รีวิวหนัง ผ้าผีบอก | ใครฆ่าหอมนวล? เบียวแล้ว ต้องไปให้สุด!

หลังได้รับข่าวคราวมานานราว 1 ปี วันนี้ก็ถึงเวลาที่ได้ยลผลงานของเหล่านักแสดงและทีมงานกันเสียที เริ่มต้นที่ชวนให้คิดว่าน่าจะออกมาเป็นหนังผี แต่พอได้ดูทีเซอร์แล้วก็ชักจะเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ ยิ่งตัวอย่างหนังก็ยิ่งบอกชัดว่า นี่ท่าจะมาทางสายหนังฮาแต่ว่ามีผีเป็นส่วนประกอบ เมื่อไปดูจริงๆ จึงได้พบว่า ‘ผ้าผีบอก’ เป็นหนังแฟนตาซีลึกลับตลก บวกโรแมนติกหน่อยๆ

ด้วยความที่ iAM Films เริ่มรุกงานหนัง เรื่องแรกก็จัดเต็มขนเมมเบอร์ BNK48 มาทีเดียว 5 คน จัดนักแสดงชายมาเสริมทัพสร้างสีสัน มีมะเดี่ยวมาเป็นโปรดิวเซอร์ดูแลการผลิต ส่งไม้ให้ ณัฐพงษ์ อรุณเนตร รับหน้าที่กำกับ หลายคนก็อาจสงสัยว่าเขาเคยมีผลงานอะไรออกมาก่อนหน้าบ้าง ก็จะบอกว่า เขาเคยเป็นผู้กำกับร่วมในซีรีส์ ‘ทริอาช’ ก่อนหน้านั้น ก็คือเคยผลงานการแสดงในหนังอย่าง ’13 เกมสยอง’ , ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ และ ‘หลุดสี่หลุด’ หนังเรื่องนี้คงจะเป็นงานแรกๆ ที่เขาได้บินเดี่ยวอย่างจริงๆ จังๆ สักที

ว่าแล้ว ก็เริ่มต้นด้วยเรื่องย่อ ไปรู้จักกับเรื่องราวในหนังไทยเรื่องนี้กันเลยครับ

เรื่องย่อหนัง ‘ผ้าผีบอก’

เมื่อพันปีก่อน ณ เวียงไชยเชษฐ์บุรี เจ้าหลวงรังสิมันต์ (หยิ่น-อานันท์ ว่อง จากซีรีส์เรื่อง ‘Love Mechanics กลรักรุ่นพี่’) จัดแข่งขันทอผ้าขึ้นเพื่อเลือกชายาเป็นเจ้านางหลวงคู่บัลลังก์ แต่ในวันถวายผ้า อัญญานางหอมนวล (วี วีรยา จาง/วี BNK48 จากหนังเรื่อง ‘Mother Gamer’) จากนครผางาม กลับถูกรัดคอตายโดยไม่อาจล่วงรู้ตัวผู้กระทำ

พันปีต่อมา อชิ (วอร์ – วนรัตน์ รัศมีรัตน์ จากซีรีส์เรื่อง ‘Love Mechanics กลรักรุ่นพี่’)​ หนุ่มวัยรุ่นโอตาคุผี พาทีมงานมาบ้านยายทวดที่เชียงใหม่ แอบเข้าไปในห้องเก็บของแล้วดันไปสัมผัสผ้าตุ้มโบราณเข้าเลยได้เจอกับอัญญานางหอมนวล ที่ปรากฏและประกาศว่า หากใครได้สัมผัสและไม่อาจหาคนร้ายที่ฆ่าเธอได้ภายใน 3 วัน คนผู้นั้นจักต้องตาย

งานสืบหาคนฆ่าตัวจริงจึงเริ่มต้นขึ้น ผู้ต้องสงสัยย่อมไม่พ้น สาระปี (มิลิน ดอกเทียน/น้ำหนึ่ง BNK48 จากหนังเรื่อง ‘ไทบ้านxBNK48 จากใจผู้หญิงคนนี้’) เจ้านางฝีปากกล้าแห่งนครภวินท์ สะบันงา (จิรดาภา อินทจักร/ปูเป้ BNK48) เจ้าหญิงขี้เมาเจ้าเล่ห์แห่งเมืองกวินทราบุรี และ เก็ดถะหวา (พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค/โมบายล์ BNK48 จากหนังเรื่อง ‘ไทบ้านxBNK48 จากใจผู้หญิงคนนี้’) เจ้านางผู้อ่อนแอขี้โรคแห่งเมืองไชยเชษฐ์บุรี

การสืบหาอดีตครั้งนี้ อชิจะทำได้สำเร็จหรือไม่ อัญญานางหอมนวลจะเป็นอิสระจากความแค้นได้หรือเปล่า คงต้องไปดูหนังกัน

รีวิวหนัง ‘ผ้าผีบอก’

ตอนแรกอาจจะคิดว่าเป็นหนังผี ดูไปอีกที เอ รึว่าเป็นหนังตลก แต่ที่จริงมันผสมหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน ทั้งเรื่องราวย้อนยุค ย้อนไปราวพันปีชนิดที่ไม่ต้องไปสนว่าสมัยนั้นมันจะมีเรื่องแบบนี้หรือไม่ ทั้งเรื่องราวลึกลับที่เริ่มต้นด้วยปริศนา “ใครฆ่าหอมนวล?” และเมื่อตัวละครเข้าไปสืบสาวราวเรื่องก็กลับได้พบว่า ผีที่ตนคิดว่าจะได้เจอ พวกเธอกลับมีอะไรที่แฟนตาซีบ้าบอเข้ามาด้วย ระหว่างนั้นก็จัดเต็มมุกตลกเรี่ยราดไม่มีหยุด แต่ในทุกสิ่งที่ว่ามานั้น ก็มีเรื่องราวโรแมนติกแทรกซึมอยู่

เรียกได้ว่า มีให้ครบทุกรส แต่ต้องแยกสมองออกไประหว่างดูนิดนึง

ถ้าจะดูแบบแยกกันเป็นฉากๆ ก็อาจจะพบว่ามีบ้างที่การกระทำดูไม่เม้กเซ้นส์ แต่ถ้าดูโดยรวมๆ มันคือหนังที่เหมือนคนเมากาวเล่าไปเรื่อยแต่ไม่หลุดธีมของตัวเอง อีกนัยหนึ่งก็เหมือนมนุษย์เบียวๆ คนนึงที่นั่งเล่านิทานให้ฟัง ผสมผสานไอเดียเวทย์มนตร์แบบพ่อมดแม่มดเข้ามา ใส่เอฟเฟกต์บู้มๆ เข้ามา [โดยที่เอฟเฟกต์ก็ไม่สนว่าต้องเนียน] แต่เป็นคนมีความจริงใจที่จะเล่า ไม่สนใจใครจะหาว่าเบียว ฉันก็จะไปของฉันแบบนี้ ใครจะทำไม

เรื่องราวมันมีความเป็นหนังนักสืบอยู่ประมาณหนึ่งในห้วงเวลาแห่งการตามล่าหาความจริงของความตายของอัญญานางหอมนวล หญิงสาวแสนสวยที่ทำหน้าที่ทั้ง สาปอชิ, ร่วมออกเดินทางตามหาสาเหตุการตายของตนเอง, พบเจอเรื่องใหม่ๆ เซอร์ไพรซ์กับเพิ่งรู้ และแน่นอน เสียงบรรยายเรื่องราวครั้งอดีตเมื่อพันปีก่อนเป็นเสียงของเธอเอง งานนี้ก็ต้องเรียกได้ว่า วี วีรยา จาง ทำได้ทั้งความสวยและลีลาการแสดง

ขณะที่พาร์ทคอมิดี้ต้องเรียกว่าแบ่งๆ กันไป ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนึ่ง จีจี้ ปูเป้ วี และโมบายล์ ต่างคนต่างมีช่วงเวลาที่พาคนดูไม่เหวอก็หัวเราะร่า มีทั้งความน่ารักแกมน่าหมั่นไส้ และความยียวนกวนประสาท บางคำพูดก็ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของพวกเธอถ้าไม่ได้อยู่ในหนัง

เรื่องราวในหนังเล่าถึงอะไรที่ชวนประหลาดใจ ตอนแรกของหนังนั้นมันทำให้เราเข้าใจในแบบหนึ่ง แต่พอเวลาของหนังผ่านไป มันก็ทำให้เราได้พบว่าเรื่องจริงมันคืออีกแบบ แถมเรื่องราวในอดีตเหล่านั้น ล้วนเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับทุกคนในก๊วน แต่ละคนก็จะได้รับสองบทบาทในลักษณะที่แตกต่างกันไป

หนังไปไกลกว่าแค่พล็อตหลายหญิงตบตีแย่งชายคนเดียวแล้วล่ะ

ในพาร์ทของความโรแมนติก อันนี้ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะมันเป็นพาร์ทที่เด่นชัดและเป็นพาร์ทที่หลายคนชื่นชอบจนอยากให้มันยาวกว่านี้เสียด้วยซ้ำ เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูจะต้องซึ้งน้ำตาคลอเบ้ากับการแสดงของ วอร์ – วนรัตน์ รัศมีรัตน์ และ วี – วีรยา จาง เป็นแน่แท้ เรื่องราวในพาร์ทนี้น่าสนใจไม่น้อย มันโดดเด่นแยกออกมาจากพาร์ทแฟนตาซีเลยเชียวแหละ

ในหนัง เราจะได้ฟังเพลงประกอบทั้งสองเพลง เพลงหนึ่งเข้าไปอยู่ในหนังในช็อตที่ชวนรู้สึกอิหยังวะ แต่พอหนังมันเบียวมาทั้งเรื่องก็เลยไม่ได้ถือสา เอาเป็นว่า ‘จัดไป’ กับอีกเพลงนั้นไพเราะมาก เหมาะกับช่วงเวลาที่จะเล่าพาร์ทนั้นเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะมีรอยต่อที่ไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง ไม่เม้กเซ้นส์ในบางจุดไปบ้าง แต่มันก็กลับกลายเป็นหนังสุดบันเทิงที่ได้หัวเราะเต็มปากเต็มคำ แถมยังพาเราเข้าสู่พาร์ทโรแมนติกได้สุดซึ้งจนเสียน้ำตาได้อีกต่างหาก

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง