาทางกลับสู่โลก สนุกดี มีหุ่นแมวตัวขโมยซีน

ในวันเก่า เราต่างได้รู้จักกับเหล่าของเล่น หนึ่งในนั้นก็คือนักบินอวกาศ ‘Lightyear’ หรือ ‘บัซ ไลท์เยียร์’ ผู้ที่อยู่เคียงข้างนายอำเภอ ‘วู้ดดี้’ ของเล่นชิ้นโปรดของ แอนดี้ มาโดยตลอด ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้แอนดี้และผองเพื่อนในหลาย ๆ เรื่อง จนวันหนึ่ง แองกัส แมคเลน ก็เกิดอยากสร้างภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องของของเล่นชิ้นนี้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริงขึ้นมา ในที่สุด ก็ถึงวันที่เราจะได้ดูเรื่องราวเหล่านั้นกันเสียที

ภาพจากหนังแอนิเมชัน 'Lightyear'
ภาพจากหนังแอนิเมชัน ‘Lightyear’

จากที่เคยเป็นคู่หูเพื่อนซี้มาตลอด 27 ปี วันนี้ หุ่นยนต์ของเล่นสุดอมตะขอฉายเดี่ยวในภาพยนตร์เรื่องใหม่ หนังที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของนักบินอวกาศขวัญใจของผู้คนจนวันหนึ่งกลายเป็นของเล่นในหนัง ‘Toy Story’ ทั้งสี่ภาค แต่จะว่าออกเดี่ยวก็ไม่เชิง เพราะเขามีอีกตัวละครมาร่วมวาดลวดลายอยู่ในนั้นด้วย

ป่านนี้ ทุกคนอาจจะรู้กันไปแล้วก็ได้ว่า ตัวนั้นมันคือใคร


เรื่องย่อหนังแอนิเมชัน ‘Lightyear’

ครั้งนี้ เราจะได้พบกับเรื่องราวการผจญภัยของคาแรกเตอร์นักบินอวกาศที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน บัซ ไลท์เยียร์ (Chris Evans จากหนังเรื่อง ‘Captain America’, ‘Knives Out’ และ ‘Free Guy’) เคยเป็นนักบินอวกาศผู้ที่มีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวและรักในอาชีพของตนเองมาก แต่เพราะภารกิจก็เลยทำให้ต้องติดแหง็กอยู่บนดาวเคราะห์ร้างที่ห่างไกลจากโลกถึง 4.2 ล้านปีแสง

ฐานทัพจึงถูกเร่งสร้างขึ้นด้วยความจำเป็น ภารกิจอันดับแรกของไลท์เยียร์คือการทดสอบยานอวกาศลำใหม่ พร้อมต้องคิดค้นแหล่งพลังงานที่จะทำให้ไฮเปอร์ไดร์ฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อหาหนทางกลับสู่โลก ที่นี่ ไลท์เยียร์ทำงานร่วมกับ เอลิชา ฮอว์ธอร์น (Uzo Aduba จากซีรีส์ ‘Orange Is the New Black) แต่ทุกครั้งที่เขากลับมาก็จะพบว่า เวลาที่ดาวผ่านไปเร็วจนเหมือนเขาเดินทางข้ามเวลา

ตัวอย่างหนังแอนิเมชันเรื่อง ‘บัซ​ ไลท์เยียร์’ [ซับไทย]

อยู่ที่นี่ บัซ ไลท์เยียร์ ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะเขามีซ็อกซ์ (Peter Sohn จากหนังเรื่อง ‘Luca’, ‘The Good Dinosaur’ และ ‘Monsters University’) หุ่นยนต์แมวเหมียวคอยเป็นเพื่อนคู่ใจ แถมมันก็ไม่ได้เป็นแค่หุ่นยนต์แมวที่คอยมาทำตัวน่ารักและทำให้ไลท์เยียร์ไม่เหงา เพราะมันทำอะไรได้อีกตั้งมากมาย

ภารกิจครั้งนี้ของไลท์เยียร์จะนำพาให้เขาได้พบกับประสบการณ์หลายอย่าง เขาจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพหุ่นยนต์เอเลี่ยนของเซิร์ก (James Brolin จากซีรีส์เรื่อง ‘Sweet Tooth’) ผู้แสนโหดเหี้ยม และได้พบเจอทีมใหม่ๆ มิตรภาพดีๆ พร้อมๆ กับการค้นหาตัวเองไปด้วย


รีวิวหนังแอนิเมชัน ‘บัซ ไลท์เยียร์’

พิกซาร์กลับมาเล่าเรื่องง่ายๆ ได้สนุกสนานอีกครั้ง ด้วยคาแรกเตอร์ที่คนคุ้นเคยในหนังของเล่นทั้งสี่ภาค โดยเขาหันไปเล่าที่มาของคาแรคเตอร์ ‘บัซ ไลท์เยียร์’ หนึ่งในของเล่นชิ้นโปรดของ แอนดี้ แต่กว่าจะได้พบเรื่องราวนั้น ก็ต้องรอกันนานถึง 27 เลยแหละครับ

ภารกิจของนักบินอวกาศที่ดันติดแหง็กอยู่บนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง

ดาวเคราะห์ร้างที่มีชื่อว่า T’kani Prime ดวงนี้ นอกจากจะห่างไกลจากโลกถึง 4.2 ล้านปีแสงแล้ว ที่นั่นยังมีทั้งพืชขี้เล่น ชอบรัดและลากไปไหนมาไหนอยู่เรื่อย ไม่พอยังมีแมลงตัวยักษ์ที่คอยก่อกวนอีก แม้ดูจากสภาพอากาศแล้ว มนุษย์ก็ยังสามารถหายใจได้อย่างปกติสุข แต่เพราะอุบัติเหตุบางอย่างทำให้ยานไปต่อไม่ไหว ต้องใช้เชลพลังงานที่เหมาะสมถึงจะไปต่อได้ ภารกิจในการทดสอบยานจึงตกเป็นของ บัซ ไลท์เยียร์ ผู้ที่มุ่งมั่นขับยานครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยมุ่งหวังจะพามนุษย์กลับสู่โลกอีกครั้ง

เรื่องราวมันเป็นแอนิเมชันสำหรับเด็กนั่นแหละ เพราะฉะนั้น มันจึงมีความไม่สมจริงอยู่บางส่วน บวกกับเนื้อหาที่ไม่เชิงซับซ้อน แต่ก็มีบ้างที่ต้องใช้เวลาอธิบาย ทั้งภารกิจของบัซก็ไม่ได้มีอะไรยาก นอกจากการขับยานอวกาศออกไปทดสอบไฮเปอร์ไดร์ฟเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ตามมา

ภาพจากหนังแอนิเมชัน 'Lightyear'
ภาพจากหนังแอนิเมชัน ‘Lightyear’

สิ่งที่ทำให้ผู้ชมสนุกสนานกับแอนิเมชันภาคสปินออฟเรื่องนี้อย่างมาก คงหนีไม่พ้น หุ่นยนต์แมวเหมียวสาระพัดประโยชน์อย่าง ซ็อกซ์ (Sox) นอกจากนี้ หนังก็ยังนำเอาเจ้าหุ่นยักษ์ตัวร้ายที่เคยอยู่ใน ‘ทอย สตอรี่’ อย่างเซิร์ก ให้กลับมาโลดแล่นในฐานะตัวร้ายของหนังอีกด้วย

หยิบภาพจำของหนังหลายเรื่องมายำจนกลมกล่อม

อย่างที่พูดถึงไปในหัวข้อก่อน หุ่นยนต์แมวเหมียวที่ดูสาระพัดประโยชน์ก็คงไม่ต่างอะไรกับ R2D2 ในหนังมหากาพย์อย่าง ‘Star Wars’ แต่เพราะมันเป็นทั้งหุ่นที่มีรูปลักษณ์และนิสัยแบบแมวๆ มันจึงชวนให้รู้สึกน่ารักและอยากได้มาเป็นของเล่นตัวโปรดในบ้านมากขึ้นโขเลย

นอกจากนี้ ‘บัซ ไลท์เยียร์’ ก็ยังเก็บเอาภาพจำต่างๆ ของ ‘Star Wars’ เข้ามาไว้ในหลายส่วนของหนังด้วย

ในพาร์ทของเรื่องราว หนังแอนิเมชันเรื่องนี้มีความใกล้เคียงกับพล็อตของหนังนักบินอย่าง ‘Top Gun’ และ ‘Top Gun: Maverick’ อยู่พอสมควร โดยเฉพาะคาแรกเตอร์ของบัซที่เป็นนักบินอวกาศผู้มุ่งมั่นอยู่กับหน้าที่ของตนเอง แถมติดจะหัวแข็งอยู่หน่อยๆ หลายฉากในนั้นจึงจะชวนให้นึกถึงมาเวอริคในท็อปกันอย่างไม่ต้องสงสัย

ภาพจากหนังแอนิเมชัน 'Lightyear'
ภาพจากหนังแอนิเมชัน ‘Lightyear’

ในบางช็อต ก็อาจชวนให้คิดถึงหนังอวกาศบางเรื่องได้อีก เช่น อาจรู้สึกถึงกลิ่นของ ‘Interstellar’ หรือ ‘Gravity’ อยู่บ้าง คงไม่แปลกอะไรนัก เดาว่าทีมงานคงหยิบจับมาใช้เพื่อให้มันกลายเป็นหนังแอนิเมชันที่ดูเท่ดูสนุกนั่นเอง

แต่สิ่งสำคัญที่คนเขียนบทอย่าง Jason Headley (ผู้เขียนบท ‘Onward’) ไม่หลงลืมไป นั่นก็คือ การหยิบเอาสิ่งที่เคยถูกบอกเล่าใน ‘Toy Story’ กลับมาใช้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น วลีเด็ดประโยคจำอย่าง ‘To infinity and beyond’ ที่ปรากฏอยู่หลายหนในหนัง หรือพฤติกรรมของบัซที่มักจะเก็บบันทึกสิ่งที่พบเจอในภารกิจอยู่เป็นประจำ

ในหนังเรื่องนี้ เขาเปลี่ยนเสียงพากย์ บัซ ไลท์เยียร์ จาก Tim Allen ในทอยสตอรี่มาเป็น Chris Evans ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่รู้สึกว่าจะขัดข้องอะไรนะ ทุกอย่างก็ดูไหลลื่นและเข้าทีดี

การเติบโตของบัซ ไลท์เยียร์

เพราะการทดสอบเชลพลังงานของยานอวกาศนั่นเองที่ส่งผลให้เขาเดินทางข้ามเวลาไปหลายปี จนทำให้หลายสิ่งแปรเปลี่ยน ตัวร้ายอย่างเซิร์กเข้ายึดครองฐานทัพสตาร์คอมมานด์ และเขาได้พบกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่ร่วมผจญภัยไปด้วยกัน ทั้งสองสิ่งทำให้บัซได้รู้จักตัวตนของเขาเอง เห็นบางสิ่งที่มองข้ามไป และแปรเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นคนใหม่เสียที

การได้รู้จักกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ทำให้บัซ ไลท์เยียร์ ที่เอาแต่ทำงานคนเดียวได้มองเห็นการทำงานเป็นทีม ที่แต่ละคนต่างก็มีคุณค่า มีประโยชน์ และอาจทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำหรือทำไม่ได้ ในบางครั้ง ก็อาจพบเจออุปสรรคและความผิดพลาด ถ้าทั้งทีมต่างให้อภัย ให้กำลังใจ และยอมรับซึ่งกันและกัน การเดินไปเป็นทีมก็อาจสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่าการทำด้วยคนเพียงคนเดียว

โปสเตอร์หนัง 'บัซ ไลท์เยียร์' เวอร์ชันไทย
โปสเตอร์หนัง ‘บัซ ไลท์เยียร์’ เวอร์ชันไทย

ครั้งนี้ การไม่เล่นท่ายากของพิกซาร์ ทำให้เล่าเรื่องได้ชวนหรรษาและกลายเป็นแอนิเมชันแนวไซไฟอวกาศที่ดูง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งก็อาจจะทำให้หลายคนที่ตั้งตารอคอยและตั้งความหวังไปกับหนังของค่ายนี้ อาจรู้สึกไม่ค่อยได้อย่างหวัง การตั้งความหวังให้ถูกก่อนเข้าไปดูก็อาจลดความรู้สึกนั้นไปเยอะ

แล้วก็อย่าลืมล่ะ หนังจบไม่ต้องรีบลุกเพราะจะมีฉากแถมมาให้ดูอยู่เป็นระยะ หลังตัวหนังสือตัวสุดท้าย ก็ยังมีอีกฉากนะทุกคน


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Lightyear / บัซ ไลท์เยียร์
กำกับAngus MacLane/แองกัส แมคเลน
เขียนบทJason Headley, Angus MacLane/แองกัส แมคเลน
แสดงนำChris Evans, Keke Palmer, Dale Soules, Taika Waititi, Peter Sohn
แนว/ประเภทAnimation, Action, Adventure, Drama, Family, Sci-Fi
เรทPG
ความยาว100 นาที
ปี2022
สัญชาติสหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย16 มิถุนายน 2022
ผลิต/จัดจำหน่ายPixar Animation Studios, Pixar, Walt Disney Pictures

บัซ ไลท์เยียร์

พล็อตและบท - 7.4
การพากย์ - 7.4
การดำเนินเรื่อง - 8.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8.5

8

Lightyear

แอนิเมชันที่เล่าเรื่องของสเปซเรนเจอร์อีโก้สูงอย่าง บัซ ไลท์เยียร์ ในช่วงที่เขาและผองเพื่อนต้องติดแหง็กอยู่กลางดาวเคราะห์ร่าง และเขาต้องขับทดสอบยานเพื่อหาเซลพลังงานที่ดีที่สุดและพาทุกคนกลับสู่โลก หนังมีเรฟจาก Top Gun และ Star Wars ที่เห็นได้ชัด ขณะที่มีบางช็อตที่ชวนนึกถึงหนังบางเรื่อง เรื่องราวที่อาจดูง่าย ผสมผสานจากหลายๆ เรื่อง แต่ก็ดูสนุกพร้อมฮาปนน่ารักไปกับคาแรคเตอร์หุ่นยนต์แมวที่ส่งมาขโมยซีนตลอดทั้งเรื่อง

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ