ภาพยนตร์

รีวิวหนัง Fifty Shades Freed ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด | บทสรุปไตรภาคมิสซิสเกรย์

เมื่อแอนาและมิสเตอร์เกรย์ถึงคราวแต่งงานกัน แต่เจอโจทก์เก่ากลับมาทำร้าย

ภาพยนตร์บางเรื่องสร้างจากหนังสือสามารถจะไปได้รอดจนถึงภาคจบ ในขณะที่บางเรื่องก็จอดตั้งแต่ภาคแรก มีบางเรื่องที่เสียงตอบรับไม่ใคร่ดีนัก ทว่าก็สามารถฝ่าฟันมาจนถึงภาคจบได้ หนึ่งในนั้นคือ ‘Fifty Shades Freed’ หรือชื่อไทยแบบถอดมาตรงๆ ว่า ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’ นั่นแหละครับ

ภาพจากหนัง Fifty Shades Freed ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด
ภาพจากหนัง ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’

เรื่องราวการพบรักและการดำเนินไปของความรักหว่างสาวสวย แอนัสตาเซีย สตีล และมิสเตอร์ เกรย์ ได้ดำเนินมาถึงบทสรุปกันเรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่ติดตามกันมาตั้งแต่ตอน คราวนี้จะได้พบว่าพวกเขาจะดำเนินชีวิตไปทางไหน

กันได้เสียที..


เรื่องย่อหนัง ‘Fifty Shades Freed’

เรื่องราวของพวกเขาดำเนินมาถึงช่วงที่ทั้ง แอนา (Dakota Johnson) และ มิสเตอร์เกรย์ (Jamie Dornan) ได้กลายเป็นสามีภรรยากันแล้ว การแต่งงานผ่านพ้นไป ก็ได้เวลาที่พวกเขาจะได้อยู่กินกันเต็มๆ เสียที

ซึ่งลีลาความรักของพวกเขาก็ไม่ได้จืดจางลงไปเลย

แถมพวกเขาจะได้ไปฮันนีมูนด้วยกัน การที่เขาได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเยี่ยงนี้ ยิ่งให้ลีลารักเร่าร้อนเกิดขึ้นถี่ขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว แต่ชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างหนัง ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’

แอนากลับมาทำงานที่เก่าอีกครั้ง แต่คราวนี้ได้เป็นถึง บก.บันเทิงคดี เลยทีเดียว สามีก็พาบอดี้การ์ดตามมาอารักขาไม่ห่าง เขายืนยันจะรักเธอคนเดียวตลอดไป ทว่าก็มีสาวหลายหน้ารอบตัวเขา ขณะเดียวกัน เขาและเธอก็กำลังโดนตามรังควานจากคนที่คุ้นเคย แจ็ค ไฮด์ (Eric Johnson) ที่คงผูกใจเจ็บจากเรื่องเก่า เขาและเธอจะผ่านพ้นมันไปอย่างไร

ภาคนี้เขาว่าคือไคล์แมกซ์


รีวิวหนัง ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’

ภาคจบของไตรภาคหนังจากหนังสือขายดี นิยายรักอีโรติกเรื่องราวของสาวสื่อกับหนุ่มฮอตหล่อไฮโซรวยหรูดูน่าฟัด ที่เริ่มตั้งแต่วันที่เธอเข้าไปนั่งสัมภาษณ์เขาถึงบริษัท ก่อนความสัมพันธ์ทางกายและใจจะเริ่มต้นขึ้น

จนภาคนี้ พวกเขาแต่งงานเป็นสามีและภรรยาอยู่กินกันแล้ว…

ปกติ พวกเขาคบกันก็ยังสนุกกับการทำรักกันทุกที่ ยิ่งเมื่อแต่งงานกันไปแบบนี้ พวกเขายิ่งหนักข้อขึ้น เวลาไหน สถานการณ์ใด ก็ดูเหมือนจะจุดติดได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

ภาพจากหนัง Fifty Shades Freed ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด
ภาพจากหนัง ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’

ช่วงครึ่งแรกของหนังเรียกได้ เดินไปไม่ต่างอะไรกับภาคก่อนนัก แทบไม่มีเส้นเรื่องมากนัก นอกจากทั้งสองแต่งงาน ไปฮันนีมูนด้วยกัน และต่างฝ่ายต่างเรียกร้องต้องการซึ่งกันและกัน เพียงแต่ตัดต่อออกมาได้อารมณ์มากกว่าภาคก่อน

ซึ่งก็น่าจะเป็นอะไรที่คนอยากจะได้จากหนังเรื่องนี้กันอยู่แล้ว

อีกสิ่งที่ยังคงอยู่ คือ การเล่าเรื่องที่เขยิบไปนิดหน่อย ต่อด้วยฉากเซ็กส์อันเร่าร้อน แล้วต่อด้วยฉากที่มีเพลงประกอบ ลำดับการเล่าเหมือนได้ดูเอ็มวีที่ต่อๆ กันยาวๆ แม้ว่าแต่ละเพลงจะอยู่ในระดับที่เพราะมากก็ตาม

สิ่งที่รู้สึกว่าแตกต่างออกไป ก็คือ หนังเริ่มจะมีเรื่องราวให้เราได้ติดตามมากขึ้น ภาคนี้นอกเหนือจากความโรแมนติกเชิงอีโรติกแล้ว ยังพ่วงความเป็นทริลเลอร์เข้ามาผสม ด้วยความน่าสงสัยของการติดตามกึ่งทำร้ายของบุคคลต้องสงสัย ที่ไม่น่าจะมีใครอื่น นอกจากแจ็ค ไฮด์

ที่ทำให้ครึ่งหลังของหนังแทบจะสิ้นความโรแมนติกเชิงอีโรติกไปเลยทีเดียว

โปสเตอร์หนัง ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด
โปสเตอร์หนัง ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’ เวอร์ชันไทย

สิ่งที่ยังมีอยู่เหมือนเดิม เป็นจุดขายและยังคงดี คือ พระเอกหุ่นหล่อล่ำ กับนางเอกหน้าสวยหุ่นแซ่บ หากตัวละครที่หลายคนจ้องตาเป็นมันคงเป็น บอดี้การ์ดสุดหล่อหน้าเข้มที่ชวนกระชากใจสาวเสียยิ่งกว่าพระเอก ทำเอาหลายคนแปลกใจยิ่งนักที่นางเอกกลับไม่หวั่นไหว

ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กันแทบจะตลอดเวลา

ภาพจากหนัง Fifty Shades Freed ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด
ภาพจากหนัง ‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’

‘ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด’ พยายามจะเล่าเรื่องให้ต่างออกไป แต่ก็เหมือนว่าปัญหาของหนังอยู่ที่การพยายามจะฉีกจากสิ่งที่ตัวเองเป็นมานานเพื่อหาอะไรที่แตกต่าง ทว่าก็ไม่ได้ดูดีเทียบเท่าหนังทริลเลอร์แอคชั่นที่สร้างกันเต็มตลาด อาจเพราะบทมีความอารมณ์หญิงปะปน แถมยังเล่าเรื่องได้ไม่แน่นมากขนาดนั้น

มันจึงพอดูได้เพลินๆ มีอะไรให้สัมผัสมากกว่าวันๆ จ้องจะมีอะไรกันในสถานการณ์ต่างๆ แต่อย่างเดียว

อาจไม่ใช่ภาคสรุปที่ทำได้เลอเลิศเหมือนอย่างหนังภาคจบที่เคยคุ้นมา แต่การได้ติดตามมาถึงสองภาค ก็คงไม่อยากพลาดภาคสุดท้าย แม้จะทำได้น่าสนใจขึ้น

แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น


ชื่อภาพยนตร์: Fifty Shades Freed / ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด
ผู้กำกับภาพยนตร์: James Foley
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Niall Leonard (screenplay by), E.L. James (based on the novel by)
นักแสดงนำ: Dakota Johnson, Jamie Dornan, Eric Johnson, Eloise Mumford, Rita Ora, Luke Grimes, Brant Daugherty
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ความยาว: 95 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Romance, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ปี: 2018
เรท: ไทย/ฉ20+, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 8 กุมภาพันธ์ 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Universal Pictures

ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด

Fifty Shades Freed - 6

6

Fifty Shades Freed

เรื่องราวที่ดูมีเนื้อมีหนังขึ้นก็จริง ทว่าก็แทบจะทิ้งเสน่ห์ของหนังที่เน้นอีโรติกมาถึงสองภาคลงไป ภาคนี้ ครึ่งแรกยังคงเหมือนเดิมอยู่ ทว่าครึ่งหลัง เน้นการตามจับคนร้ายจนแทบลึมอีโรติกไปเกือบหมดสิ้น ซึ่งก็ไม่ได้มีสลับซับซ้อนมากมาย ชิ้นเชิงของการตามล่าถือว่ามาแบบเก้ๆ กังๆ ถึงแม้จะสรุปเรื่องราวได้ แต่ก็ชวนให้ยากจะประทับใจได้ โดยรวมแค่ดีกว่าภาคก่อนเล็กน้อย

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ