พล็อตสไตล์รักสามเส้านั้นถูกบอกเล่าหลายครั้งหลายหนในหนัง แต่ครั้งนี้แปลกใหม่ เมื่อมันถูกเล่าผ่านเรื่องราวของสามนักเทนนิส ‘Challengers’ หรือชื่อไทยทับศัพท์ ‘ชาเลนเจอร์ส‘ หนึ่งหญิงสองชายที่มีชีวิตวนเวียนอยู่กับเรื่องรักและเทนนิสตลอดมา แม้เป็นวังวนที่ไม่อาจหลุดพ้น แต่ดูเหมือนฝ่ายหญิงจะใช้มันให้เป็นประโยชน์กับเกมของเธอเอง
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
หนังเด่นขึ้นมาจากพล็อตแนวรักสามเส้าทั่วไป เพราะมันใช้วังวนความรักที่คู่ขนานกันไปกับการแข่งขันในสนาม สองหนุ่มเพื่อนรักต้องมาแตกหักเพราะรักสาวคนเดียวกัน และเพราะเทนนิสที่ทำให้เพื่อนรักต้องมาแข่งขันในเกมกีฬาและเกมหัวใจไปพร้อม ๆ กัน หนังใช้สกอร์ที่ชวนตื่นเต้นเร้าใจไปกับทั้งสองเกม กำกับภาพด้วยวิชวลในสนามหลากมุมที่สุดยอดเยี่ยม
เสน่ห์ของเซนเดย์อาคือเต็มเปี่ยม เธอเล่นล้อกับหัวใจของชายหนุ่ม ปั่นหัวบงการเกมได้ชนิดที่พวกเขาต่างแพ้ราบคาบ
เรื่องย่อหนัง ‘Challengers’
มันคือเรื่องราวรักสามเส้าของนักเทนนิสสามคน หนึ่งคือ อาร์ต โดนัลสัน (Mike Faist จากหนังเรื่อง ‘West Side Story’ และ ‘The Bikeriders’) สองคือ แพทริค สไวก์ (Josh O’Connor จากหนังเรื่อง ‘Emma’ และซีรีส์ ‘The Crown’) สองเพื่อนรักที่เติบโตจากการเป็นนักเทนนิสดาวรุ่งมาด้วยกัน แต่ดันมารักผู้หญิงคนเดียวกัน
คนกลางในสมการนี้ คือ ทาชิ ดันแคน (Zendaya จากซีรีส์ ‘Euphoria’ และหนังเรื่อง ‘Spider-Man: Homecoming’) เธอเคยเป็นนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่เพราะอุบัติเหตุในระหว่างการแข่งขัน ทำให้เธอสิ้นสุดเส้นทางนักเทนนิสแล้วผันตัวมาเป็นโค้ชส่วนตัวให้กับ อาร์ต สามีของตัวเธอเอง
แต่เวลานี้เธอมีปัญหา เพราะอาร์ตที่เคยเก่งกาจในทัวนาเมนต์อาชีพกลับมือตกอย่างน่าใจหาย ทำให้ทาชิต้องหาทางให้เขาหวนคืนฟอร์ม หนทางที่เธอกำลังทำให้คือ พาเขากลับสู่รายการชาเลนเจอร์สเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา แต่ทว่า มันกลับให้เธอต้องเจอกับแพทริค แฟนเก่าของตัวเธอเองนี่สิ
รีวิวหนัง ‘ชาเลนเจอร์ส’
ผลงานหนังเรื่องล่าของผู้กำกับ ลูกา กัวดาดีโน ที่มีผลงานการันตีฝีมืออย่าง ‘Call Me By Your Name’, ‘Suspiria’ และ ‘Bones and All’ เขามาพร้อมกับหนังรักอารมณ์นักเทนนิสที่บอกเล่าความรักแบบสามเส้าให้เราได้ซึมซับและลุ้นระทึกไปพร้อมกัน โดยมี จัสติน คูริทซ์เกส มาเขียนบทให้
มันเหมือนจะเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่คุ้นเคย รักสามเส้าที่ตัวละครจะต้องเจอกับวังวน รัก เลิก แล้วสลับเปลี่ยนเป็นอีกคน วนไปไม่รู้วันจบ แต่มันแปลกใหม่น่าสนใจก็ตรงที่มันเล่าไปพร้อมกับชีวิตการเป็นนักเทนนิสนี่แหละ
มันมีทั้งช่วงของการพบเจอกัน ช่วงของการเป็นนักเทนนิสมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ช่วงเวลาของความเจ็บปวด ช่วงเวลาของความเหนื่อยล้า และช่วงเวลาแห่งชัยชนะ ในระหว่างที่ชีวิตดำเนินไป เรื่องราวความรักแบบเราสามคนก็ก้าวเดินไปพร้อมกันด้วย และส่งผลต่ออาชีพนักเทนนิสของทั้งสามอย่างแนบแน่น
หนังพาคนดูดำดิ่งไปกับความฝันที่แตกสลายของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่อาการบาดเจ็บในอวัยวะสำคัญ ส่งผลให้เส้นทางสู่มืออาชีพต้องสะดุดลง แถมยังต้องทนดูคนอื่นก้าวไปอยู่ในระดับโลกโดยที่เธอไม่อาจไปยืนอยู่ตรงนั้น ผู้ชมอย่างเราคือเศร้าซึมไปกับเธอด้วย มันก็เหมือนหยิบเอาความเป็นจริงของนักเทนนิสหลายคนที่ไม่อาจไปต่อ จำเป็นหยุดเส้นทางความฝันก่อนกระโจนเข้าสู่เส้นทางการโค้ช และในเรื่องนี้ ทาชิ เธอหันไปเอาดีทางการเป็นโค้ชให้กับสามี
แต่การเป็นโค้ชให้กับสามีของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย ทาชิต้องอยู่กับการมองความฝันของตนเองในมือคนอื่นตลอดมา ทั้งยังต้องรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้าในวันที่สามีผู้อ่อนไหวไม่อาจเรียกฟอร์มที่ดี พ่ายแพ้ในแกรนด์สแลมอย่างไม่เป็นทาง ความมั่นใจหดหาย จนเธอต้องหาทางแก้ไข พาเขาเข้าสู่รายการชาเลนเจอร์ส แล้วมันก็นำเธอกลับสู่วังวนรักสามเส้าอีกครั้ง
ต้องบอกว่า เซนเดย์อา เธอไม่ใช่แค่สวมบทเป็นสาวนักเทนนิสที่เก่งกาจจนฉายแวว แต่ลีลาท่าทางของเธอก็นับว่ามีเสน่ห์ไม่น้อย เสน่ห์ของเธอนั้นมากพอจะให้ชายหนุ่มเพื่อนรักสองคนต้องรุมรักแตกหักกัน และแน่นอนว่า มันทำให้คนดูอย่างเรา ๆ ก็เผลอใจรักเธอไปด้วย เช่นเดียวกับสองหนุ่ม ไมค์ และ จอช ที่ต่างก็เล่นเอาไว้อย่างเข้าถึง ทั้งด้านลีลาดวลแร็กเกต และด้านของการเป็นเพื่อนรักที่พร้อมหักเหลี่ยมเพื่อนตัวเอง
บทหนังใส่เรื่องมิตรภาพมามากมายพอดูเลยนะ สองหนุ่มที่สนิทกันระดับนอนห้องเดียวกัน แต่ต้องมาแตกหักเพราะรักสาวคนเดียวกันเนี่ย มันน่าปวดใจจริง ๆ ต่างคนต่างก็พยายามจะเล่นเกมปั่นหัวอีกคนเพื่อแย่งชิงหญิงสาวมาเป็นของตน แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องมาต่อสู้ฟาดฟันกันในเกมกีฬา เอาจริง ๆ เราก็ยังไม่แน่ใจนักว่า ข้างในของทาชิตัวปั่นเกมนั้น เธอรู้สึกยังไงกับผู้ชายทั้งสองแบบไหนและแค่ไหน
Taglines: Her game. Her rules.
ของดีอย่างหนึ่งของหนังคือ งานภาพ หนังมันนำเสนอมุมมองที่หลากหลายในระหว่างการแข่งขันรายการระดับมหาวิทยาลัยและรายการชาเลนเจอร์ส ต้องปรบมือให้ยาว ๆ เพราะนี่คือผลงานของคนไทย พี่สอง-สยมภู มุกดีพร้อม ทำเอาไว้ได้ยอดเยี่ยมของจริง และอีกด้านหนึ่งก็คืองานภาพที่ดี มันผนวกเข้ากับดนตรีประกอบที่ส่วนใหญ่เป็นสายซินธ์ ด้วยบีทที่กระชั้นปลุกเร้าอารมณ์ให้ระทึกไปกับทุกวินาทีของการดวลแร็กเกต คนดูเลยได้ลุ้นพร้อม ๆ กันไป ทั้งกับเกมหัวใจและเกมในสนาม
บทหนังจะใช้การสลับไทม์ไลน์ไปมา ทีมงานก็ดูใส่ใจรายละเอียดดี สังเกตได้จากความยาวของผมนางเอกที่จะสั้นลงเรื่อย ๆ ตามเวลา อีกอย่างที่มองเห็นก็คือ แผลตามแขนขาของนักเทนนิสทั้งหลาย บ่งบอกถึงชีวิตนักกีฬาที่ต้องอยู่กับมัน ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างอาร์ต หรือเป็นมือรองบ่อนอย่างแพทริคก็ตามที
เมื่อได้ดูหนังจบ และมาเห็นคำโปรยอย่าง “เกมของเธอ กฎของเธอ” ก็จะเข้าใจได้ทันทีว่า ทำไมหนังจึงโปรยไว้อย่างนี้ เสียดายอยู่อย่างหนึ่ง คือ ถ้าได้ดูในโรง IMAX ที่จอใหญ่ เสียงกระหึ่มกว่านี้ มันจะลุ้นมันกันสักขนาดไหนกันนะ?
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Challengers / ชาเลนเจอร์ส |
กำกับ | Luca Guadagnino |
เขียนบท | Justin Kuritzkes |
แสดงนำ | Zendaya, Mike Faist, Josh O’Connor |
แนว/ประเภท | กีฬา,ดราม่า, โรแมนติก |
เรท | R |
ความยาว | 131 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 1 พฤษภาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Metro-Goldwyn-Mayer (MGM), Pascal Pictures |
คะแนนหนัง ชาเลนเจอร์ส
พล็อตและบท - 8
การแสดง - 8.4
การดำเนินเรื่อง - 8
งานภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 8.4
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
8.2
Challengers
หนังเด่นขึ้นมาจากพล็อตแนวรักสามเส้าทั่วไป เพราะมันใช้วังวนความรักที่คู่ขนานกันไปกับการแข่งขันในสนาม สองหนุ่มเพื่อนรักต้องมาแตกหักเพราะรักสาวคนเดียวกัน และเพราะเทนนิสที่ทำให้เพื่อนรักต้องมาแข่งขันในเกมกีฬาและเกมหัวใจไปพร้อม ๆ กัน หนังใช้สกอร์ที่ชวนตื่นเต้นเร้าใจไปกับทั้งสองเกม กำกับภาพด้วยวิชวลในสนามหลากมุมที่สุดยอดเยี่ยม เสน่ห์ของเซนเดย์อาคือเต็มเปี่ยม เธอเล่นล้อกับหัวใจของชายหนุ่ม ปั่นหัวบงการเกมได้ชนิดที่พวกเขาต่างแพ้ราบคาบ