ได้เวลาเดินเข้าสู่โรงหนังอีกครั้ง เพื่อพบกับหนังที่เตรียมส่งเข้าฉายในโรงไทย เริ่มต้นสัปดาห์ด้วย ‘The Zookeeper’s Wife’ หนังดราม่าที่เล่าเรื่องโดยอิงจากเรื่องจริงของสวนสัตว์ในโปแลนด์ที่มีส่วนช่วยเหลือชาวยิวในช่วงสงคราม
ถ้าพูดถึง Niki Caro ผู้กำกับฯ หญิงของภาพยนตร์เรื่องนี้ หลายคนอาจรู้สึกไม่คุ้นหู แต่คอหนังจะคุ้นชื่อเธอมาบ้าง เธอคือเจ้าของผลงานการกำกับฯ ‘McFarland, USA’ , ‘North Country’ และ ‘Whale Rider’
แต่สำหรับบางคนนี่อาจจะเป็นการทำความรู้จักกับเธอครั้งแรก
เรื่องย่อหนัง ‘The Zookeeper’s Wife’
ในโปแลนด์ มีสวนสัตว์แห่งหนึ่งที่มีอายุยืนยาวนานและผ่านการสงครามพร้อมวีรกรรมที่หลายคนไม่หลงลืม สวนสัตว์วอร์ซอ (Warsaw Zoo) ใจกลางกรุงวอร์ซอ มีเจ้าของเป็นคู่สามีภรรยา Antonina (Jessica Chastain) และ Jan Zabinski (Johan Heldenbergh) ทั้งสองสร้างให้สวนสัตว์แห่งนี้มีแต่ความสุขให้กับผู้คนและครอบครัวที่มาเที่ยวชม เธอรู้จักและรักสัตว์ทุกตัว หนังนำเสนอความรักที่เธอมีให้กับสัตว์อย่างเต็มที่มากๆ ในช่วงต้น
ก่อนที่สงครามจะเข้ามาและพัดพาเอาความสุขหายมลายไปเสียสิ้น
มีกองทหารเยอรมนีเข้ามาควบคุมเมือง ใช้สวนสัตว์เพื่อตั้งฐาน และยังมีชายอีกคน Lutz Heck (Daniel Brühl) นักสัตววิทยาที่เข้ามาในนามของฮิตเลอร์เพื่อจัดการทุกอย่างเพื่อให้ทหารได้ใช้สถานที่นี้ตามอำเภอใจ แถมยังมีท่าทีจะเล่นชู้กับภรรยาเจ้าของสวนสัตว์เข้าเสียอีก
แต่เหมือนพวกเขาจะไม่ยอมเห็นชาวยิวตกที่นั่งลำบาก จึงเลือกจะช่วยเหลือให้ที่พำนักให้แอบซ่อนอยู่ในสวนสัตว์
แม้ว่านั่นจะเป็นภารกิจที่แสนอันตรายมากมายก็ตามที
รีวิวหนัง ‘ฝ่าสงคราม กรงสมรภูมิ’
นี่คือผลงานการกำกับฯ ของมือกำกับฯ หญิง ผ่านตัวละครและการเดินเรื่องที่ค่อนข้างเป็นหญิงอย่างรู้สึกได้แจ่มชัด มี Jessica Chastain เป็นนักแสดงนำและเป็นตัวละครหลักของเรื่อง และมีสามีของเธอในเรื่องคอยเป็นตัวละครสนับสนุน
เจสสิก้า แชสเทน แทนความอ่อนไหวจิตใจดี
เธอคือ แอนโตนีนา ซาบินสกี ที่มีอารมณ์อ่อนไหว เธอคือจิตใจของสวนสัตว์ ก่อนสงครามที่นี่คือสถานที่ที่อบอวลด้วยความคิดแง่บวก เธอทักทายทุกคนทุกตัวทุกเช้าด้วยคำสวัสดี แต่หลังจากได้เจอสงคราม เธอก็ต้องเข้มแข็งขึ้นเพื่อครอบครัวของตนเอง และต่อมาเธอก็ใช้ความจิตใจที่ไม่อาจเห็นเพื่อนและเพื่อนมนุษย์ต้องตกระกำลำบากจากผู้มาเยือนที่ไม่หวังดี
แม้เธอจะพูดอังกฤษในหนัง แต่ก็พยายามจะใส่สำเนียงในแบบโปแลนด์เข้าไป เจสสิก้า แชสเทนใส่ทั้งสีหน้า แสดงทั้งท่าทาง ทุ่มสุดตัวกับการเป็นผู้หญิงที่เป็นหัวใจของสวนสัตว์แห่งนั้น
วิบากกรรมที่มาพร้อมสงคราม กำลังทหารที่รุกรานสวนสัตว์อันแสนสุขสงบ ชีวิตของสาวสวย ลูกหนึ่ง สามีหนึ่ง กำลังต้องทุกข์ทนกับชายอีกคนที่เข้ามาเพื่อหวังประโยชน์หลายอย่าง นอกเหนือจากปัญหาที่เธอต้องรับมือกับการแอบซ่อนผู้คนจากทหารนาซี แต่อีกด้าน เธอก็ยังต้องต่อสู้กับความไม่เข้าใจกันในครอบครัวอีกด้วย
ยอมรับอย่างหนึ่ง ว่านักแสดงสัตว์ทั้งหลายในเรื่องนี่ช่างแสนน่ารักยิ่งนัก หนังไม่ได้เน้นฉากสงครามสักเท่าไหร่ หากแต่เน้นหนักไปที่การอยู่ร่วมกันและการเอาตัวรอดของมนุษย์ผู้ที่เปรียบตัวเองว่าเจริญยิ่งกว่าสัตว์
มันคือความเลวร้ายของสงครามที่แสดงออกในอีกด้านหนึ่ง
แม้ว่าบางส่วนจะยังดูเหมือนละครเวทีอยู่หน่อย ๆ
แม้ทั้งหมดจะดูเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริงในช่วงเวลาที่สงครามการห้ำหั่นของมวลมนุษย์กัดกินความรักที่เราควรมีให้กันจนเกือบหมดสิ้น แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าหลายๆ ส่วนของหนังเหมือนจะตั้งใจนำเสนอแบบจงใจจนใกล้เคียงจะเป็นละครเวทีที่แสดงกันล้นๆ
และตั้งใจจะใส่ดราม่าให้หนักข้ออะไรเช่นนั้น
หนังเรื่องดัดแปลงบทจากหนังสือที่เขียนขึ้นจากตัวคนที่มีอยู่จริงๆ แต่ก็น่าจะเป็นการกำกับฯ ในระดับหนึ่งด้วยแหละ ที่ทำให้หนังออกมาในลักษณะนี้ ด้วยเสน่ห์ของเจสสิก้ามีส่วนที่เราอยู่กับหนังไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ก็กลับพบว่า หนังทำให้รู้สึกว่าดูได้เพลินๆ ไม่ได้อินซึมลึกอะไรขนาดนั้น ขณะที่ช็อตที่ชวนน้ำตาไหลก็มีอยู่ช็อตเดียว แถมทำได้แค่เกือบน้ำตาไหล
แต่สิ่งที่รู้สึกได้เต็มๆ คือ ในความเลวร้าย ในไฟที่เผาไหม้เมืองวอร์ซออยู่ มันก็ยังมียอดอ่อนที่กำลังจะแตกออกเป็นต้นใหม่อยู่ใจกลางที่ตรงนั้น
ในสงครามที่เลวร้าย ร่องรอยของความหดหู่ ยังมีความหวังแฝงตัวอยู่
เราอาจเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ต่างกันราวพลิกฝ่ามือ ในวันสุดท้ายที่ปรากฏในหนัง ดูช่างต่างกับวันแรกเหลือเกิน ความโอบอ้อมอารีที่ยอมให้คนยิวมาอาศัยร่วมชายคาทั้งที่ตนเองก็ประสบเคราะห์กรรม ถูกทิ้งระเบิด ถูกขนย้ายและยืนดูเขาฆ่าสัตว์ต่อหน้าต่อตา อย่างน้อยก็พอจะแสดงให้เห็นว่า
แม้เราจะมีสงครามที่เลวร้าย แต่ก็ยังมีน้ำใจที่กล้าหาญแฝงตัวอยู่
ในซากปรักหักพัง เราก็ยังจะพบต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่ยังยืนยันที่จะมีชีวิต แม้มองดูแล้วจะเห็นร่องรอยของการบาดเจ็บ แต่ก็ยังพอมีวี่แววของความแข็งแกร่งไม่ยอมแพ้อยู่ หนังไม่ได้ดูสร้างความหดหู่มากจนเกินไปนัก มีช่วงให้ระทึกบ้างบางที
พอให้รู้สึกเอาใจช่วยไปจนสุดทาง
สวนสัตว์อาจเป็นเหมือนกรงที่ขังเหล่าสัตว์เอาไว้ หากแต่มันก็ดูมีความสุขมากพอกับการได้อยู่กับคนที่รักมัน ขณะที่มนุษย์เสียอีก ที่คล้ายว่าจะมีอิสรภาพมากกว่าสัตว์ในกรง แต่เมื่อเกิดสงคราม แม้กรงสัตว์ก็อาจเป็นที่พึ่งเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยให้กับมนุษย์ได้
สัตว์อาจถูกดูหมิ่นจากมนุษย์ว่าเป็นเดรัจฉาน แต่มันก็ฆ่าตัวอื่นเพื่อประทังความหิวโหย มนุษย์เสียอีกที่ฆ่ากันด้วยเหตุด้านผลประโยชน์และความคั่งแค้นภายใน ยิ่งดูหนังที่พูดถึงเรื่องแบบนี้ทุกวัน เราคงจะให้คำตอบตัวเองได้
ระหว่างสัตว์กับคน ใครที่เลวร้ายกว่าใคร…
ชื่อภาพยนตร์: The Zookeeper’s Wife / ฝ่าสงคราม กรงสมรภูมิ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Niki Caro
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Angela Workman (screenplay), Diane Ackerman (book)
นักแสดงนำ: Jessica Chastain, Johan Heldenbergh, Daniel Brühl, Timothy Radford, Michael McElhatton, Shira Haas
ความยาว: 127 นาที
แนว/ประเภท: Biography, Drama, History, War
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
ดนตรีประกอบ: Harry Gregson-Williams
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 4 พฤษภาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Scion Films, Czech Anglo Productions, LD Entertainment, Mongkol Major
ฝ่าสงคราม กรงสมรภูมิ
The Zookeeper's Wife - 6.9
6.9
The Zookeeper's Wife
สัตว์อาจถูกดูหมิ่นจากมนุษย์ว่าเป็นเดรัจฉาน แต่มันก็ฆ่าตัวอื่นเพื่อประทังความหิวโหย มนุษย์เสียอีกที่ฆ่ากันด้วยเหตุด้านผลประโยชน์และความคั่งแค้นภายใน ยิ่งดูหนังที่พูดถึงเรื่องแบบนี้ทุกวัน เราคงจะให้คำตอบตัวเองได้ ระหว่างสัตว์กับคน ใครที่เลวร้ายกว่าใคร