เป็นเหมือนความชอบที่มีร่วมกันสองคน ทำให้ซีรีส์ส่วนใหญ่ที่เปิดดูด้วยกันมักจะเป็นซีรีส์เกาหลี แต่ก็นั่นแหละ ถึงยังไงก็ไม่ใช่คอซีรีส์เกาหลีเต็มเวลา มักจะสลับด้วยซีรีส์สัญชาติอื่นเป็นปกติ ไม่มีทางจะได้เคยสัมผัสกับ ‘Chief Inspector’ ที่เคยออกอากาศในปี 1971-1989 อย่างแน่นอน จนเมื่อได้เห็นว่ามีการสร้าง prequel หรือเรื่องราวก่อนหน้ามาให้เราชม จึงได้เริ่มต้นรู้จักกับสายสืบพัคยองฮันกันที่ ‘Chief Detective 1958’ นั่นแล
สายสืบคนดังตอนนี้ เขากลายเป็นคนแก่วัยเกษียณไปแล้ว เรื่องราวในซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ จึงเป็นเหมือนย้อนวันกลับไปรำลึกเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตของเขา รวมทั้งยังเป็นการย้อนให้ผู้คนในยุคปัจจุบันได้กลับไปเห็นเกาหลีในยุคอดีตอีกด้วย
‘Chief Detective 1958’ เล่าถึงเรื่องอะไร?
พัคยองฮัน (Lee Je Hoon/อีเจฮุน จากซีรีส์ ‘Move To Heaven’ ) สายสืบชื่อดังผู้จับโจรขโมยวัวได้มากที่สุดแห่งฮวังชอน จังหวัดคยองกี ด้วยผลงานที่ดีทำให้เขาได้ย้ายไปทำหน้าที่ในสถานีตำรวจจงนัมในกรุงโซล ที่นี่ เขาจะได้รับบทบาทสายสืบแห่งแผนกสืบสวนที่หนึ่ง ผู้จะต้องตามจับนักเลงที่ค่อนข้างจะเหิมเกริมอย่างหนัก เพราะพวกเขาไม่กลัวเกรงอำนาจการจับกุมของตำรวจแต่อย่างใด
นอกจากเขาจะได้ทำงานท่ามกลางสายตาดูถูกของผู้คนแล้ว เขายังต้องเจอเพื่อนตำรวจที่ไม่ได้เอาจริงเอาจังในการทำหน้าที่ แถมยังใส่ใจแต่ความอยู่รอดของตนเองเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่เขามีหัวหน้ายู ยูแดชอน (Choi Duk Moon/ชเวดอกมุน) ที่เชื่อมั่นในตัวเขา ทั้งยังมีอุดมการณ์เดียวกัน ทั้งสองจึงร่วมกันก่อร่างสร้างทีมขึ้นมา และกลายเป็นทีมเดียวที่แหกคอกและผ่าเหล่าออกมาจากตำรวจจงนัม พวกเขาจะจัดการกับเหล่านักเลงทงแดมุนที่เหิมเกริมได้สักเท่าไหร่กัน คงต้องมาลองดู
ทีมตัวตึงแห่งสถานีตำรวจจงนัม
เราได้มารู้ในเวลาต่อมาว่า แท้จริงแล้ว เป็นหัวหน้ายูนั่นเองที่เลือกให้เขาย้ายเข้ามาอยู่ในทีม แสดงว่าที่ผ่านมา คงดำรงในสถานีนี้อย่างตำรวจที่แปลกแยกเพียงผู้เดียวมาตลอด แต่ว่านะ แผนกสืบสวนที่หนึ่งจะมีแค่หนึ่งหัวหน้าและหนึ่งลูกน้องไม่ได้ ในที่สุด สองคนก็ควานหาเพื่อนร่วมแผนกมาได้จนกลายเป็น 5 หน่อด้วยกัน
นอกจากหัวหน้ายูและพัคยองฮันแล้ว ก็ยังมี คิมซังซุน (Lee Dong Hwi/อีดงฮวี จากหนังเรื่อง ‘Broker’) เจ้าของฉายา คนกัดหมา ด้วยความเป็นตำรวจหมาบ้า แถมยังเป็นเพื่อนกับหมาชื่อ ซุนนัม คนต่อมาคือ โจคยองฮวาน (Choi Woo Sung/ชเวอูซอง จากซีรีส์ ‘My Roommate Is A Gumiho’) หนุ่มขายข้าวพลังช้าวสาร ก่อนจะมาเจอหนุ่มคนสุดท้าย ซอโฮจอง (Yoon Hyun Soo/ยุนฮยอนซู จากซีรีส์ ‘Racket Boys’) บัณฑิตจาก ม.ฮันจู ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ สมัครและสอบผ่านเข้ามาเป็นตำรวจในสถานีจงนัม ที่มาวันแรกก็ก่อเรื่องจนกลายเป็นหมาหัวเน่า จนถูกชักชวนให้มาอยู่ในทีม
แผนกสืบสวนที่หนึ่งกลายเป็นแผนกที่เข้ากับใครไม่ได้ เพราะตำรวจจงนัมในตอนนั้นแสดงท่าทีเป็นพวกเดียวกับนักเลง ตำรวจชั้นผู้น้อยกลัวโดนเด้ง เพราะตำรวจระดับสูงกว่าคอยหนุนหลังนักเลง แม้แต่ระดับอัยการหรือนักการเมืองก็รู้จักกับพวกมัน ผู้กำกับชเวก็เป็นพวกบ้าเงิน เลียแข้งเลียขาเก่ง สรุปก็คือนอกเหนือจากแผนกนี้ ไม่มีตำรวจดีอยู่ในสถานีจงนัมอีกแล้ว
ไขคดีสลับเลิฟไลน์ของสายสับพัคยองฮัน
ชีวิตของสายสืบพัคนั้น นอกเหนือจากจะยุ่งอยู่กับการจับนักเลงต่างๆ ในเขตจงนัมแล้ว อีกด้านหนึ่ง เขาก็ยังมีชีวิตด้านความรักด้วย สายสืบพัคได้พบเจอกับสาวสวย อีฮเยจู (Seo Eun Su/ซออึนซู จากซีรีส์ ‘Unlock My Boss’) เจ้าของร้านหนังสือจงนัมในวันที่เขาหลบหนีแก๊งนักเลง และฮเยจูก็ให้ความช่วยเหลือ ความประทับใจเมื่อแรกพบ ส่งผลให้ทั้งสองคนยังคงสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา
ความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสายสืบกับสาวเจ้าของร้านหนังสือจึงกลายเป็นคู่ที่น่ารัก ซีรีส์เล่าเรื่องเดือด ๆ ของสายสืบที่ต้องรับมือกับเคสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ พอหลุดจากความวุ่นวายมาได้ บทของซีรีส์ก็เหมือนตั้งใจให้เวลาผู้ชมได้พักกับเลิฟไลน์ คล้ายจะเป็นเหมือนเซฟโซนให้สายสืบ คลื่นลมภายนอกที่ถาโถม ดูสงบเงียบและรื่นรมย์เมื่อมีแค่สองคนอยู่ในเฟรม ซีรีส์ให้เวลากับซีนโรแมนติกมากแม้จะไม่เท่ากับเวลาสืบและคลี่คลายคดี เวลา ก็บู๊กันสุดเหวี่ยง บทจะซึ้ง ก็หวานกันเต็มที่เช่นกัน
จนทำให้คนดูรู้สึกกลัวใจว่าในสักตอนหนึ่ง ปัญหาของพระเอกจะวนมาที่นางเอกเนี่ยแหละ
หลายเรื่องหลายปัญหาที่สะท้อนมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์เกาหลี
อย่างที่เห็นกัน ซีรีส์มันพาเรากลับไปยังเกาหลียุคที่บ้านเมืองยังอยู่ในยุคที่ลำบากยากเข็ญ บ้านเมืองถูกปกครองโดยรัฐบาลปฏิวัติ และพวกที่ออกมาประท้วงการเลือกตั้ง พวกที่ออกมาต่อต้านก็จะถูกเรียกว่ากบฎ ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอย่างถูกจำกัด เพราะตอนนั้นยังมีเคอร์ฟิว ที่เมื่อถึงเวลา ทุกคนต้องรีบวิ่งเข้าบ้านให้ทันไม่งั้นจะถูกจับกุม
สายสับพัคผู้ที่มีชีวิตอยู่แต่บ้านนอก เจอปัญหาที่ใหญ่สุดก็แค่เรื่องโจรที่ขโมยวัว แต่มาอยู่ในกรุงโซล ปัญหาที่รุมเร้ามีแต่เรื่องนักเลง ที่สร้างปัญหาตั้งแต่เล็กๆ อย่างการก่อกวนชาวบ้านร้านตลาด รีดไถคนที่ลำบากอยู่แล้วให้ต้องยิ่งลำบากหนัก นักเลงทงแดมุนกร่างป่วนเมือง และมีความสัมพันธ์โยงใยกับวงการการเมือง ทำให้เกาหลีในยุคสมัยนั้นค่อนข้างกลียุคประมาณหนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่เล่าถึงการค้าเด็ก ซึ่งตอนนั้นเนี่ยต้องถือเป็นตอนที่น่าเศร้ามาก เพราะหนึ่งในตัวละครนำก็เคยอยู่บ้านเด็กกำพร้ามาก่อน เขาย่อมเข้าใจความรู้สึกของเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ดี อีกอย่างหนึ่งก็คือ มันเป็นช่วงเวลาที่เกาหลีก่อตั้งสำนักนิติวิทยาศาสตร์ขึ้นมาชันสูตรศพ ซึ่งช่วยงานพิสูจน์หลักฐานและการสีบคดีได้อย่างมาก
ในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นว่าตำรวจเองก็ไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรนัก ส่วนใหญ่คือมองแต่ความอยู่รอดส่วนตน ในเมื่อเจ้านายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเลง ลูกน้องจะไปกล้าจับกุมพวกมันได้ยังไง ขนาดผู้กำกับ อัยการ รองอธิบดี คนพวกนี้ยึดโยงอยู่กับกลุ่มนักเลงกันหมด อาชญากรจึงได้เหิมเกริมและอาชญากรรมก็เกิดขึ้นทั่วเมือง ถ้าไม่มีตำรวจน้ำดีสักกลุ่มที่ลุกขึ้นมาจัดการ บ้านเมืองจะเละและพังสักแค่ไหนล่ะคิดดู
พวกเขาไม่ได้แค่รับมือกับตำรวจสถานีเดียวกัน แต่ยังต้องไปมีเรื่องขัดแย้งกับตำรวจต่างสถานีอีกด้วย ที่สำคัญคือต้องรับมือกับผู้บังคับบัญชาที่น่ารำคาญใจ เพราะผู้กำกับแต่ละคน ขวางหูขวางตาซะจริง คนแรกก็ขวางไปซะทุกงาน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ทำงานเอาหน้า มีสายสัมพันธ์กับนักเลง ทั้งยังเชื่อมโยงกับกลุ่มฝักใฝ่ญี่ปุ่นในครั้งอดีตด้วย พอมาอีกคนก็เคยมีความหลังกับพระเอกมาก่อน แถมยังโหดเหี้ยมกว่าหลายเท่า เห็นแล้วมันน่าหนักใจแทนสายสืบพัคเสียจริงๆ
โดยรวมแล้ว มันคือซีรีส์ที่เล่นทั้งแนวแอ็คชัน อาชญากรรม ดราม่า และสืบสวนสอบสวน มีฉากต่อสู้เดือดๆ แทรกอยู่ในหลายตอน และก็พยายามสลับด้วยฉากโรแมนติกของคู่พระนางเข้ามา เพื่อให้คนดูได้พักหายใจหายคอบ้าง เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่จัดว่า สนุกไม่เบาเลยล่ะครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Chief Detective 1958 / 수사반장 1958 |
ผู้กำกับ | Kim Sung Hoon/คิมซองฮุน (เจ้าของผลงาน ‘Rampant’ และ ‘Confidential Assignment’) |
ผู้เขียนบท | Kim Young Shin/คิมยองชิน |
นักแสดง | Lee Je Hoon/อีเจฮุน, Lee Dong Hwi/อีดงฮวี, Choi Woo Sung/ชเวอูซอง, Yoon Hyun Soo/ยุนฮยอนซู, Seo Eun Su/ซออึนซู, Choi Duk Moon/ชเวดอกมุน |
แนว/ประเภท | อาชญากรรม, ดราม่า, สืบสวนสอบสวน |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 10 ตอน |
ช่องทางรับชม | Disney+ Hotstar |
เริ่มออกอากาศ | 19 เมษายน – 18 พฤษภาคม 2024 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | MBC |