รีวิวหนัง Seeking a Friend for the End of the World โลกกำลังจะดับ แต่รักกำลังนับหนึ่ง

ในวันว่างๆ นายแพทหาหนังมานั่งดูเพลินๆ หลายเรื่องก็ไม่มีโอกาสได้นั่งดูทั้งที่อยากดูมานาน หนังบางเรื่องก็อาจต้องรอให้เกิดความฉุกคิดว่า เออ ดูสักทีคงจะดีกว่า และเมื่อถึงเวลาแบบนั้นก็ได้เวลามานั่งดู ‘Seeking a Friend for the End of the World’ แบบในวันนี้

มันเป็นหนังที่พล็อตมันผสมผสานกันระหว่างความเป็นหนังไซไฟ โรแมนติก ดราม่า ตลก และมีความเป็นโร้ดมูฟวี่เพราะตัวละครต้องขับรถผจญภัยไปยังจุดหมายต่างๆ

แถมมันยังมีความเป็นหนังวันสิ้นโลกนิดๆ ด้วย

เรื่องย่อหนัง Seeking a Friend for the End of the World

เรื่องมันก็ไม่มีอะไรมาก มันเป็นเรื่องของโลกที่กำลังจะล่มสลายเพราะอุกกาบาตที่กำลังจะเดินทางมาถึงโลกในอีกไม่กี่วัน มนุษยชาติกำลังถึงกาลสูญพันธุ์ ทุกคนมีเวลาเหลือไม่มากแล้ว และแต่ละคนก็มีมุมมองต่อช่วงเวลาสุดท้ายที่แตกต่างกันไป

เมื่อมีชายหนุ่มขายประกันอย่างดอดจ์ (Steve Carell) ที่สูญเสียเมียไปจนทำให้เขารู้สึกคว้าง แต่เขาไม่ยินยอมจะปลดปล่อยอะไรแบบที่เพื่อนและคนรอบข้างทำ แต่เขากลับได้มาพบกับ เพนนี (Keira Knightley) สาวน้อยขี้เซาที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

ส่งผลชีวิตในช่วงที่เหลือของเขาอย่างมาก

ในที่สุด พวกเขาเลือกจะเดินทางไปด้วยกันเพื่อทำจุดมุ่งหมายสุดท้ายของแต่ละคนให้เป็นจริง ดอดจ์อยากได้ชมหวานใจไฮสคูลที่เพิ่งทราบข่าว ขณะที่สาวน้อยเพนนีอยากจะกลับไปเจอหน้าพ่อแม่อีกครั้ง

แต่ในระหว่างทางนั้น….

รีวิวหนัง ‘โลกกำลังจะดับ แต่รักกำลังนับหนึ่ง’

มันดูเป็นธรรมดาๆ นะ แต่ความจริงเป็นการคิดพล็อตที่ผมรู้สึกว่าครีเอตมาก จับรวมเอาเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์อย่างอุกกาบาตชนโลก แล้วเทคโนโลยีของมนุษย์ที่ส่งขึ้นไปไม่อาจเอาชนะได้ ในที่สุด โลกก็ต้องยอมรับชะตากรรม ว่าในอีกไม่กี่วัน มันจะมาชนโลก และมนุษยชาติก็จะต้องสูญสิ้น

แต่หนังไม่ได้เดินไปในทางไซไฟ หากหันเหไปเล่าเรื่องของการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในช่วงวันที่เหลือแทน มันเลยออกมาทางดราม่า และเมื่อมันเล่าเรื่องของชายหญิงที่เดินทางไปด้วยกัน มันเลยเป็นหนังผจญภัยบวกโรแมนติก

และเมื่อมี Steve Carell หนังเรื่องนี้เลยมีความตลกเบาสมอง

หนังเล่าถึงแง่มุมวิธีคิดของคนที่รู้ตัวว่าจะตายในไม่กี่วันในแบบต่างๆ บางคนก็เฮฮาปาร์ตี้ให้มันสุดเหวี่ยง บางคนก็เลือกจะมีเซ็กซ์กับใครก็ได้ไม่ต้องห่วงเรื่องท้อง ขณะที่บางคนก็เลือกจะทำเพื่อคนอื่น

สองตัวเอกที่มีความแตกต่างในด้านอุปนิสัยกันสุดขั้ว แต่มีความเกี่ยวพันกันอย่างช่วยไม่ได้ กลับเลือกจะกลับไปหาคนที่เขาและเธออยากพบเจอในช่วงเวลาท้ายๆ ของชีวิต

แต่มันดูเป็นการผจญภัยที่ไม่มีใครคาดไปถึงนั่นแล

เคียร่าก็ยังคงได้บทที่เราคุ้นเคย ดูเป็นสาวมองโลกในแง่ดี มีโอกาสได้ยิ้มสดใส แต่ในเรื่องนี้ เธอมีช่วงหนึ่งที่ได้สวมบทบาทลูกที่โทรทางไกลไปหาพ่อแม่ ต้องพูดคนเดียวกับโทรศัพท์ที่ต้องใส่อารมณ์ต่างๆ ซึ่งดูแล้วเธอก็ทำได้ไม่เลว ชวนอินได้ไม่ยาก

ขณะที่สตีฟกลับกลายเป็นชายวัยกลางคนผู้เคร่งขรึม ผู้ซึ่งไม่รู้ว่าจะขายประกันไปทำไมในเมื่ออีกไม่กี่วันคนก็ตายห่ากันหมดโลกแล้ว แต่เขาก็เป็นคนดี ไม่ระบายทุกอย่างที่อยากทำเหมือนคนอื่น ไม่คิดจะจูบกับใครก็ได้ มีเซ็กซ์กับใครก็ได้

แถมเขายังเกรงใจที่จะบอกคนทำความสะอาดบ้านว่าไม่ต้องมาแล้วก็ได้ 

หนังพาเราไปถึงวันที่ดอดจ์เดินทางดั้นด้นเพื่อกลับไปสืบหาอดีตคนรัก ซึ่งก็กลับกลายเป็นว่าเขาได้พบอีกคน คนที่ทำเซอร์ไพรซ์คนดูรอบแรก ก่อนก็เราได้เซอร์ไพรซ์ในตอนจบ เป็นตอนจบที่เกือบจะซึ้งแล้ว แต่คงยังทำได้ไม่ถึงเท่าที่ควร

ไม่งั้นคงจะซึ้งและอินจนต่อมน้ำตาแตกไปแล้ว

ชื่อภาพยนตร์: Seeking a Friend for the End of the World / โลกกำลังจะดับ แต่ความรักกำลังนับหนึ่ง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Lorene Scafaria
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Lorene Scafaria
นักแสดงนำ: Steve Carell, Keira Knightley, Melanie Lynskey, Tonita Castro, Nancy Carell
ความยาว: 101 นาที
แนว/ประเภท: Adventure, Comedy, Drama, Romance, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย:
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: 3311 Productions, YL Pictures, Lord Miller, Sony Pictures Classics