รีวิวหนัง อนงค์ My Boo | พล็อตเป็นแฟนกับผี ที่สุดฮา เมลดาน่ารัก

ความรักระหว่างคนกับผีถูกบอกเล่ามาเนิ่นนานผ่านหลายยุคสมัย แต่ดูคล้ายจะไม่เคยเก่าเกินกว่าจะหยิบมาเล่าใหม่เลย ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวไปไกล เอไอเริ่มเข้ามาอิทธิพล แต่เรื่องวิญญาณที่รักกับมนุษย์ก็ยังวนเวียนอยู่ไม่ห่างหาย ครั้งนี้ พบเห็นหนังไทย ‘อนงค์’ ที่เห็นมีชื่ออังกฤษพะกำกับไว้ว่า ‘My Boo’ หยิบไอเดียนี้มาเล่า โดยบิดบางส่วนให้แปลกไป และใช้จังหวะจะโคนที่โดนใจมาทำให้คนสนุกไปกับหนัง

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

หนังผีไทยสุดน่ารักแห่งปีมาแล้ว เมื่อ เอส คมกฤษ ตรีวิมล กลับมาอีกครั้งกับหนังเรื่องใหม่ พล็อตผีรักกับคนที่อาจดูคุ้นเคยและไม่น่าจะมีอะไรใหม่ ทั้งยังคาดเดาเรื่องได้ไม่ยากเย็น แต่ด้วยความน่ารักของ โบว์ เมลดา เคมีที่เข้ากั๊นเข้ากันระหว่างโบว์กับจี๋ บวกจังหวะเล่นมุกที่ทำให้เป๊ะและเข้าฝัก พาคนดูหัวเราะลั่นโรงด้วยความชอบใจ บางมุกแปลกใหม่ดี มีนักแสดงมากมายมาร่วมเล่นเป็น cameo บวกกับโปรดักชันและซีจีที่ดูเหมาะกับหนังดี

มันจึงกลายเป็นผีที่ไม่น่ากลัว แต่ได้ความน่าประทับใจมาแทน

เรื่องย่อหนัง ‘อนงค์’

มันเป็นเรื่องของโจ วิศรุต เตชะมหาไพศาลกิจ (จี๋ สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร จากละครเรื่อง ‘เกมรักทรยศ’ และหนังเรื่อง ‘4 KINGS 2’) ชายหนุ่มนักแคสต์เกมที่ดวงตกสุดขีด จู่ๆ ก็มีคนมอบบ้านเก่าหลังหนึ่งให้ เจ้าตัวดีใจนึกว่าได้ของดี ไปดูของจริง ตกใจแทบเป็นลม บ้านนั้นมันเป็นคฤหาสน์ร้าง ไม่มีใครอยู่อาศัยมาเนิ่นนาน เท่านั้นไม่พอ ที่นั่นยังมีวิญญาณ 3 ตนที่วนเวียนอยู่มานานหลายสิบปี

ซึ่งผีสามตนนั้นก็คือ อนงค์ (โบว์ เมลดา สุศรี จากละครเรื่อง ‘มนต์รักหนองผักกะแยง’ และหนังเรื่อง ‘อโยธยา มหาละลวย’) ผีสาวหน้าตาสะสวย ที่พ่วงมาด้วยผีคนรับใช้ ทองหยิบ (มอนสเตอร์ฝน-ทัตชญา ศุภธัญสถิต) และทองก้อน (แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) พวกเขาต่างไม่ยอมไปไหน ทั้งถือว่าตนก็เป็นเจ้าของบ้าน กอปรกับโจดันเพิ่งไปก่อหนี้มาเลยผุดไอเดียบ้านผีสิงขึ้น โดยให้ผีทั้งสามช่วยหลอกคนหารายได้

งานนี้ต้องบอกว่า ผีทั้งสามเนี่ย แสดงหลอกคนได้แนบเนียนและน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ขนาดหัวโจกแห่งย่านนั้นอย่าง ก้อง (ธามไท แพลงศิลป์) ยังต้องยอมแพ้ แต่ก็ดูเหมือนว่า โจ ผู้เป็นมนุษย์ และ อนงค์ ผู้เป็นวิญญาณ จะใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความรัก เพียงแต่ความรักของผีกับคนนี่มันจะไปกันได้โดยไร้ซึ่งอุปสรรคจริง ๆ นะเหรอ ไม่น่า…

รีวิวหนัง ‘My Boo’

ไอเดียเริ่มต้นมันอาจต้องการเล่าถึงความรักระหว่างคนกับผี ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง แต่เมื่อมันถูกปรุงแต่งมาเรื่อย ๆ มันก็กลายเป็นหนังที่มีหลายสิ่งเฉพาะตัว ส่วนหนึ่ง มันกลายเป็นหนังที่คนเอาผีจริงมาทำบ้านผีสิง อารมณ์สร้างสวนสนุกกลิ่นงานวัด และตั้งชื่อให้ว่า “บ้านอนงค์” แล้วเปิดบริการเก็บค่าเข้าชม

แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น หนังก็เล่าที่มาที่ไปแบบพอสังเขป ให้คนดูเข้าใจว่าทำไมหนุ่มโจนักแคสต์เกมจึงต้องลุกมาทำกิจการบ้านผีสิง หลังจากนั้น ก็พาคนดูไปรู้จักรักผีแบบที่พระเอกเป็น เอาเข้าจริง เขาก็คิดถูกนะที่เลือกนางเอกเป็น โบว์ เมลดา เธอเป็นนักแสดงที่ไม่ต้องเล่นใหญ่แต่ใช้ความน่ารักปูทางให้คนดูเคลิบเคลิ้ม ใช้สายตา น้ำเสียง ที่เป็นธรรมชาติก็เอาอยู่ละ นั่นแปลว่า นอกจากพระเอกจะหลงรักผีแล้ว คนดูเองก็โดนผีตนนี้ตกเข้าเต็มเปาเฉกเช่นกัน

และดูเหมือนทั้งแคสต์ ก็จะมีแต่นักแสดงที่เล่นคอมเมดี้ได้อย่างไม่เคอะเขิน ไม่ว่าจะเป็น สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร ที่เราอาจเคยเห็นมาดเข้มๆ ตอนนี้ได้เห็นความหลากหลายทางการแสดงมากขึ้น (แถมยังมีฉากเซอร์วิสโชว์ซิกซ์แพ็คอีกต่างหากแน่ะ), ธามไท แพลงศิลป์ ที่ทำให้เราเห็นฝีมือนอกเหนืองานเพลง เขาพาแก๊งเด็กแว้นซ์มาป่วนบ้านผีสิง ทั้งมีช่วงฮาเป็นของตัวเองอีกต่างหาก, พวง แก้วประเสริฐ ลุงป้อมคนหากบที่เล่นไม่ล้น, แจ๊ค เฉลิมพล กับ ฝน ทัตชญา คนหนึ่งโตจากแฟนฉันด้วยบุคลิกคอมเมดี้ในแบบของตัวเอง ส่วนอีกคนเป็นครีเอทีฟโปรดิวเซอร์สาวที่ปรับจากเบื้องหลังมาอยู่เบื้องหน้า และก็พบว่าทำได้ดี พาเสียงหัวเราะลั่นโรง

รวมถึงยังได้เห็นผลงานของ ออม ปุณยวีร์ จึงเจริญ กับบทสาวแว้นซ์ที่ได้บทเยอะเกินคาด แถมยังเล่นได้แรด น่ารัก ชวนฮา ไม่เบาเลยนะเราเนี่ย

หนังเรื่องนี้ มีแขกรับเชิญเยอะมากมาย โดยเฉพาะวง 4EVE นี่ต้องเรียกว่า ขนกันมาทั้งวง แถมหนังยังมีแอบขายเพลง ‘วัดปะล่ะ’ ของนี้อีกด้วยนะ

เอาเข้าจริง แม้ว่ามันจะเป็นหนังผี แต่ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่หนังที่ผีที่จะสร้างความน่ากลัวให้กับคนดูแต่อย่างใดเลย ตรงกันข้าม มันกลับเน้นไปที่ความน่ารัก โรแมนติกและคอมเมดี้ชวนหัวซะมากกว่า แม้ว่ามันจะเป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยากเย็น แต่ด้วยเรื่องราวถูกขีดเขียนอย่างไม่ออกทะเลตั้งแต่ต้นยันจบ บวกเคมีคู่พระนางที่เข้ากันดี อีกทั้งโปรดักชัน ซีจี คือส่วนผสมที่กลมกลืนไปกับหนัง ทั้งผู้กำกับและทีมเลือกจะเล่าหนังผีพล็อตคุ้นเคยแต่ทำให้มันออกมามีเสน่ห์ ทำให้มันออกมาดีเกินคาดจนอยากจะแนะนำผู้คนให้เข้าไปดูในโรงภาพยนตร์กัน

สิ่งที่ชื่นชอบก็คือ จังหวะจะโคนที่ใช่ ใช้ในเวลาที่เหมาะ ทำผู้ชมฮาครืนกันทั้งโรง มองว่าหนังน่าจะทำกระแสดีจนผ่านสู่หลักร้อยล้านบาทได้อีกเรื่องในปีนี้

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง