ผ่านเข้ามาถึงสัปดาห์ใหม่แล้ว หนังเรื่องใหม่ก็ทะยอยเข้าฉายรอบสื่อให้ชมอยู่วันละเรื่องสองเรื่อง เป็นความรับผิดชอบของนายแพทที่ต้องไปดูเพื่อนำมารีวิวฝากทุกๆ คน วันนี้ ผมได้พบกับเรื่องที่รอคอยเสียที กับหนังที่เล่าเรื่องฝาแฝด 7 คนที่ต้องหลบหนีการตามล่า ‘What Happened to Monday’ เกิดอะไรขึ้นกับวันจันทร์?
ผลงานการกำกับฯ ของ Tommy Wirkola ชาวนอร์เวย์ที่เคยกำกับฯ มาทั้ง ‘Dead Snow’ (ภาค 1 และ 2) และ ‘Hansel & Gretel: Witch Hunters’ โดยได้หนังที่มีพล็อตน่าสนใจตรงที่ตัวละครเอกต้องเล่นเป็นฝาแฝดที่มีบุคลิกและอุปนิสัยต่างกันถึง 7 แบบ
และเรื่องราวมันเล่าถึงโลกอนาคตที่ประชาการล้นจนต้องออกมาตรการ
เรื่องย่อหนัง ‘What Happened to Monday’
หนังเล่าเรื่องของโลกในอนาคตที่ประชากรยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนโลกตกอยู่ภาวะประชากรล้นโลกแบบสุดๆ และรัฐบาลต้องออกมาตรการรัดเข็มขัดประชากรด้วยการกำหนดให้แต่ละครอบครัวมีบุตรได้เพียง 1 คน ผู้ที่ฝ่าฝืนจะได้รับโทษแบบเบาะๆ ด้วยการกุดหัวให้เหลือเพียงหนึ่ง กองกำลังที่ดูแลประชากรนำโดย นิโคเลต เคย์แมน (Glenn Close) ผู้ที่ออกมาบอกว่าเด็กจะถูกแช่แข็งเพื่อรอวันโลกที่ดีกว่านี้
แต่ว่าไม่ได้มีใครทำตามนโยบายกันหมดหรอก
ครอบครัวของนางเอกนี่แหละ หนักข้อสุด เพราะแม่ของเธอคลอดลูกสาวแฝด 7 คนก่อนจะเสียชีวิตไป ชีวิตของเด็กแฝดเจ็ดมีเพียงคุณตาเทอร์เรนซ์ เซ็ตต์แมน (Willem Dafoe) เท่านั้นที่เลี้ยงดูมา ชื่อของพวกเธอถูกตั้งตามวันทั้งเจ็ด
Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday, Saturday และ Sunday
แฝดทั้งเจ็ดต่างนิสัยและบุคลิกกันอย่างสิ้นเชิง และแสดงโดยนักแสดงคนเดียวกัน คือ Noomi Rapace โดยแต่ละคนจะได้ออกไปใช้ชีวิตของตัวเองตามชื่อวันของตน และใช้ชีวิตในนาม แคเรน เซ็ตต์แมน
แต่อยู่มาวันหนึ่ง มันเดย์ กลับหายตัวไปไม่กลับมาบ้าน ทำให้ที่เหลือต้องช่วยกันเพื่อออกตามหามันเดย์ เพราะไม่มีใครรู้ว่า “เกิดอะไรขึ้นกับมันเดย์”
รีวิวหนัง ‘What Happened to Monday’
เราเคยได้พบกับผลงานของสาว นูมิ ราเพซ กันมาหลายเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ‘Prometheus’ (2012), ‘The Drop’ (2014) , ‘Child 44’ (2015) และ ‘Unlocked’ (2017) แต่หนนี้ถือได้ว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งที่พิสูจน์ถึงพัฒนาการของเธอ เมื่อต้องเล่นเป็น 7 ตัวในเรื่องเดียวกัน หลายครั้งที่ต้องต่อสู้กันเอง สนทนาโต้ตอบกันเอง แถมยังต้องเล่นให้ดูแตกต่างและชัดในคาแรคเตอร์เพื่อให้คนจดจำแต่ละตัวได้อีกด้วย
เดินเรื่องสนุก แอคชั่นโคตรมัน และโหดเลือดสาด
หนังหยิบเอาประเด็นของวิกฤติประชากรล้นโลกในอนาคตอันใกล้มาสร้างสรรค์เป็นพล็อตได้อย่างสนุกและมีสีสันชั้นเชิง มันเหมือนเป็นหนังดิสโทเปียแบบกลายๆ เมื่อรัฐต้องออกมาตรการขึ้นมาเพื่อควบคุมประชากร เพราะในหนังนั้น ผู้คนเดินกันพลุกพล่านแย่งกันกินแย่งกันใช้ ถ้าปล่อยเป็นเช่นนี้ต่อไป อนาคตของมนุษยชาติจะยิ่งย่ำแย่ไปกว่าเก่าหลายเท่าตัว
แต่อีกมุมหนึ่ง มันคือเผด็จการในคราบของความหวังดี
คุณตาของเด็กๆ เลือกที่จะเก็บเธอไว้ทั้งเจ็ดคน มันจึงมีผลตามมาให้ต้องใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้เพียงหนึ่งตัวตน ด้วยเทคโนโลยีระบุตัวบุคคลที่ทันสมัยแต่ก็มีช่องโหว่ เด็กทั้งเจ็ดต้องทำตามกฎของตาเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่รอด เติบโตขึ้นมาเป็นสาวต่างบุคลิก ต่างความคิดกัน ด้วยการแบ่งปันเรื่องราวที่ได้ประสบมาในแต่วันเพื่อให้พี่น้องคนอื่นได้รับรู้ข้อมูลเพื่อออกไปยังโลกในวันถัดๆ ไป
เป็นไอเดียที่เข้าที แต่ถ้ามองตามหลัก มันไม่ได้ง่ายแบบนั้นเลย
ซึ่งหนังก็ใส่รายละเอียดตรงนั้นไปพอประมาณ และทำให้กลายเป็นเรื่องราวให้เราติดตามไปได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อมีพี่น้องคนนึงหายตัวไป คนที่เหลือต้องใช้ความเป็นพี่น้องเพื่อตามหา ขณะเดียวกันก็ต้องหลบหนีการตามล่าของทางการไปด้วย
การดำเนินของเรื่องทำได้สนุก คนดูแทบไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า เดาทางเรื่องก็ทำได้บ้างบางส่วน การจัดวางให้การเกิดเหตุการณ์สองอย่างที่เกิดพร้อมกันเป็นวิธีการ…
ที่ทำให้หนังดูสนุกไปกับการลุ้นได้ดียิ่งนัก
ประเด็นในเรื่องถือว่าดี หนังไซไฟแต่เน้นเรื่องครอบครัว
จะว่าไปหนังก็มีใส่ประเด็นที่ค่อนข้างหนักพอสมควรหากจะดูเพื่อเอาเรื่องกันละก็ เอาแค่เรื่องมาตรการจำกัดการมีบุตรนี่ก็ถือว่าน่าสนใจแล้ว ประชากรโลกล้นจนแย่งทรัพยากรนั้นก็เป็นและเห็นอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่การจำกัดบุตรให้เหลือ 1 คนโดยการให้คนที่เหลือไปเข้าห้องแช่แข็ง มันดูเป็นอะไรที่น่าเคลือบแคลงตั้งแต่แรกเห็น
ซึ่งหนังก็ดูตั้งใจให้รู้สึกถึงความเป็นโฆษณาชวนเชื่อ
มาตรการแบบนี้คือความหวังดีต่อมนุษยชาติ แต่มันคือการลิดรอนสิทธิการมีชีวิตอยู่ของบุคคลหรือเปล่านี่สิที่น่าคิด
ความเป็นหนังไซไฟอยู่สูงด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ดูทันสมัยทว่าบ้านเมืองเหมือนจะสกปรกกว่าปัจจุบัน แต่ไปๆ มาๆ ประเด็นหลักของหนังเหมือนจะเทไปในทางครอบครัว หนังพยายามจะนำเสนอประเด็นตรงนี้อย่างชัดแจ้ง จนทำให้คนดูต้องนั่งคิดว่า เออ ถ้าเป็นตัวเองควรจะเลือกยังไง
เราจะเข้าใจตัวละครมากขึ้น เพราะหลายครั้งชีวิตก็ไม่ง่าย ไม่อาจจะเลือกได้ทุกอย่าง และต้องเลือกไปตามสถานการณ์ที่มี
หนังอาจจะไม่ได้ดีพร้อมนัก เพราะมีช่องโหว่บางจุดที่โผล่มาให้เห็น อาจจะไม่เม้กเซ้นส์ไปบ้าง แต่ด้วยการดำเนินเรื่องที่สุดตื่นเต้นทำให้ช่องโหว่เหล่านั้นดูเล็กลงไป
อีกทั้งการแสดงของ Noomi Rapace ที่เล่นเป็น 7 ตัวได้อย่างแนบเนียน ชวนให้นายแพทอินได้กับตัวละครพี่น้องในเรื่อง เป็นอีกจุดที่น่าชื่นชมในหนังเรื่องนี้
ชื่อภาพยนตร์: What Happened to Monday / 7 เป็น 7 ตาย / Seven Sisters
ผู้กำกับภาพยนตร์: Tommy Wirkola
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Max Botkin, Kerry Williamson
นักแสดงนำ: Noomi Rapace, Glenn Close, Willem Dafoe, Marwan Kenzari, Clara Read
ความยาว: 123 นาที
แนว/ประเภท: Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 31 สิงหาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Nexus Factory, Raffaella Productions, SND Films
7 เป็น 7 ตาย
What Happened to Monday - 8
8
What Happened to Monday
หนังแอคชั่นไอเดียบรรเจิด ใช้นางเอกคนเดียวแต่เล่นเป็น 7 ตัว แยกบุคลิกให้เห็นชัดเจน เดินเรื่องสนุก แอคชั่นโคตรมัน และโหดเลือดสาด นูมิ ราเพซ แสดงเอาไว้ได้ยอดเยี่ยม แม้จะมีช่องโหว่อยู่บ้าง แต่หนังก็ทำให้คนดูได้ลุ้นไปกับครอบครัวนี้แถมยังพาอินไปกับพวกเธอได้อีก