หลังจากอ่านข้อมูลของหนังไซไฟแฟรนไชส์ระดับตำนานเรื่องนี้จากนิตยสาร Filmax ที่ค่อนข้างละเอียดยิบจนมึนข้อมูล และได้นั่งดูชาวบ้านเขาไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วจับมาทวีตได้พักหนึ่ง วันนี้ก็ได้เวลาไปเก็บเกี่ยวเรื่องราวในโรงภาพยนตร์มาด้วยตนเองแล้ว
ในที่สุด ผมก็ได้ใช้เวลาช่วงท้ายของวันอาทิตย์ไปกับการชม ‘Prometheus’ หรือในชื่อไทย ‘โพรมีธีอุส’ ที่หลายคนได้ยินโรงว่า โพรมีเธียส แต่ไม่ว่าจะได้ยินยังไง มันคือคำเดียวกันตามแต่ใครจะอ่าน แต่จะขอเขียนเป็นภาษาอังกฤษแล้วใคร จะอ่านอย่างไรก็ตามแต่ใจคุณ
รีวิวหนัง ‘Prometheus’
ใครจะไปนึกว่า หนังไซไฟที่กำเนิดมาไล่ๆ กันกับ Star War จะมีเรื่องราวยิบย่อยให้นั่งอ่านกันได้ขนาดนี้ มันถูกสร้างเป็น Alien รวม 4 ภาค แล้วยังมีภาคที่ไปปะทะกับ Predator อีก แต่ถ้านับเฉพาะภาคของ Alien ต้นตอของมันคือภาคที่หลายคนบอกว่าชื่นชอบมันมากที่สุด มีประวัติความเป็นมาที่ล้มลุกคลุกคลานพอดู แต่ภาคต่อๆ มาก็เปลี่ยนหน้าผู้กำกับฯ และมือเขียนบทเป็นว่าเล่น
ทว่า ก็ยังไม่มีคนไหนที่หยิบบางสิ่งที่เป็นปริศนาในภาคแรกมาขยายให้เราได้กระจ่างกันสักที
จวบจบวันที่ Ridley Scott ผู้กำกับภาคดั้งเดิมในวัย 74 หยิบมันกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง แต่กระนั้น การกลับไปเล่าถึงจุดเริ่มต้น ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีสิ่งใดที่ถูกคิดขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในวันที่เทคโนโลยีในการสร้างภาพและเทคนิคพิเศษไปไกลกว่าเมื่อ 30 ปีก่อนมาก แต่ได้รับข้อมูลมาว่า เขาพยายามจะสร้างฉากขึ้นมาเองให้มากที่สุด และพึ่งพา CG ให้น้อยที่สุด ซึ่งเขาพบว่าบางทีมันก็ให้ผลที่คุ้มค่าทีเดียว
ค.ศ. 2023 Peter Weyland (Guy Pearce) ประกาศในงาน TED Conference ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงโลก 62 ปีต่อมา ยานชื่อ Prometheus ทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแห่งการค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่า “เหตุใดผู้สร้างจึงสร้างเราขึ้นมา”
ถ้ายังจำกันได้ มีภาพอยู่ภาพหนึ่งใน Alien ที่เป็นซากของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิต่างดาวร่างใหญ่ที่แน่นิ่งในยานลำหนึ่ง แต่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป แล้วมันก็ไม่เคยถูกพูดถึงอีกเลย ซึ่งมันกำลังถูกพูดถึงใน Prometheus นี่แหละครับ เรื่องราวของยานลำยักษ์ที่บินไปสำรวจดาวดวงหนึ่งที่เชื่อกันว่า หลักฐานตามแหล่งอารยธรรมโบราณทั่วโลกมี “คำเชิญ” จากมนุษย์ต่างดาวผู้สร้างมนุษย์อยู่ในนั้น เรากำลังเดินทางไปตามหาต้นกำเนิดของตัวเอง
เพื่ออะไร และทำไม หนังยังไม่ได้ให้คำตอบกับเราได้ชัดเจนมากนัก
ทีมที่ไปกับยาน Prometheus มีทั้ง Elizabeth Shaw (Noomi Rapace) กับ Charlie Holloway (Logan Marshall-Green) นักวิทยาศาสตร์คู่หนึ่งผู้ค้นพบ(สิ่งที่เชื่อว่าเป็น)คำเชิญดังกล่าว พร้อมกับกัปตันและลูกเรือ ที่สำคัญ มีสาวสวย Meredith Vickers (Charlize Theron) ตัวแทนของ Weyland Corp. ที่ค่อนข้างเป็นพวกเข้าถึงยาก และหุ่นแอนดรอยด์หนุ่มนาม David (Michael Fassbender) ที่ก็ค่อนข้างรู้ดีไปเสียทุกเรื่อง
นอกจากความอลังการงานสร้าง โปรดักชันระดับสุดยอดแล้ว หนังเหมือนพยายามตั้งคำถามซ้อนคำถามเรื่องความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ “ผู้สร้าง” (หรือที่เขาเรียกกันว่า Engineer) เพราะมนุษย์เองก็อยากเจอมนุษย์ต่างดาวผู้ที่สร้างตน ขณะเดียวกัน มนุษย์เองก็เป็นผู้สร้างเดวิดขึ้นมาเช่นกัน ทำให้เราได้เห็นแง่มุมบางจุดที่อาจไม่เคยมีใครหยิบมาพูดถึงกันนักในหนังเรื่องนี้
การดำเนินเรื่องของ ‘Prometheus’ นอกจากฉากอันลึกล้ำอลังการแล้ว ก็ยังพยายามเก็บเรื่องราวที่จะไปต่อกับ ‘Alien’ (1979) ภาคแรก เพราะการเล่าอะไรที่ต่อมาจาก ‘Alien: Resurrection’ (1997) อาจจะไม่มีอะไรใหม่และน่าสนใจดึงดูดพออีกแล้ว แต่โพรมีธีอุสก็ไม่ได้อธิบายไปหมดทุกอย่าง และบางสิ่งที่เล่าจบในภาคก็ไม่ได้ต่อกันสนิทกับ Alien ภาคแรกมากนัก บางอย่างถูกเล่าขึ้นมาใหม่ จุดที่จะไปบรรจบกันได้ก็กลับพบว่าไม่ตรงกันเสียทีเดียว
หนังอาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือเต็มไปด้วยฉากเหวอะหวะมากนัก ลึกลับ อึมครึม กดดัน แต่อลังการดีนักแล
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Prometheus / โพรมีธีอุส |
กำกับ | Ridley Scott |
เขียนบท | Jon Spaihts, Damon Lindelof |
แสดงนำ | Noomi Rapace, Logan Marshall-Green, Michael Fassbender, Charlize Theron, Guy Pearce, Logan Marshall-Green |
แนว/ประเภท | Action, Horror, Sci-Fi |
เรท | ไทย/ , USA/R |
ความยาว | 124 นาที |
ปี | |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 7 มิถุนายน 2555 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | 20th Century Fox, Brandywine Productions, Dune Entertainment, Scott Free Productions |
ข้อมูลเพิ่มเติม: Alien ภาคต่างๆ
- ภาคแรก ‘Alien’ ในปี 1979 กำกับฯ โดย Ridley Scott
- ‘Aliens’ ภาคถัดมา เข้าฉายในปี 1986 กำกับฯ โดย James Cameron
- ภาคที่สาม ‘Alien³’ ในปี 1992 กำกับฯ โดย David Fincher
- ภาคที่สี่ ‘Alien: Resurrection’ ในปี 1997 กำกับฯ โดย Jean-Pierre Jeunet