รีวิวหนัง The Goldfinger โคตรพยัคฆ์ชน คนมือทอง | อาหลิวเฉือนคมอาเหลียงอีกครั้ง

เหมือนตัวเองจะร้างราการดูหนังฮ่องกงมายาวนาน แม้วงการนี้ที่นั่นจะซบเซาไปมาก แต่ก็ยังมีหนังออกมาอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่อาจมีน้อยเรื่องที่เข้าไทยแล้วเรามีโอกาสได้เข้าไปดู และเมื่อได้ยินว่าสองดาราชื่อก้องเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง ถือเป็นโอกาสดีดีที่สมควรพาตัวเองกลับไปเจอ เช่นนั้นวันนี้จึงได้เวลามาพบกับ ‘The Goldfinger’ หรือชื่อไทย ‘โคตรพยัคฆ์ชน คนมือทอง’ เรื่องราวที่เล่าย้อนไปวันเก่าก่อนของเกาะฮ่องกง

ความคิดเห็นส่วนตัวของนายแพท

เรื่องอื้อฉาวมากมายที่เกิดขึ้นในฮ่องกงยุคอดีต เรื่องกลโกงที่สร้างความมั่งคั่งให้กับนักธุรกิจ ที่ถูกผู้กำกับ เฟลิกซ์ ฉง ผู้เติบโตมากับชีวิตติดโรงหนัง สัมผัสกับเรื่องพวกนี้มาทั้งชีวิต จนหาข้อมูลเพิ่มแล้วหยิบเอามาเรียบเรียงเป็นบทหนัง เล่าเรื่องของสองคนที่ยิ่งใหญ่จากสองฟากฝั่งและต้องมาห้ำหั่นกัน ฝ่ายหนึ่งเป็นนักธุรกิจที่เติบโตร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการเก็งกำไรและค้าหุ้น อีกฝ่ายหนึ่งเป็นตำรวจหนุ่มฝีมือดีที่ตามจับเขามานานไม่เคยลดละ

หนังฮ่องกงฟอร์มยักษ์เรื่องนี้มีโปรดักชั่นขั้นดีเยี่ยม นำพาภาพของฮ่องยุครุ่งเรืองให้กลับมาปรากฏบนจอหนัง ทั้งได้เห็นการแสดงของดาราหลายคนที่ฟาดฟันประชันฝีมืออีกครั้ง

เรื่องย่อหนัง ‘The Goldfinger’

มันคือเรื่องราวของ คุณเฉิง (Tony Leung Chiu-wai/เหลียงเฉาเหว่ย จากหนังเรื่อง ‘In the Mood for Love’ และ ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’) วิศวกรหนุ่มที่ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาจากเงินก้อนเล็กๆ เพียง 11 ปี เขาก็กลายเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวยอู้ฟู่แห่งเกาะฮ่องกง จนมันไปเตะตาเจ้าหน้าที่อย่างคุณหลิว (Andy Lau/หลิวเต๋อหัว จากหนังเรื่อง ‘Detective Chinatown 3’ และ ‘Infernal Affairs’) ที่สืบค้นมาว่า เขาร่ำรวยด้วยการเก็งกำไร ก็เลยตามจับมาตลอด

และหนังเรื่องนี้ก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเติบโตจนร่ำรวยของชายคนหนึ่ง กับการไล่ตามจับอย่างไม่ลดละของชายอีกคน

รีวิวหนัง ‘โคตรพยัคฆ์ชน คนมือทอง’

มันเป็นหนังที่มีความเป็นหนังแนวธุรกิจ แต่ฏ็เป็นธุรกิจที่แปดเปื้อนด้วยความฉ้อฉล บทหนังที่ผ่านการศึกษาและนำเอาข้อมูลต่างๆ มาร้อยเรียง ก่อนจะดำเนินเรื่องราวในแนวทางเหมือนประวัติย่นย่อของคนคู่หนึ่ง ทำให้มันออกมามีความใกล้เคียงกับการเป็นหนังชีวประวัติ มีความเป็นหนังธุรกิจค้าหุ้นที่มีกลิ่นอายใกล้เคียงกับ ‘The Wolf of Wall Street’ ขณะเดียวกันก็มีความเป็นหนังหักเหลี่ยมเฉือนคม

คนเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ ก็เหมือนได้ย้อนกลับไปเจอหนังฮ่องกงที่คุ้นเคย และที่สำคัญ ก็คือ มันทำให้เราได้เห็นดาราชื่อดังสองคนอยู่บนเฟรมเดียวกันอีกครั้งด้วย

เหลียงเฉาเหว่ย หรือที่คนทั่วโลกเรียกเขาว่า Tony Leung กลับมาในบทของชายผู้เริ่มต้นจากเงินแค่ 100 ดอลลาร์ กลายเป็น 1 ล้าน จากนั้นก็กลายเป็นพันล้าน ผ่านไปเพียงสิบปี เขากลายเป็นคนที่ร่ำรวยอื้อซ่าและมีอิทธิพลมากมาย แต่ละช่วงเวลาเขาสั่งสมทั้งประสบการณ์และความมั่งคั่ง พร้อมๆ กับเรื่องผิดกฎหมายที่พอกพูนขึ้น จนทำให้ต้องมาเจอกับ หลิวเต๋อหัว หรือในอีกชื่อ Andy Lau ที่มารับบทเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามของ Independent Commission Against Corruption (ICAC) ที่เคยจัดการกับพวกนักทุจริตทั้งหลายมานับไม่ถ้วนกลายเป็นเรื่องราวการหักเหลี่ยมเฉือนคมของตำรวจกับผู้ร้ายอีกครั้ง

หนังอย่าง ‘โคตรพยัคฆ์ชน คนมือทอง’ พาเราย้อนกลับไปพบกับฮ่องกงในยุคเฟื่องฟู ที่ก็เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว หนังทำให้เราได้เห็นถึงความเป็นยอดอัจฉริยะทางด้านการเงิน ผู้ต่อยอดสร้างเม็ดเงินก้อนเล็กให้กลายเป็นก้อนโตได้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่ำชองในด้านการเก็งกำไรอสังหาฯ และเก็งกำไรในหุ้น ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเข้าใจง่ายดายนักสำหรับลางคน

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดยิ่งกว่า ก็คือ การที่เขาพาเรากลับไปสู่ยุค 80’s ได้เห็นวันวานของฮ่องกงที่ใครได้ไปเยือนบ่อยๆ ก็คงจะจดจำบางส่วนของมันได้อยู่ งานโปรดักชั่นค่อนข้างดีเลย หลายๆ มุมก็ทำออกได้มาได้สวยงาม บอกได้เลยว่า งานเนี้ยบมากมาย

ถ้าพูดถึงในด้านการเล่าเรื่องนั้น บางส่วนของหนัง มันก็มีความกวนโอ๊ยอยู่ในนั้นเหมือนกันนะ ด้วยการเล่าแบบทีเล่นทีจริงก็พาให้เราอารมณ์ดีไปได้ช่วงหนึ่ง แต่โดยหลักแล้ว มันเล่าเรื่องในสไตล์หนังชีวประวัติ พร้อมมีช่วงพลิก ช่วงเซอร์ไพรซ์ บางช่วงก็ให้ฟีลเหมือนดูหนังคนจะรวยช่วยไม่ได้ แต่บางช่วงก็พาให้รู้สึกว่ากำลังดูหนังหักเหลี่ยมเฉือนคมสไตล์หนังฮ่องกงที่เคยคุ้นในวันก่อนเก่า แม้เราจะเข้าใจเรื่องธุรกิจและหุ้นไม่มากไม่มายนัก แต่ความสนุกในการเดินเรื่องนั้นค่อนข้างได้เต็มอรรถรสอยู่ เพียงแค่หนังอาจลงรายละเอียดมากจนเกินไป จนทำให้หนังดูหนัก และลดความบันเทิงในการรับชมลงไปพอประมาณ

แต่เหนืออื่นใดนั้น คือการได้กลับมาเห็นอาหลิวและอาเหลียงวาดลวดลายฟาดฟันด้านการแสดงในหนังเรื่องเดียวกันอีกครั้ง

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง