หนังบางเรื่องสร้างจากเรื่องจริง แต่หนังบางเรื่องก็สร้างหนังสือที่เขียนมาจากเรื่องจริงอีกที สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างหลังครับ ‘The Ministry of Ungentlemanly Warfare‘ หรือชื่อไทย ‘แสบจารชนคนพลิกโลก’ เป็นหนังที่ว่าด้วยภารกิจลับของคนกลุ่มหนึ่งที่ร่วมกันทำเพื่อพลิกผันสถานะที่เพลี่ยงพล้ำของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
source: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ผลงานใหม่จาก กาย ริตชี่ กับหนังแอ็คชันสงครามที่สร้างมาจากหนังสือที่เขียนมาจากเรื่องจริงเรื่องนี้ มันเป็นคือหนังที่นำสงครามจริงจังมาสร้างให้เป็นเรื่องบันเทิง หยิบตัวละครต่างคาแรกเตอร์เด่นมารวมหัวกันทำปฏิบัติการเพื่อพลิกผันสงคราม โดยรวมมันคือหนังรวมทีมปฏิบัติภารกิจ ที่แต่ละตัวต่างก็เก่งในทางของตัวเอง มีความยียวนและกวนตีนพาผู้ชมบันเทิงไปกับลีลาการยิง ฟัน และระเบิดตูมตาม ท่ามกลางปฏิบัติการแสนบ้าบิ่น
ก่อนที่ตัวละครหนึ่งในนั้นจะกลายเป็นต้นแบบของนิยายสายลับชื่อดังอย่าง เจมส์ บอนด์ ในเวลาต่อมา
เรื่องย่อหนัง ‘The Ministry of Ungentlemanly Warfare’
หนังเรื่องนี้จะเล่าถึงภารกิจที่โคตรจะบ้าบิ่น ภารกิจที่ไร้การแทรกแซง และภารกิจที่ไม่มีการบันทึก มันเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและในยุคสมัยที่นายกรัฐมนตรีของอังกฤษยังเป็น วินสตัน เชอร์ชิลล์ เมื่อฮิตเลอร์ไม่เล่นตามเกมและอังกฤษกำลังเพลี่ยงพล้ำ เขาจึงตัดสินใจพลิกผันสถานการณ์ของอังกฤษ ด้วยการส่งหน่วยรบไปทำลายเรือดำน้ำของนาซีในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนืออย่างลับๆ
กองกำลังนั้นเล็กมาก มีกันอยู่แค่ 5 คน อันได้แก่ กัช มาร์ช ฟิลลิปส์ (เฮนรี คาวิลล์ จากหนังเรื่อง ‘Man of Steel’), แอนเดอร์ส ลาสเซน (อลัน ริตช์สัน จากซีรีส์ ‘Reacher’) เฟรดดี้ อัลวาเรซ (เฮนรี โกลดิง จากหนังเรื่อง ‘Crazy Rich Asians’), เฮนรี เฮย์ส (ฮีโร่ เฟนส์ ทิฟฟิน จากหนังเรื่อง ‘The Woman King’) และจอฟฟรีย์ แอปเปิลยาร์ด (อเล็กซ์ เพตตีเฟอร์ จากหนังเรื่อง ‘I Am Number Four’)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเขาก็ยังมีสายลับอีกสองคนคอยประสานงาน นั่นคือ มาจอร์รี สจ๊วร์ต (เอซา กอนซาเลซ จากหนัง ‘Baby Driver’) และแฮรอน (บาบส์ โอลูซันโมกุน จากหนังเรื่อง ‘Dune Part One’)
รีวิวหนัง ‘แสบจารชนคนพลิกโลก’
สำหรับคนที่ดูหนังมานาน ย่อมจะรู้จักผลงานของชายคนนี้ดี กาย ริตชี เขาเคยกำกับหนังมามากมายหลายเรื่อง รวมทั้ง ‘Sherlock Holmes’ และ ‘The Gentlemen’ ทั้งเวอร์ชันหนังและซีรีส์ ชายผู้ชอบทำหนังสไตล์แอ็คชันเท่ ๆ สไตล์พูดมาก เล่าจากเรื่องจริง และชอบเอาหนังตัวเองมาทำซีรีส์คนนี้ หยิบเอาเรื่องจริงมาเล่าอีกครั้ง
กับช่วงเวลาหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่อังกฤษกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำต่อเยอรมันนาซีที่ไม่เล่นตามกฎ เชอร์ชิลล์ก็เลยต้องเล่นมั่ง ด้วยการเปิดยุทธการโพสต์มาสเตอร์ อันเป็นแผนลับที่ใช้แก๊งที่ยอมเสี่ยง กัช มาร์ช ฟิลลิปส์ คือคนที่เบื้องบนไม่ชื่นชอบ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลให้นายกฯ เลือกเชื่อใจใช้งาน
source: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล
มันคือแผนที่เสมือนทั้งความบ้าและอัจฉริยะผ่านสายตาของชายหนุ่มเจ้าหน้าที่จากหน่วยข่าวกรองนาม เอียน เฟลมมิง ผู้ที่อนาคตต่อมา เขาหยิบเอาเรื่องราวประสบการณ์ที่เคยได้พบพาน ไปเป็นแรงบันดาลใจในการเขียน ‘Casino Royale’ และก่อกำเนิดสุดยอดสายลับ เจมส์ บอนด์
แม้ว่ามันจะหยิบมาจากเรื่องจริง แต่ก็มันถูก กาย ริตชี่ ผสมกับสไตล์ของตัวเองจนกลายเป็นหนังแอ็คชั่นสงครามที่มีความยียวนกวนประสาท หนังมาพร้อมกับมุกฮาพาแสยะยิ้ม กับภารกิจของทีมลับที่สุดเก่งกาจ งานเดินไปอย่างแทบจะไร้อุปสรรค ยิงโป้งป้างเข้าเป้าทุกดอกอย่างคนที่ชำนิชำนาญไร้ความผิดพลาด อาจจะดูเป็นหนังขี้โม้แต่นี่คือหนังกาย แต่ละคาแรกเตอร์ล้วนมีเสน่ห์ต่างแบบกัน เหมือนเขาหยิบเอาตัวเอกจากหนังที่แยกกันสี่ห้าเรื่อง มากองรวมไว้ในเรื่องเดียว..อะไรประมาณนั้น
source: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล
คาแรกเตอร์ที่โดดเด่นก็อย่างเช่น ชายร่างยักษ์หุ่นหมี ลาสเซน ผู้ที่ชำนาญทั้งการใช้มีด ขวาน และธนู ที่รับบทโดย อลัน ริตช์สัน อีกส่วนหนึ่งก็ชื่นชอบในคอสตูมของมาจอร์รี สายลับสาวเชื้อสายยิวผู้รอบคอบและมีไหวพริบ ที่ต้องปลอมตัวเป็นคนเยอรมัน ที่รับบทโดย เอซา กอนซาเลซ และในเรื่องนี้ เขาก็แต่งหน้าด้วยการใส่เคราเฟิ้มให้กับ เฮนรี่ คาวิลล์ จนแทบจำกันไม่ได้ กับบทบาท กัช มาร์ช ฟิลลิปส์ ผู้นำยุทธการโพสต์มาสเตอร์ที่ค่อนข้างกล้าและบ้าบิ่น
source: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล
การเดินเรื่องของหนังใช้วิธีแบ่งเป็นสองเส้นเรื่องที่สอดประสานในช่วงแรก ก่อนจะรวมเป็นเส้นเดียวในช่วงหลัง อาจมีบางช่วงที่ดูหย่อน ๆ ไปบ้าง แต่ช่วงหลังก็ตึงตังพอจะพาคนดูให้ลุ้นไปได้อยู่ จะน่าเสียดายก็ตรงโปรดักชันที่ดร็อปลงไปกว่าเรื่องก่อน ๆ อาจเพราะด้วยทุนสร้างที่ไม่ได้มากเท่ากับตอนทำกับสตูดิโอใหญ่ๆ
แต่ถึงยังไง ก็ยังชอบใจที่หนังมันเล่าเรื่องการวางหมากเกมในสงคราม ที่ฉากหน้าก็ทำทีรบกันไป ขณะที่ฉากหลังก็แอบทำปฏิบัติการลับไป พร้อมๆ กับที่ต้องปั้นข้ออ้างสารพัดอย่างเพื่อปกปิดภารกิจลับ ระหว่างที่มันกำลังดำเนินไปก็จะต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดคิด และก็ต้องใช้มันสมองในการหาหนทางใหม่เพื่อให้มันสัมฤทธิ์ผล
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
| ชื่อภาพยนตร์ | The Ministry of Ungentlemanly Warfare / แสบจารชนคนพลิกโลก |
| กำกับ | Guy Ritchie |
| เขียนบท | Paul Tamasy, Eric Johnson, Arash Amel, Guy Ritchie |
| แสดงนำ | Henry Cavill, Alan Ritchson, Alex Pettyfer, Eiza González, Babs Olusanmokun, Hero Fiennes Tiffin, Henry Golding |
| แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ดราม่า, สงคราม |
| เรท | R |
| ความยาว | 120 นาที |
| ปี | 2024 |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
| เข้าฉายในไทย | 1 พฤษภาคม 2024 |
| ผลิต/จัดจำหน่าย | Black Bear, Jerry Bruckheimer Films, Lionsgate Films, Media Capital Technologies, สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล |
คะแนนรีวิวหนัง แสบจารชนคนพลิกโลก
พล็อตและบท - 7
การดำเนินเรื่อง - 6.6
การแสดง - 7.4
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชัน - 7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
7
The Ministry of Ungentlemanly Warfare
ผลงานใหม่จาก กาย ริตชี่ กับหนังแอ็คชันสงครามที่สร้างมาจากหนังสือที่เขียนมาจากเรื่องจริงเรื่องนี้ มันเป็นคือหนังที่นำสงครามจริงจังมาสร้างให้เป็นเรื่องบันเทิง หยิบตัวละครต่างคาแรกเตอร์เด่นมารวมหัวกันทำปฏิบัติการเพื่อพลิกผันสงคราม โดยรวมมันคือหนังรวมทีมปฏิบัติภารกิจ ที่แต่ละตัวต่างก็เก่งในทางของตัวเอง มีความยียวนและกวนตีนพาผู้ชมบันเทิงไปกับลีลาการยิง ฟัน และระเบิดตูมตาม ท่ามกลางปฏิบัติการแสนบ้าบิ่น ก่อนที่ตัวละครหนึ่งในนั้นจะกลายเป็นต้นแบบของนิยายสายลับชื่อดังอย่าง เจมส์ บอนด์ ในเวลาต่อมา
