หลายครั้งเหมือนกันที่เริ่มเปิดดูแอนิเมชันซีรีส์แล้วพบว่า ไม่มีความรู้สึกอยากไปต่อ ด้วยจะสาเหตุบางประการที่ทำให้เราเข้าไม่ถึงมัน แต่กลับไม่ใช่กับซีรีส์เรื่องนี้ ‘Blue Eye Samurai’ ชื่อไทยก็คือ ‘ซามูไรตาฟ้า’ ที่เปิดมาตอนแรกก็ชักชวนให้รู้สึกสนใจในทันที และพาให้เรายังคงตามต่อไปจนถึงตอนจบของซีซัน มันเป็นเรื่องราวของซามูไรคนหนึ่งที่เป็นลูกครึ่ง ผู้อยู่ในยุคเอโดะที่ชาวญี่ปุ่นเกลียดชังฝรั่งตาสีฟ้ายิ่งนัก
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ไม่น่าเชื่อ มันเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ที่ถึงพร้อมในทุกด้านจริงๆ ทั้งดูสนุก ทั้งงานภาพสวย ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ทั้งมีแง่มุมที่ใช้ตัวนำเป็นหญิงซามูไรลูกครึ่งที่สังคมเกลียดชัง ใช้ความคั่งแค้นในใจผลักดันให้ออกเดินทาง พบพานทั้งมิตรและศัตรูที่ชักพาให้เรื่องราวมีสีสัน เล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหล ใส่ฉากการต่อสู้ที่มีชีวิตชีวาและโหดดิบอย่างไม่น่าเชื่อ เป็น 8 ตอนที่ไม่อยากหยุดเลยถ้าไม่ติดว่าถึงเวลาต้องนอน
เป็นแอนิเมชันซีรีส์ที่เล่าทั้งเรื่อง ความรัก การทรยศ และการเคียดแค้น ได้อารมณ์และกลมกล่อม จนรู้สึกไม่อยากจะต้องหยุดแค่นี้เพราะรู้ว่ามันต้องมีเรื่องต่อ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Blue Eye Samurai’
มันเล่าถึงดินแดนอาทิตย์อุทัยในยุคเอโดะ โดยมีศูนย์กลางของเรื่องเป็น มิสึ (พากย์โดย Maya Erskine จากหนังเรื่อง ‘DC League of Super-Pets’) ซามูไรร่างผอมที่มีดวงตาสีฟ้า อันบ่งบอกว่าเขามีสายเลือดของคนที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น จึงถูกเหยียดและกลั่นแกล้งเรื่อยมา เติบโตมาอย่างยากลำบากเมื่อผู้คนต่างมองเขาเป็นอสุรกาย มิสึมีความเคียดแค้นชิงชังต่อชายชาวต่างชาติผู้ให้กำเนิด และกำลังออกเดินทางตามหา ชินโด เฮย์จิ (พากย์โดย Randall Park จากซีรีส์เรื่อง ‘WandaVision’ และหนังเรื่อง ‘Totally Killer’) ชายที่คนที่ใกล้ชิดกับบุรุษผู้นั้น
แต่ระหว่างการเดินทางไปสู่การแก้แค้น เขาก็ได้ไปพบกับ อาจารย์เอจิ (พากย์โดย Cary-Hiroyuki Tagawa) ปรมาจารย์นักตีดาบที่ตาบอด คนที่มิสึเรียกเขาว่า “บิดาแห่งดาบ” ที่นี่ เขาได้ฝึกฝนทั้งวิชาดาบและการตีดาบ อีกทั้งยังได้รู้จักกับ ริงโกะ (พากย์โดย Masi Oka จากเรื่อง ‘The Meg’ และ ‘Bullet Train’) ลูกชายคนขายโซบะที่ขอติดตามมิสึไปด้วยในฐานะลูกศิษย์
ในอีกด้านหนึ่ง ยังมีเรื่องราวที่เล่าถึง อาเคมิ (พากย์โดย Brenda Song จากเรื่อง ‘The Social Network’) องค์หญิงในตระกูลสูงศักดิ์ที่ผู้เป็นพ่อหมายมั่นจะให้แต่งงานกับลูกชายของท่านโชกุน แม้ในความเป็นจริง อาเคมิมีคนที่รักอยู่แล้ว เขาคือ ไทเก็น (พากย์โดย Darren Barnet) ชายหนุ่มซามูไรที่ดวลกับมิสึ แต่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และต้องการแก้มืออีกครั้ง
ทั้งหมดล้วนมีชาติที่เกี่ยวพันกัน เมื่อหนึ่งซามูไรต้องการแก้แค้น แต่พวกเขาก็เดินทางไปเจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่า
รีวิวซีรีส์ ‘ซามูไรตาฟ้า’
ดูจากเครดิต มันเป็นผลงานสัญชาติอเมริกา แต่จากรายชื่อทีมงานหลายคน ดูแล้วก็น่าจะเป็นชายเอเชียนอเมริกัน เล่าเรื่องราวของซามูไรคนหนึ่งที่มีความแตกต่างจากคนอื่นในสังคม และกลายเป็นที่รังเกียจ จนค่อยๆ กลายเป็นความเคียดแค้น จึงใช้พลังความแค้นนั้นผลักดันให้ก้าวเดินอย่างต่อเนื่องเพื่อดับไฟในใจให้มอดดับลง
ในช่วงเวลาที่การเป็นคนนอกกลายเป็นสิ่งต้องห้าม ลูกครึ่งญี่ปุ่นกับคนผิวขาวที่เกิดมาจากแม่ที่เลี้ยงดูและตายไปนานแล้ว แม้เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวแต่ก็เข้มแข็ง ใส่แว่นเพื่อปิดบังสีตา ออกเดินทางสืบหาเบาะแสของ ชินโด เฮย์จิ คนที่ใกล้ชิดกับเป้าหมาย อาไบจา ฟาวเลอร์ (พากย์เสียงโดย Kenneth Branagh จากหนังเรื่อง ‘A Haunting in Venice’ และ ‘Oppenheimer’) แต่ก็เช่นเดียวกับจอมยุทธ์ทั้งหลาย ทุกการเดินย่อมก่อเกิดศัตรูและมิตรแท้ และบางครั้ง ศัตรูก็อาจกลับกลายเป็นมิตรได้เช่นเดียวกัน
ซีรีส์เรื่องนี้หยิบเอาบริบทของบ้านเมืองและวิถีคิดของผู้คนมาร้อยเรียงสร้างเป็นเรื่องราว ยุคสมัยที่ญี่ปุ่นยังปกครองโดยโชกุนผู้อาศัยอยู่ในวังใหญ่อันโอ่อ่า ไม่ยอมรับชนชาติอื่นว่าเป็น “มนุษย์” แต่เป็นปีศาจหรืออสุรกาย สังคมที่ยังคงให้ความสำคัญกับเพศชาติและผลักเพศหญิงไปเป็นเพียงผู้รับใช้และเครื่องบำเรอทางเพศ แต่ก็มีตัวละครเพศหญิงบางตัวที่มีความคิดแตกต่างและอยากจะเป็นอิสระทำอะไรได้ดังใจ
สตรีในโลกนี้ไม่มีเคยมีทางเลือกดีดีสักข้อ คงไม่ผิดอะไรนักหากจะบอกว่า มิสึที่ผู้ชมแปลกใจตั้งแต่ในนาทีแรก เราได้ยินเสียงพากย์ที่เป็นหญิงของเธอก็เดาได้แล้วว่า สักวินาทีหนึ่ง บทจะต้องเฉลยออกมาว่า แท้จริงเขาคือผู้หญิงที่ปกปิดตัวตน ขณะที่อีกคน คือ อาเคมิ องค์หญิงแห่งตระกูลโทคุโนบุที่ไม่ได้รักษาพรหมจรรย์และรักกันกับไทเกน ซามูไรที่พ่อนางไม่ยอมรับเพราะต้องการจะให้ลูกสาวได้แต่งงานกับลูกชายของโชกุน
เรื่องราวในช่วงแรก จึงเป็นการเดินทางของคนสองคน อาเคมิ ผู้อ้างว่าตนจะไปเป็นนางคณิกา แต่แท้จริงเพื่อต้องการค้นหาชายผู้เคยทำร้ายไทเกน และความต้องการแก้แค้นนำทางมาพบกับมีสึ เดิมทีเราก็ไม่รู้ว่าทำไม มิสึจึงมุ่งหมายแก้แค้นสังหารชายผิวขาวผู้ให้กำเนิดตนกันนัก ก่อนที่เรื่องต่างๆ จะถูกเปิดเผยออกมา ขณะที่ภารกิจใหม่ๆ ก็เพิ่มเข้ามาไม่หยุดหย่อนระหว่างเส้นทางสู่การล้างแค้น ทำให้เรื่องราวมันเดินหน้าไปอย่างสนุกและน่าติดตาม
มันคืองานแอนิเมชันที่เล่าถึงญี่ปุ่นในยุคที่ชายยังเป็นใหญ่ (เอาจริงๆ สังคมญี่ปุ่นตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่) โดยให้หญิงเป็นตัวนำ มีหลายฉากที่โชว์เรือนร่างที่เปลือยเปล่าไม่ว่าจะชายหรือหญิง ดูไปคงไม่ใช่แอนิเมชันสำหรับเด็ก การเล่าเรื่องก็มีชั้นเชิงไม่ได้เล่าแบบเรียบง่าย บางช่วงเวลาก็หันไปหาการเล่าแบบมีเสียงบรรยายของชายผู้เล่าตำนานที่สอดคล้องไปกับภาพจริงที่เกิดขึ้น จู่ๆ ก็หันไปสลับเล่าเรื่องอดีตจนคนดูเสมือนผู้ถูกล่อหลอกให้พบกับความเซอร์ไพรส์
ขณะที่ดนตรีประกอบก็มีทั้งคันทรี ร็อก และเมทัล ทั้งซินธ์ ออร์เคสตร้า และบางทีก็มีร็อกแอนด์โรล ประสานกันไปกับงานภาพที่โหดดิบ คลุ้งไปด้วยคาวเลือด เดือดและรุนแรง กับมุมกล้องที่หมุนไปหมุนมา มันคล้ายเป็นภาพวาดจากพู่กันและสีน้ำมัน แต่สร้างขึ้นมาจากซีจี 3 มิติ
ทุกๆ ด้านรวมกันกลายเป็นความประทับใจที่มีต่อแอนิเมชันซีรีส์ ‘ซามูไรตาฟ้า’ ทำให้รู้สึกได้ถึงการเดินทางที่อาจสร้างศัตรูเมื่อได้รู้จักกันเพียงผิวเผิน แต่เมื่อได้สัมผัสกันจริงจัง หลายคนก็กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทาง จุดเริ่มต้นอาจเป็นเพียงการผจญภัยของซามูไรคนหนึ่ง แต่ยิ่งก้าวก็เหมือนเรื่องราวจะใหญ่ขึ้นทุกที จากเพียงซามูไรที่ต้องการแก้แค้น กลายเป็นเรื่องวางแผนล้มราชวงศ์ เรื่องราวช่วงท้ายจึงลุ้นกันหนักขึ้น แต่ว่า…
เมื่อเรื่องราวมันถูกจบอย่างปัจจุบันทันด่วน ชวนให้รู้สึกค้างคาและรู้แน่ชัดว่า มันต้องไปซีซัน 2 อย่างแน่นอน
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Blue Eye Samurai / ซามูไรตาฟ้า |
ผู้สร้าง | Michael Green, Amber Noizumi |
ผู้กำกับ | Earl A. Hibbert, Ryan O’Loughlin, Jane Wu, Michael Green, Sunny Sun, Alan Taylor, Alan Wan |
นักพากย์ | Maya Erskine, George Takei, Masi Oka, Brenda Song, Darren Barnet, Randall Park, Kenneth Branagh, Ming-Na Wen |
แนว/ประเภท | แอนิเมชัน, แอคชัน, ผจญภัย, ดราม่า, ประวัติศาสตร์, ระทึกขวัญ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 8 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 3 พฤศจิกายน 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | 3 Arts Entertainment, Blue Spirit Animation, Netflix Animation |
คะแนนซีรีส์ ซามูไรตาฟ้า
พล็อตและบท - 8
การพากย์ - 8
การดำเนินเรื่อง - 8.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.5
งานภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชัน - 8.9
8.4
Blue Eye Samurai
ไม่น่าเชื่อ มันเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ที่ถึงพร้อมในทุกด้านจริงๆ ทั้งดูสนุก ทั้งงานภาพสวย ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ทั้งมีแง่มุมที่ใช้ตัวนำเป็นหญิงซามูไรลูกครึ่งที่สังคมเกลียดชัง ใช้ความคั่งแค้นในใจผลักดันให้ออกเดินทาง พบพานทั้งมิตรและศัตรูที่ชักพาให้เรื่องราวมีสีสัน เล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหล ใส่ฉากการต่อสู้ที่มีชีวิตชีวาและโหดดิบอย่างไม่น่าเชื่อ เป็น 8 ตอนที่ไม่อยากหยุดเลยถ้าไม่ติดว่าถึงเวลาต้องนอน