เมื่อวานไปดูหนังมาครับ ไปทั้งๆ ที่ป่วยๆ อะแหละ จองไว้แล้วดันเล่นเน็ตเพลิน ลืมเวลาซะงั้น เลยต้องจองใหม่ ก็โอเค คราวนี้ไปดูทัน ค่ำคืนของวันเสาร์ ผมอยู่ในโรงหนังสุดไฮโซ วันนี้เลือกโรงดิจิตอลเสียด้วย ภาพคมชัดดีทีเดียว ภาพยนตร์ที่ผมเลือกดูวันนี้ เป็นภาพยนตร์ไทย นามว่า ‘ช็อคโกแลต / Chocolate’
หนังไทยแอ็คชั่นเรื่องใหม่ จากผู้กำกับชื่อ ปรัชญา ปิ่นแก้ว นั่นเอง
วันนี้ เขากลับมาอีกครั้ง พร้อมกับฮีโร่แอ็คชั่นคนใหม่ จีจ้า ญาณิน เปลี่ยนจากผู้ชายมาเป็นผู้หญิงบ้าง โปรโมตว่า ปลุกปั้นมา 4 ปี วันนี้ถึงเวลาส่องแสงในวงการหนังไทย (และอาจจะไกลถึงต่างชาติ)
ปูพื้นให้คนไทยได้รับรู้ว่า เธอจะเป็นเด็กออธิสติก ที่เก่งทางด้านการจับการเคลื่อนไหวและการได้ยิน แล้วก็พัฒนามาเป็นเก่งด้านการต่อสู้ด้วย
เนื้อเรื่องไม่เอาอะไรมาก มาเฟียสองฝ่ายเป็นศัตรูกัน (ฝ่ายไทย กับ ฝ่ายยุ่น) ตัวโตฝ่ายยุ่นแย่งเมียฝ่ายไทย ข้อหานี้หยามไม่ได้ มาเฟียฝ่ายไทยต้องแก้แค้น ด้านเมียระหกระเหินไปพร้อมลูกสาว ที่ไปเจอยาอะไรเข้าก็ไม่ทราบได้ เกิดเป็นเด็กออธิสติก โตมากับเด็กผู้ชายอีกคน (มันเป็นอะไรกันหว่า)
เมื่อผู้เป็นแม่ป่วยด้วยโรคร้าย (โรคไรก็ไม่รู้) ไม่มีเงินรักษา จำเป็นต้องเล่นจำอวดหาตังก์ หนักเข้าไปก็ใช้วิธีทวงตังค์จากลูกหนี้ของแม่ในสมุดจดหนี้
แล้วฉากต่อสู้มันๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น… ถึงตอนนี้ก็ขอให้มันกันอย่างเดียว อย่าไปคิดมาก
แม้ผู้ชมจะรู้สึกสุดมัน สุดทึ่ง กับฉากการต่อสู้ ที่ออกแบบมาอย่างดี ประเภทที่ว่า “เออ คิดได้เนอะ เก่งว่ะ” แต่อย่าไปหาเลยความสมจริง เพราะมันเว่อร์อย่างหาที่สุดมิได้ ตัวโกงแต่ละตัวนี่ ฝึกการต่อสู้ รู้รูปแบบที่จะเอนเตอร์เทนคนดูอย่างยิ่ง อุปกรณ์และ prop ต่างๆ ช่างครบครัน และช่างสรรหาสถานที่ต่อสู้กันได้เก่งจริงๆ อันนี้ ต้องยอมรับ
สิ่งที่ดูเหมือนกับจะเป็นสูตรไปแล้ว สำหรับหนังของปรัชญา นั่นคือ
- ตัวเอก ต้องเป็นพวกแสดงอารมณ์แบบคนปกติไม่ได้ ซีนอารมณ์แบบเข้าถึงไม่มี ทำได้สองอย่าง หน้านิ่งๆ กับหน้าโกรธเกรี้ยว
- ตัวเอก ไม่ต้องมีบทพูดมากมายนัก เลือกที่จะพูดประโยคซ้ำๆ เพียงเพื่อให้คนดูเอาไปล้อกันในวงเพื่อนฝูงคณาญาติ เท่านั้นพอ
- ตัวโกง ต้องมีเยอะๆ เข้าไว้ มากันเป็นสิบ ไม่พอ ยังมีอีกขบวนตามสมทบ ลูกน้อง ไม่ต้องเก่ง เอามาประกอบเท่านั้น
- ตัวโกง นอกจากเชี่ยวชาญในการ prop แล้ว ยังเชี่ยวชาญในการเลือกสถานที่ ต้องเป็นที่ที่คนทั่วไปเขาไม่เข้าไปสู้กัน ต้องหาที่ที่มันเสี่ยงพลาดและเสียงตาย ไม่งั้นไม่หนุก
- พล็อต ทำเพียงหลวมๆ ไม่ต้องสมจริง เพราะคนดูไม่สนหรอก ตรงนั้น
- พล็อต ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ให้คนดูงงๆ ไป เดี๋ยวมันก็ไปถามกันเอาเองใน Pantip ช่วยโปรโมตได้อีกต่างหาก
- แอนิเมชั่น ในหนังเรื่องนี้มีแอนิเมชั่นมาแทรกผสมด้วย เป็นสีสันอย่างหนึ่งของหนัง (แต่รู้สึกมันคุ้นตามากเลยนะ เคยเห็นที่ไหนหว่า อิอิ)
อย่างไรก็ตาม ยังพอมีจุดดีๆ เด่นๆ นอกเหนือจากฉากบู๊อันสุดมันอยู่้บ้าง
- ตัวเอก กตัญญูรู้คุณแม่ พยายามหาเงินมารักษาแม่ อันนี้ ชื่นชม … อ้าว มันพิเศษตรงไหนอะนั่น
- ตอนจบ ทำได้ซึ้งเกือบเข้าขั้น น้ำตาเอ่อๆ ได้นิดหน่อย ใกล้ละๆ
เอาล่ะ คุณคงรู้แล้วว่า ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ เราไปดูอะไรกัน อย่าไปคาดหวัง เรื่องคาดหวังเอาเรื่องเดียวพอ
เพราะคุณจะสมหวังกับมันอย่างแน่นอน สาบานได้ !
ปล. ขอกลับมาใช้คำ “มุข” แบบเดิม เพราะไม่ค่อยเชื่อคนที่ให้ใช้ “มุก” ผมเชื่อมติชนขอรับ เหอๆ
มาแบบอาโน บทพูดน้อยๆ หน้านิ่งๆ ไม่งั้นก็อย่างอย่างคริสเตียน เบล แต่เรื่องนี้เน้นขายศิลปะการต่อสู้ เอามันส์ไว้ก่อน ซีนอารมณ์ช่างมัน ว่าแล้วก็ถามหน่อย ช้างตูอยู่ไหน 555+ :)
อ่านจนจบ .. เหมือนดูหนัง ไอ้มดแดง
ตัวร้ายเยอะ แต่ไม่เก่งสักกะตัว
หัวหน้าตัวร้าย ก็เก่ง แต่เอาเปรียบลูกน้อง
จิ๊วๆๆๆ …
: )
เอามันเข้าว่า เอาท่าเข้าสู้ เอาคนดูเข้าโรง(หนัง) เอากะตังค์ไปจากเป๋า
55
อย่างฮาเลย ประโยคนี้ 555
เคยดูเรื่องอะไรนะ องค์บาก ใช่เปล่า โหยหนังตัวอย่างน่าสนใจมาก แต่ก็ไม่ไปดู มาดูในช่องเคเบิ้ลตอนหลัง อ้อๆ ถูกแล้วที่ไม่ไปดู ฉากบู๊สุดยอดมาก แต่พล็อตเรื่อง การเดินเรื่อง ความสมเหตุสมผลในเรื่อง..ขอโทษ..ส้น มาก
แต่เพื่อนที่ฮ่องกงชมใหญ่เลย ชอบมาก เขาบอกเจ๋งกว่าแจ็คกี้ชาน รายนั้นสริงล้วนๆ เขาไม่ชอบ เขารู้ว่ามันไม่จริง ก็คงงั้น
ช็อคนี่เห็นโฆษณาก็น่าสนใจอยู่ แต่รู้ว่าใครทำก็เลยไม่ไปดู เพราะวิธีเดินเรื่องคงไม่ไกลกว่าองค์บากและเรื่องอื่นๆ
// เรื่อง มุก กับ มุข นี่นาปวดหัวมาก เป็นคำที่เกือบใหม่ ไม่มีใน พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒
ฝากอีกคำงั้น ตังค์ (ไม่ใช่ ตังก์) มาจาก สตางค์
ต้องรอบิ๊กซีนีม่าอีกแล้วครับท่าน :P
เรื่อง มุก กับ มุข นี่ก็งงเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่าแหล่งไหนเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ผมใช้มุขนะ
กะไปดูฉากต่อสู้อย่างเดียวเลย..ก็เลยไม่ได้ผิดหวังมากนะครับ
ส่วนอย่างอื่นเห็นด้วยกับคุณ pat
คิวบู้ก็ดีนะ ผมว่าถ้าเดินเรื่องดีๆอีกนิดแจ๋วเลย