ขึ้นชื่อว่าแม่ ก็ต้องเน้นทำเพื่อลูกเป็นสำคัญ เมื่อคนหนึ่งต้องสูญเสียลูกไป หน้าที่แม่จึงสั่นสะเทือนหนักหน่วง หนังที่สองนักแสดงตัวแม่ทั้งโปรดิวซ์ ทั้งเล่นเอง พวกเธอจะทิ้งความเป็นเพื่อนซี้ไปเสียก่อน แล้วฟาดฟันทางด้านการแสดงในบทสองแม่กันอย่างเต็มที่ ใน ‘Mothers’ Instinct’ หรือชื่อไทย ‘สันดานแม่’ นั่นแหละครับ
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
เป็นหนังที่มีคอนเซปต์เล่าเรื่องของบ้านสองบ้านที่ปลูกอยู่ติดกัน สองครอบครัวที่สนิทกันมาก แต่ความสัมพันธ์ของสองบ้าน โดยเฉพาะสองแม่ ต้องขาดสะบั้น เมื่อลูกบ้านหนึ่งเสียชีวิตไป คนที่ถูกบีบให้มีเพียงหน้าที่แม่ ต้องสูญเสียหน้าที่เดียวของตัวเองไป จึงทำให้เพื่อนที่เคยรักกันมาก กลับกลายเป็นความอิจฉาและบาดหมาง หนังแทรกเรื่องสังคมชายเป็นใหญ่อยู่ในนั้น ขณะเดียวกันก็เดินเรื่องด้วยสองนักแสดงนำที่เป็นเพื่อนซี้กัน ต่างคนต่างเล่นไว้ได้ดีกันทั้งคู่ แต่ก็ยังดูชวนรู้สึกสะดุดในความไม่ต่อเนื่องของบุคลิกและความคิดตัวละคร
แต่ใด ๆ ก็คือ ชอบในโทนหนังที่เล่ายุค 60’s และชอบในการแสดงของ เจสสิกา แชสแทน และ แอนน์ แฮทธาเวย์ ที่โดดเด่นจริง ๆ จัง ๆ
เรื่องย่อหนัง ‘Mothers’ Instinct’
มันเป็นเรื่องของเพื่อนบ้านเพื่อนสนิทสองคนที่มีบ้านอยู่ข้างกันในยุค 60’s ทั้งสองคนต่างมีฐานะและครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข ทั้งยังมีลูกชายวัยเดียวกัน ตัวแม่คนแรกคือ อลิซ (เจสสิกา แชสเทน จากหนังเรื่อง ‘Armageddon Time’ และ ‘Zero Dark Thirty’) ผู้เป็นแม่ของ แม็กซ์ และอีกหนึ่งคือ เซลีน (แอนน์ แฮทธาเวย์ จากหนังเรื่อง ‘Les Misérables’ และ ‘Interstellar’) ผู้เป็นแม่ของธีโอ
แต่แล้วในวันหนึ่ง ก็กลับเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นกับแม็กซ์ ลูกชายของเซลีน และเหตุการณ์นั้นส่งผลให้ความสัมพันธ์อันดีของเพื่อนสาวสองคนต้องเปลี่ยนแปลงไป
รีวิวหนัง ‘สันดานแม่’
จากนิยายเรื่อง ‘Derrière la haine’ (Mothers’ Instinct) ที่เขียนโดย บาร์บารา อาเบล มันถูกดัดแปลงให้กลายเป็นหนังรางวัลสัญชาติเบลเยี่ยม ชื่อ ‘Duelles’ ในปี 2018 หลังกวาดรางวัลจากเวที Magritte Awards หรือออสการ์ของเบลเยียมไปถึง 9 สาขา ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นฉบับฮอลลีวูดโดย ซาราห์ คอนราดต์ ผู้เขียนบท โดยมี เบอนัวต์ เดอลอมม์ เป็นผู้กำกับ
หนังเวอร์ชันนี้พาเราย้อนกลับไปในยุค 60’s ที่เสื้อผ้าหน้าผม บ้านเรือน รถรา และสังคม ทุกอย่างย้อนกลับไปอยู่ในยุคนั้นทั้งหมด มันเลยกลายเป็นความน่าสนใจที่คนดูได้เห็นตัวละครในยุคที่ชายเป็นใหญ่ แต่ในหนังผู้หญิงต่างหากที่เป็นตัวเดินเรื่อง
ในนั้น มันบอกเล่าถึงครอบครัวของอลิซที่อยากจะกลับไปทำงานเป็นนักข่าวอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเธอต้องเก็บกดความอึดอัดเอาไว้หลังได้ฟังคำของสามี ที่สกัดกั้นไม่ให้เธอได้ทำตามความปรารถนา ราวกับเมื่อแต่งไปแล้ว หน้าที่ของเธอหลงเหลือเพียงหน้าที่ของการเป็นแม่เท่านั้น เช่นเดียวกับ เซลีน ที่ต้องเลิกทำงานพยาบาลและกลายเป็นแม่บ้านเต็มเวลา แต่ฝั่งเซลีนมีปัญหาทางจิตใจพ่วงเข้ามาด้วย เพราะว่าเธอเป็นคนมีลูกยาก จากความพยายามหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุด เธอก็มีแมกซ์ ลูกชายคนเดียวที่เธอรักดังดวงใจ
สองบ้านดูจะสนิทกันอย่างมาก ต่างฝ่ายต่างก็ให้กุญแจบ้านแก่กัน พวกเขาสามารถไขประตูเข้าอีกบ้านได้เพราะความไว้ใจ แต่ในวันที่ทุกอย่างดูจะสมบูรณ์พร้อม ก็กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน แมกซ์ ลูกชายของเซลีน ตกลงมาจากชั้นบนและเสียชีวิต โดยที่อลิซเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่ไม่อาจช่วยเอาไว้ได้ เป็นเหตุให้เซลีนปวดร้าวอย่างหนัก ลูกคนเดียวที่กว่าจะได้มา แต่กลับสูญเสียไปไม่หวนคืน
นั่นแหละ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองเพื่อนสองบ้านต้องเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งนับวันยิ่งจะหมางเมินและเป็นรอยร้าวที่ยากเกินประสาน
งานนี้ คงต้องบอกว่า มันคือการฟาดฟันกันระหว่างสองตัวแม่แห่งวงการฮอลลีวู้ด ทั้ง แอนน์ แฮทธาเวย์ และ เจสสิกา แชสเทน ต่างก็เป็นเพื่อนซี้กัน ต่างคนต่างทั้งโปรดิวซ์ทั้งแสดงหนังด้วยกัน ต้องทิ้งความเป็นเพื่อนไป สวมบทบาทแม่ที่ไม่มีใครยอมใคร ในเรื่องราวที่ค่อนข้างปั่นประสาทอยู่พอประมาณ เมื่อคนหนึ่งเสียลูกรักไปและได้แต่เฝ้ามองอีกคนที่ยังมีลูกรักอยู่ในอ้อมกอด แม้เป็นเพื่อนรักกันแต่อะไรก็เปลี่ยนไปได้ ด้วยเหตุผลด้านอีโมชั่นล้วน ๆ
สิ่งที่เห็นชัด นอกเหนือจากงานคอสตูมและโปรดักชั่นดีไซน์ที่ต้องให้เป็นยุค 60’s อย่างแนบเนียน ก็คงจะเป็นวิธีการแสดง รวมไปถึงบทพูด ที่ก็ต้องหยิบเอาบริบทของยุคสมัยนั้นมาใส่ไว้ แต่ก็อาจจะไม่ค่อยชอบนักเป็นการส่วนตัวสำหรับการเดินเรื่อง ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องความสมเหตุสมผล แต่มองว่าบางจุดมีความกระโดด ข้ามขั้นไปเหมือนไม่อยากพูด เราอาจเห็นตัวละครแสดงอาการที่ดูไม่ต่อเนื่องจากฉากก่อนหน้า อันนี้ ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรืออะไรอย่างอื่นเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว
อีกส่วนหนึ่งที่สัมผัสได้ ก็คือ อารมณ์ของหนังที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันแทบทั้งเรื่อง อาจเพราะเรื่องที่ออกจะ 60’s มันก็เลยพามู้ดของทั้งเรื่องให้เป็นไปในโทนนั้น แต่ก็มีบ้างบางช็อตที่พาช็อคพาอึ้งบ้าง ทำให้หนังดูไม่ราบเรียบเกินไป แม้ตัวบทจะพยายามปั่นประสาท มีความเป็นหนังดราม่ากลิ่นจิตวิทยา หรือนักแสดงจะเล่นไว้ได้ดีแค่ไหน แต่หนังก็ยังดูแห้งแล้ง ก่อนจะลงเอยไปอย่างอึนๆ
เอาเป็นว่า เราไปดูหนังเรื่องเพื่อชื่นชมการแสดงของสองตัวแม่ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมและการเกลี่ยสีที่ย้อนยุค อะไรประมาณนั้นก็แล้วกัน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Mothers’ Instinct / สันดานแม่ |
กำกับ | Benoît Delhomme |
เขียนบท | Barbara Abel, Sarah Conradt |
แสดงนำ | Anne Hathaway, Jessica Chastain, Baylen D. Bielitz, Eamon Patrick O’Connell |
แนว/ประเภท | ดราม่า, ระทึกขวัญ |
เรท | MPAA/R, ไทย/น18+ |
ความยาว | 94 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 4 เมษายน 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Anton, Freckle Films, Mosaic |
คะแนนรีวิวหนัง สันดานแม่
พล็อตและบท - 6.5
การแสดง - 7.7
การดำเนินเรื่อง - 6.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 6.8
การถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 7.5
7
Mothers' Instinct
เป็นหนังที่มีคอนเซปต์เล่าเรื่องของบ้านสองบ้านที่ปลูกอยู่ติดกัน สองครอบครัวที่สนิทกันมาก แต่ความสัมพันธ์ของสองบ้าน โดยเฉพาะสองแม่ ต้องขาดสะบั้น เมื่อลูกบ้านหนึ่งเสียชีวิตไป คนที่ถูกบีบให้มีเพียงหน้าที่แม่ ต้องสูญเสียหน้าที่เดียวของตัวเองไป จึงทำให้เพื่อนที่เคยรักกันมาก กลับกลายเป็นความอิจฉาและบาดหมาง หนังแทรกเรื่องสังคมชายเป็นใหญ่อยู่ในนั้น ขณะเดียวกันก็เดินเรื่องด้วยสองนักแสดงนำที่เป็นเพื่อนซี้กัน ต่างคนต่างเล่นไว้ได้ดีกันทั้งคู่ แต่ก็ยังดูชวนรู้สึกสะดุดในความไม่ต่อเนื่องของบุคลิกและความคิดตัวละคร แต่ใด ๆ ก็คือ ชอบในโทนหนังที่เล่ายุค 60's และชอบในการแสดงของ เจสสิกา แชสแทน และ แอนน์ แฮทธาเวย์ ที่โดดเด่นจริง ๆ จัง ๆ