เสมอและตลอดมา ‘อาหาร’ คือส่วนหนึ่งของทุกสิ่งที่แบ่งแยกประชากรมนุษย์ออกเป็นส่วนๆ การเข้าถึงอาหารที่ไม่เท่ากันของผู้คนแม้แต่ในประเทศเดียวกัน ทำให้มีความแตกต่างกันอย่างมากในเชิงระดับชั้นที่เกี่ยวพันกับการกิน วันนี้ มีหนังบางเรื่องที่หยิบยกสิ่งเหล่านั้นมาจัดวาง ‘The Menu’ ชื่อไทย ‘เมนูสยอง’ คือหนังเรื่องนั้นครับ
นี่คือผลงานเรื่องล่าของผู้กำกับมากผลงาน Mark Mylod/มาร์ค มายลอด ที่เคยมีผลงานอย่างซีรีส์ ‘Succession’, ‘Shameless’ และที่สำคัญคือ ‘Game of Thrones’ ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะหันมาจับงานหนังใหญ่ ร่วมงานกับมือเขียนบทอย่าง Seth Reiss/เซ็ธ รีสส์ และ Will Tracy/วิลล์ เทรซี่ แถมครั้งนี้เขาก็เลือกนักแสดงฝีมือดีมาร่วมงานมากหน้า ต่างคนต่างฟาดฟันกันด้วยฝีมือการแสดงชั้นเยี่ยม ก่อนจะชมเชยกันไปมากกว่านี้
คงได้เวลาที่จบพบกับเรื่องย่อของหนังกันแล้วล่ะครับ
เรื่องย่อหนัง ‘The Menu’
มันเป็นเรื่องของ มาร์โก (Anya Taylor-Joy/แอนยา เทย์เลอร์-จอย จากหนังเรื่อง ‘The Witch’ และซีรีส์เรื่อง ‘เกมกระดานแห่งชีวิต’) สาวสวยที่ตอบรับคำชวนของไทเลอร์ (Nicholas Hoult/นิโคลัส เฮาลต์ จากหนังเรื่อง ‘Warm Bodies’ และ ‘Mad Max ถนนโลกันตร์’) แฟนหนุ่มเพื่อมาร่วมลิ้มรสชาติอาหารจานพิเศษจากเชฟชื่อดังผู้มากฝีมือการคิดค้นเมนูอาหาร
พวกเขาล่องเรือเดินทางสู่เกาะชายฝั่งแปซิฟิกทางตะวันตกเฉียงเหนือนามว่า ฮอว์ธอร์น ที่นั่นมีร้านอาหารที่นำโดยมหาเชฟนามว่า จูเลียน สโลวิค (Ralph Fiennes/เรล์ฟ ไฟนส์ จากหนังเรื่อง ‘The Dig กู้ซาก’ และ ‘พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ’) และพบว่าผู้คนที่มาล้วนแล้วแต่เป็นคนดังในวงการอาหาร
ในนั้นมีแก๊งวัยรุ่นสามพี่น้องสายเทคโนโลยี คู่รักมั่งคั่งผู้สูงวัยขาประจำของร้าน นักวิจารณ์อาหารชื่อดัง ร่วมด้วยบรรณาธิการแมกาซีนผู้เสเพล และดาราชื่อดังที่มาพร้อมกับผู้ช่วย ทุกคนต่างได้รับการต้อนรับจาก เอลซ่า (Hong Chau/หง โจว จากหนังเรื่อง ‘Downsizing’)
แล้วโชว์ของเชฟก็เริ่มต้นขึ้น เมนูแรกพร้อมเสิร์ฟ ทุกอย่างเหมือนจะดูหรูเริ่ดอลังการตามประสาอาหารสุดบรรเจิดจากเชฟเลื่องชื่อ ก่อนที่ความน่าสะพรึงจะบังเกิดตามมา
รีวิวหนัง ‘เมนูสยอง’
หนังพาเราไปอยู่ในบรรยากาศของการดื่มด่ำค่ำคืนอันเริศหรูบนเกาะอันห่างไกล ที่มีเพียงร้านอาหารเพียงแห่งเดียว แถมวัตถุดิบทุกอย่างหาได้จากธรรมชาติรอบเกาะฮอว์ธอร์น พร้อมหน้าด้วยผู้คนที่ชื่นชอบในการลิ้มรสอาหาร ไม่ว่าจะเป็นนักชิม ทีมงานเจ้าของกิจการ นักแสดงตัวเก๋าที่เริ่มอับแสง ขาประจำของร้าน ก็คงจะมีแต่คู่ของไทเลอร์กับมาร์โกนี่แหละมั้งที่ดูจะแปลกแยกกว่าเพื่อน
ทั้งคู่เป็นเพียงหนุ่มสาวที่ยังวัยรุ่น ฝ่ายชายดูจะเป็นผู้ที่หลงใหลในอาหารเป็นพิเศษ รู้จักทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด แถมยังชอบจะพูดจาโอ้อวดว่าตัวเองรอบรู้ แน่นอน เขาคลั่งไคล้ในตัวเชฟสโลวิคคนนี้มากพอดู แต่หญิงสาวของมาร์โกนี่สิ เธอดูไม่เข้าพวกอย่างแรง แต่ไม่เข้าอย่างไรคงไม่อาจบอกตรงนี้ได้หรอกนะครับ
ความไม่ชอบพากลนั้นปรากฏตั้งแต่แรกก้าวย่างเหยียบชายหาดของเกาะแห่งนี้แล้ว แต่นั่นยังเป็นแค่ความสงสัย ขณะที่สองเมนูผ่านไป ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรมาก ทว่า หลังจากนั้นสิ เมนูที่ตามมา แม้หน้าตาจะดูน่าทาน (สำหรับบรรดานักลิ้มรสอาหารหรู) แต่ก็มาพร้อมกับไอเดียข้างเคียงที่มาตั้งแต่ดูไม่น่าไว้ใจไปจนถึงขั้นหวาดผวา ลีลาของเชฟก็ใช่ย่อย เขาใช้วิธีปรบมือเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจของลูกค้า ขณะที่ลูกมือต่างก็ตอบรับเป็นเสียงเดียวกันราวกับเป็นพลทหารของท่านนายแม่ทัพ..อะไรแบบนั้น
นั่นเป็นเพียงการบอกเล่าพื้นฐานคร่าวๆ สำหรับสิ่งที่คนดูจะได้เจอ
เอาเป็นว่า เท่าที่เห็นจากหนังความยาว 106 นาทีเรื่องนี้ ดูจะพยายามหยิบเอาหลากหลายแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการกินหรูของผู้คนในแวดวงมาจิกกัดอย่างแซ่บๆ และแสบสันต์ บางส่วนออกไปในทางประชดประชันในด้านของความร่มรวยจนรุ่มร่ามทางภาษาของนักชิมและวิจารณ์อาหาร ไม่เว้นแม้กระทั่งเชฟผู้บอกเล่าสตอรี่ ว่าเมนูที่ตนคิดค้นนั้นพิถีพิถันและวิเศษเลอเลิศอย่างไร อาหารแต่ละเมนูที่จัดอย่างสวยไว้ในจาน มีปริมาณมากพอแค่ให้ ‘ลิ้มรส’ แต่ไม่อาจถือว่าได้ ‘กิน’ จนอิ่มได้
อาหารบางเมนูกลายเป็นสิ่งเริ่ดหรูบนโต๊ะในภัตตาคารชั้นยอด มีคนบางกลุ่มที่เฝ้าตระเวณหาเพื่อลองลิ้มแล้วประดิดประดอยถ้อยวิจารณ์พลางสั่งสมชื่อเสียง ขณะที่ผู้คนอีกมากไม่มีแม้แต่อาหารจะกินปะทังชีวิต ความเหลี่ยมล้ำที่มากมายเหลือเกินได้เกิดขึ้นมานานมากแล้วบนโลกใบนี้ และยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปตราบนานเท่าที่โลกนี้ยังมีมนุษย์อยู่ อ้อ อาจจะเวิ่นเว้อไปสักนิด ขอเข้าเรื่องก่อนก็แล้วกัน
ต้องบอกว่า แต่ละคอร์สที่เชฟเสิร์ฟนั้นจะมาพร้อมเซอร์ไพรซ์ที่เราไม่อาจจะเดาทางได้ถูก บางคอร์สมีคนตาย ทุกคอร์สมาพร้อมกับความสะพรึง แฝงมาด้วยเจตจำนงที่ต้องการจิกกัดคนในวงการ ด่ากราดทุนนิยม ด่าเหล่านักวิจารณ์ ด่าไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ตัวเชฟและผู้ทำอาหารเสิร์ฟเอง ไม่ว่าใครจะมองว่าถึงกึ๋นหรือถึงแค่ผิวๆ อย่างไรก็ตาม โลกแห่งทุนนิยมมีโลกแห่งอาหารเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนั้นแน่นอน
นอกจากผู้ชมได้รับประสบการณ์เชฟเทเบิ้ลที่สุดหฤหรรษ์แล้ว พวกเราก็จะได้พบกับน้องแอนยาที่โคตรสวยตรึงตาฝุดๆ กับบทบาทของคนที่ไม่ค่อยเข้าพวก เป็นคนเดียวที่ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยมาตลอดเรื่อง ขณะที่เจ้าบทบาทอย่างลุงเรล์ฟ ก็ยังยอดเยี่ยมเพราะเขาไปได้ทุกมาดของเชฟจริงๆ และด้วยการฟาดฟันสาดใส่ฝีมือกันอย่างไม่มีใครยอมของคนที่เหลือ ทำให้มันเป็นอีกครั้งของมหกรรมจิกกัดที่ดูสนุก สะใจ และหวาดผวาไปพร้อมๆ กัน
ในระหว่างดู ทุกคอร์สที่เสิร์ฟอาจทำให้นายแพทคิดในใจไปว่า กินเข้าไปได้ไงวะ! เพราะพอเห็นเซอร์ไพรซ์ที่เชฟส่งมาพร้อมกัน ก็ไม่รู้อยากกินแล้ว อยากกลับซะมากกว่า แต่ผลกลับกลายว่า เมื่อถึงเมนูสุดท้าย กลายเป็นเมนูที่ติดอยู่ในความรู้สึก
จนอยากจะสั่งมากินเสียตรงนั้นเลย!
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | The Menu / เมนูสยอง |
กำกับ | Mark Mylod/มาร์ค มายลอด |
เขียนบท | Seth Reiss, Will Tracy |
แสดงนำ | Anya Taylor-Joy/แอนยา เทย์เลอร์-จอย, Ralph Fiennes/เรล์ฟ ไฟนส์, Nicholas Hoult/นิโคลัส เฮาลต์, Janet McTeer, Hong Chau, Aimee Carrero, John Leguizamo, Paul Adelstein, Reed Birney, Judith Light |
แนว/ประเภท | คอเมดี้, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ |
เรท | R |
ความยาว | 106 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 17 พฤศจิกายน 2022 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Alienworx Productions, Alienworx Productions, Hyperobject Industries, Searchlight Pictures |
เมนูสยอง
พล็อตและบท - 8.3
การแสดง - 8.5
การดำเนินเรื่อง - 8.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8
8.1
The Menu
ไม่ว่าจะเป็น แอนย่า คนสวย ลุงเรล์ฟ หนุ่มนิโคลัส หรือคนอื่นๆ ต่างก็ฟาดฟันสาดใส่ฝีมือกันอย่างไม่ยั้งมือ ทำให้มันเป็นอีกครั้งของมหกรรมจิกกัดที่ดูสนุก สะใจ และหวาดผวาไปพร้อมๆ กัน หนังที่ดูเข้าใจตามได้ง่าย ได้ทั้งระทึกและสะพรึงในชะตากรรมของแต่ละคน พร้อมด้วยเรื่องราวที่ไม่อาจคาดเดาและคอร์สอาหารที่จัดมาอย่างพิถีพิถัน จบแล้วจะอยากกินเมนูสุดท้ายอย่างแน่นอน!