ห่างหายจากการได้ดูหนังแอคชั่นคอมิดี้มาได้พักใหญ่แล้ว เพราะพักหลังๆ หนังที่เข้ามาฉายในเมืองไทย มันจะมีหนังแนวแอคชั่นไซไฟเสียมากกว่า วันนี้เลยเป็นโอกาสดีที่ได้ทั้งสนุกมันไปกับฉากบู๊และหัวเราะลั่นไปกับมุกบวมๆ ‘The Hitman’s Bodyguard’ หนังสไตล์คู่หูอีกเรื่องที่น่าจัดเก็บอยู่ในลิสต์
เมื่อหนังเลือกเอาเจ้าพ่อหน้าตายกะเจ้าพ่อสุดกวนมารวมในหนังเรื่องเดียวกัน ความหฤหรรษ์จึงบังเกิด เมื่อบอดี้การ์ดสุดเยอะมาเจอกับนักฆ่าสุดซ่า ความมันและความฮาจึงบังเกิด
ว่าแล้วก็ได้เวลามาเหลาสู่กันฟัง!
เรื่องย่อหนัง ‘The Hitman’s Bodyguard’
กระทาชายคนแรกเป็นถึงสุดยอดบอดี้การ์ดมือฉกาจของโลกซึ่งจริงๆ เขาก็คงมโนมันขึ้นมาเอง ไมเคิล ไบรซ์ (Ryan Reynolds) เขาคิดว่าเขาคือบอดี้การ์ดระดับทริปเปิ้ลเอ ผู้ซึ่งชีวิตตกต่ำต้องรับงานกระจอก สิ่งที่เขาเป็นก็คือ เขาจะมีกฎในการทำงานของตัวเองตลอดเวลา ที่เห็นได้ชัดก็คือ พอจะนั่งรถต้องรัดเข็มขัด
แต่วันหนึ่ง เขาได้รับมอบหมายให้คุ้มครอง ดาเรียส คินเคด (Samuel L. Jackson) นักฆ่าอันดับหนึ่งของโลกที่เคยพยายามฆ่าเขามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
แต่นักฆ่าคนนี้มีบุคลิกที่เฉพาะตัวเช่นกัน เขาจะค่อนข้างโลว์เทคหน่อย มีความมุทะลุทำอะไรก็ทำเลย แต่ก็ร่ำรวยอารมณ์ขัน นึกจะหัวเราะขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
นอกจากคุ้มครอง ไมเคิลยังต้องนำส่งดาเรียสไปส่งยังศาลในอัมสเตอร์ดัม เพราะเขาคือพยานปากสำคัญที่จะชี้ความผิดของจำเลยตัวเอ้ในศาล
เวลาเพียง 24 ชั่วโมงคือเส้นตายที่ศาลกำหนดเอาไว้ บอดี้การ์ดอย่างไมเคิลเดินทางฝ่าดงกระสุนของเหล่าสมุนเจ้าพ่ออาชญากรอย่าง วลาดิสลาฟ ดูโควิช (Gary Oldman)
ที่ส่งมาขัดขวางเขาทุกวิถีเพื่อไม่ให้ไปถึงศาลได้ทันเวลา
รีวิวหนัง ‘แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด’
ออกจะพิลึกพิลั่นกันพอสมควรหลังจากโปรโมตใบปิดแนวล้อเลียนหนังดังๆ ในอดีต ทำให้นึกภาพได้ว่าหนังเต็มคงจะมีความเพี้ยนเกรียนกันพอสมควร พอได้พบจริงก็พบว่า หนังชักชวนให้คนดูในสนุกครบทั้งสองด้านไม่มีใครยอมใคร ไม่ว่าจะทางตลกโปฮา และทางบู๊แอคชั่นมันหยด
เริ่มต้นเรื่องนั้น อาจจะคลำทางกันอยู่ประมาณหนึ่งเหมือนกัน ด้วยการปูเรื่องที่ไม่ชวนให้ปะติดปะต่อเรื่องได้ง่ายๆ สักเท่าไหร่ แต่เมื่อดูไปสักพัก เราจะเริ่มเข้าใจเรื่องราว และเห็นทิศทางว่าหนังกำลังจะไปทางนั่นเอง
ด้วยเคมีและความเก๋าที่เข้ากันได้เข้ากันดีของสองพระเอก Ryan Reynolds และ Samuel L. Jackson คนหนึ่งตลกหน้าตาย อีกคนก็กวนตีนบ้าง เพี้ยนซ่าส์บ้าง ทั้งพูดจาสนทนารับส่งกันได้ฮาดี เลยกลายเป็นว่า รอบนี้ได้ยินแต่เสียงหัวเราะกันลั่นเกือบทั้งเรื่องเลยทีเดียว
ทั้งเรื่องแทบจะขาดนางเอก แต่ก็คงจะเป็นคนนี้นี่แหละที่พอจะเป็นได้ Elodie Yung ในบทเอมิเลีย คนที่มีความหลังร่วมกันกับไมเคิล เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สองพระเอกคู่หูเกิดความสัมพันธ์ได้
คนที่ลืมไม่ได้เลย เธอคือ Salma Hayek ในบทเมียของดาเรียส คินเคด เธอคนนี้อาจจะไม่มีบทบาทมากมายนัก แต่เธอเข้าฉากเมื่อไหร่ เป็นได้เรียกเสียงฮาได้เมื่อนั้น
เมื่อหันไปมองด้านบู๊แอคชั่นของ ‘แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด’ ก็พบว่าแรกๆ หนังไม่ค่อยจะสนตรงนี้เท่าไหร่ แต่ฉากแอ็คชั่นกลางถนนและคลองตรงกลางเรื่อง เล่นเอาหัวใจเต้นระวัวได้เลย เป็นฉากบู๊ไล่ล่าที่สนุกมันมากมาย
กับอีกช่วงตอนท้ายๆ ที่จัดยาวๆ มาอีกหน กับช่วงไคล์แมกซ์ที่ทำให้ต้องลุ้นกันว่าเหตุมันจะลงเอยเช่นไร แม้อาจจะไม่ได้ไกลจากที่คาดเดาแต่มันก็ชวนระทึกตามไปด้วยได้ดีออก
ถ้าใครอยากจะคลายเครียดไปด้วย พร้อมๆ กับได้ดูหนังแอคชั่นมันสะใจไปด้วย เรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี หนังมีลูกเล่นด้านเรื่องราวของ “ความรัก” เป็นตัวเดินเรื่องควบคู่ไปกับภารกิจคุ้มครองนักฆ่าไปส่งศาล ซึ่งก็เล่ากันมาได้ค่อนข้างสนุกทีเดียว
จะมีทุลักทุเลบ้างก็ช่วงท้าย ที่เล่นหลายท่ามากไปหน่อย มีตัวละครมากตัวให้ต้องเล่าสลับกันมากไปหน่อย แต่ลงท้ายก็เอาตัวรอดได้พอดิบพอดี
แถมยังอุตส่าห์มีฉากแถมเล็กๆ หลังเครดิตซะอีกแน่ะ
ชื่อภาพยนตร์: The Hitman’s Bodyguard / แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด
ผู้กำกับภาพยนตร์: Patrick Hughes
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Tom O’Connor
นักแสดงนำ: Ryan Reynolds, Samuel L. Jackson, Gary Oldman, Elodie Yung, Yuri Kolokolnikov, Nadia Konakchieva, Salma Hayek
ความยาว: 118 นาที
แนว/ประเภท: Action, Comedy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 สิงหาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Campbell Grobman Films, Cristal Pictures, East Light Media, M Pictures
แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด
The Hitman's Bodyguard - 7
7
The Hitman's Bodyguard
ด้วยการปูเรื่องที่ไม่ชวนให้ปะติดปะต่อเรื่องได้ง่ายๆ สักเท่าไหร่ ดูไปสักพักเริ่มจะเข้าใจ หนังใช้เคมีและความเก๋าที่เข้ากันได้เข้ากันดีของสองพระเอก Ryan Reynolds และ Samuel L. Jackson ทำให้มีความฮาผสมฉากแอคชั่น เป็นหนังที่ตอบโจทย์คนชอบบู๊แบบคลายเครียด แต่ทุลักทุเลบ้างบ้างช่วงท้ายเพราะเล่นหลายท่ามากไปหน่อย