
คงมีคนมากมาย เฝ้ารอคอยการกลับมาของไอยูในบทบาทนักแสดง และในวันที่พวกเขาสมหวัง ก็ได้พบว่าตัวเองต้องเสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่าให้กับบทและเรื่องราวที่ไอยูนำแสดงร่วมกับพัคโบกอม และนักแสดงอีกมากมายที่เล่นไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ‘When Life Gives You Tangerines’ หรือชื่อไทย ‘ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน’ กลายเป็นซีรีส์อันดับหนึ่งในเน็ตฟลิกซ์ไปในชั่วข้ามคืน
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้?
ซีรีส์เกาหลีในเน็ตฟลิกซ์ที่บอกเล่าเรื่องราวยาวๆ ตั้งแต่รุ่นยายยันรุ่นลูก บอกเล่าถึงสองชีวิตบนเกาะเชจูที่เกิดและเติบโตขึ้นมาจากความยากจน ท่ามกลางสังคมที่ไม่ค่อยให้โอกาส เล่าเรื่องความรัก ความผูกพัน ครอบครัว และที่สำคัญก็คือชีวิตและความทรงจำ ในนั้นยังคงพูดถึงความแตกต่างทางชนชั้นและฐานะ ที่ทำให้หลายสิ่งแตกต่างไป
เป็นซีรีส์ที่ชวนซึ้งเรียกน้ำตา จนคนถามหาว่าเมื่อไหร่ส้มจะหวาน ต้องบอกว่าแสดงดีกันทั้งแคสต์ แม้เจ็บปวดแค่ไหนแต่คนดูจะไม่มีวันทิ้งไว้แค่กลางทาง ไอยูคือที่สุด ต้องเล่นเป็นสองตัว แถมยังสวมบทบาทได้อย่างเข้าถึง
เรื่องย่อซีรีส์ ‘When Life Gives You Tangerines’
โอแอซุน (ไอยู จากซีรีส์ ‘Hotel Del Luna’ และหนังเรื่อง ‘Broker จัดหารัก’) วัยเด็ก เธอเป็นลูกของแม่ผู้ทำอาชีพแฮนยอที่ยากจน พ่อของเธอตายไปแล้ว แม่ก็จากตามไป เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า และโตขึ้นมากับพ่อเลี้ยง ที่หลอกให้เธออยู่ช่วยเลี้ยงน้องจนเรียนมัธยมฯ เด็กสาวผู้ฝันจะเรียนด้านวรรณกรรม และอยากจะแต่งงานกับหนุ่มโซล ไม่เอาหรอกหนุ่มเชจู
ยังกวานชิก (พัคโบกอม จากซีรีส์ ‘Reply 1988’ และหนังเรื่อง ‘Wonderland’) ลูกของเจ้าของตลาด คนขายปลาที่ดูแลแอซุนทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยบ่นสักคำ พอเขาอายุได้ 19 ปี เขาก็ก้าวขึ้นเรือออกจากเกาะเชจูพร้อมกับแอซุนเพื่อหนีไปปูซาน
ชีวิตที่แสนหวานขมของหญิงชายคู่หนึ่งที่ดำเนินไปพร้อมกัน ผ่านความทุกข์ยาก 4 ฤดูกาลในแต่ละปีที่มีทั้งดีและร้ายไปถึงวันที่พวกเขามีลูกด้วยกัน และมันก็ยังคงผ่านไปเรื่อยจวบจนถึงวัยชราของโอแอซุน
รีวิวซีรีส์ ‘ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน’
ซีรีส์เรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของรุ่นพ่อแม่ที่เกิดและเติบโตบนเกาะเชจู ร่ายยาวมาจนถึงรุ่นลูกที่พำนักพักอาศัยใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโซล โดยไม่ได้เล่าเป็นเส้นตรง แต่สลับกันไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน(ของตัวละครรุ่นลูก) ความจริงแล้ว มันเล่าตั้งแต่วัยเด็กของโอแอซุนไปจนถึงวัยชราของเธอเลยนั่นแหละ โดยเขาจะเล่าทั้งหมด 16 ตอน แบ่งฉายเป็น 4 สัปดาห์ ตอนใหม่มา 4 ตอนต่อสัปดาห์ ถือว่าเป็นวิธีการลงตอนที่ไม่เหมือนใครดีนะครับเนี่ย
เรื่องราวในซีรีส์มันช่างยาวนานเสียจริงๆ มันเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็กของโอแอซุน เด็กสาวที่มีกวังรเย (ยอมฮเยรัน จากซีรีส์ ‘Mask Girl’) แม่ผู้เป็นแฮนยอ อาชีพที่เสี่ยงตายงมหาสาหร่าย หอยและปลาหมึกในทะเลขึ้นมาขาย แม่ที่แสนยากจนของเธอตั้งหน้าตั้งตางมจนป่วยเป็นโรคน้ำหนีบและจากไปในวัยเพียงยี่สิบเก้า ส่วนลูกสาวอย่างแอซุนก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับ ยังกวานชิก เพื่อนชายที่ใกล้ชิดและเคียงข้างเธอตลอดมา ลูกชายเจ้าของแผงขายปลาที่ช่วยขายกำหล่ำปลีให้แอซุนทุกวี่ทุกวัน ขณะที่แอซุนสนใจแต่เรื่องเขียนกลอน ใฝ่ฝันจะเรียนด้านวรรณกรรมและแต่งงานกับหนุ่มโซล โดยไม่รู้เลยว่า เนื้อคู่ของตนก็คือหนุ่มเกาะเชจูที่อยู่ข้าง ๆ ตลอดมานั่นแหละ
สะท้อนสังคมเกาหลีที่ชายเป็นใหญ่
ช่วง 4 ตอนแรก เล่าถึงชีวิตอันน่ารันทดในวัยเด็กของแอซุน เธอต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสองบ้าน แม่ที่แต่งงานใหม่กับยอมบยองชอล (โอจองเซ จากซีรีส์ ‘ดาวระยิบกระซิบรัก’) ชายที่ไม่เอาไหน อยู่เหมือนมาเกาะกิน แม่จึงมักผลักให้แอซุนไปอยู่กับบ้านพ่อ (ที่เสียไปแล้ว) ที่มีเงินมากกว่า ส่วนในโรงเรียน แอซุนต้องเติบโตอยู่ในสังคมชายเป็นใหญ่ ใส่ใจเรื่องฐานะและเงินทอง เธอได้เป็นที่สองตลอด แข่งกลอนได้ที่สอง และได้เป็นแค่รองหัวหน้า ส่วนที่หนึ่งจะเป็นที่ของผู้ชายเสมอมา
และก็สังคมชายเป็นใหญ่อีกเช่นกันที่ตัดสินเธออย่างไม่เป็นธรรม คู่รักที่หนีตามกันไปถึงปูซาน ฝ่ายชายโดนแค่พักการเรียน แต่ฝ่ายหญิงถูกไล่ออก ทำให้แอซุนต้องไร้ทางเลือก ไม่มีที่ให้ไป เกือบตัดสินใจยอมเป็นเมียของบูซังกิล (ชเวแดฮุน จากซีรีส์ ‘The Judge from Hell’) ไต๋พ่อม่ายเจ้าของเรือวัย 30 ปีที่อยากได้ภรรยาเพื่อจะทำงานทุกอย่างในบ้านและเลี้ยงลูกๆ ตัวเองซะแล้ว
ในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นพฤติกรรมที่เลวร้ายของบูซังกิล เขาเป็นทั้งสามีที่ใช้ความรุนแรงทำร้ายภรรยา ไม่ยอมรับถ้าผู้หญิงจะโต้แย้งไม่รับฟัง แล้วก็ยังทำร้ายลูกน้องของตัวเองอีก แต่ยังไงก็ตาม ผู้ชายดีๆ ในเรื่องนี้ก็ยังพอจะมีบ้าง คนแรกเขาคือ กวานชิก เขาทำในสิ่งที่แตกต่าง และเลือกที่จะเข้าข้างแอซุนในเวลาที่เธอทะเลาะกับครอบครัวของตัวเขาเอง
ชีวิตที่หวานขม แต่ขมอาจจะมากกว่าไม่หน่อย
แม้ว่าแอซุนจะไม่ได้เรียนมหา’ลัย ไม่ได้จบวรรณกรรม ไม่ได้หนุ่มโซลเป็นสามี แต่ฤดูกาลย่อมผ่านผัน ช่วงใบไม้ผลิยังคงกลับมาทุกปี ชายคนที่เธอเคยไล่ เขากลายเป็นพ่อของลูกทั้งสาม แอซุนและกวานชิกในวัยผู้ใหญ่ที่แสดงโดย มุนโซรี (จากซีรีส์ ‘Jeongnyeon: The Star is Born’) และ พัคแฮจุน (จากซีรีส์ ‘The 8 Show’) พวกเขามีลูกสาวคนโตชื่อ กึมมยอง ก็หน้าตาเหมือนแม่เปี๊ยบ และกึมมยองก็เล่นโดย ไอยู นั่นแหละ ทำให้เรื่องนี้ ไอยูเล่นเป็นทั้งแม่วัยสาวและลูกสาวของแม่ตัวเอง
ชีวิตรักอันแสนรันทดของคนสองคนจากเกาะเชจู พวกเขาคือพ่อแม่วัยรุ่นที่ต้องละทิ้งความฝัน เพื่อเลี้ยงลูก ๆ ให้เติบโต ด้วยความที่เรียนจบไม่สูง ฐานะไม่ดี พ่อต้องกลายเป็นลูกเรือออกทะเลไปกับไต๋เรือทรงอิทธิพลผู้เลวร้าย แม่ก็ต้องยอมเป็นแม่บ้านอยู่แต่ในห้องครัว ชีวิตของพวกเขาเจอทั้งดีและร้าย บาดแผลยังประจักษ์อยู่บนเนื้อตัวของกวานชิก แต่ชีวิตของพวกเขาไม่ได้หยุดอยู่ตรงนั้น ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะและชีวิตค่อยๆ ดีขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น แอซุนก็บอกตัวเองว่า ต่อให้ย้อนเวลากลับไปเธอก็ยังเลือกคนเดิม กวานชิกคือเหล็กกล้าของเธอมาโดยตลอด เขาคือผู้ชายที่รักเดียวใจเดียว และยอมทำทุกอย่างเท่าที่กำลังจะมีเพื่อเธอและลูก ๆ มาโดยตลอด เธอไม่ได้เลือกคนผิด
น้ำใจดี ๆ จากคนรอบข้าง และไดอะล็อกอันทรงคุณค่า
ในระหว่างทางของการเติบโต พวกเขาได้พบเจอกับคนดีๆ มีน้ำใจตั้งมากมาย หากขาดความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้น ป่านนี้ แอซุนและกวานชิกจะยังมีชีวิตอยู่ต่อมั้ยก็ไม่รู้ คุณยายที่คอยมาเติมข้าวในถังทีละน้อยไม่ให้แอซุนรู้ คุณตาที่ให้เช่าบ้านในราคาถูก ๆ แถมยังคอยเอาของกินมาฝากอยู่เสมอ แม้กระทั่งสามีใหม่ของแม่ ที่หลอกให้แอซุนอยู่ช่วยเลี้ยงน้อง นั่นก็ทำให้เธอได้มีที่นอนและที่เรียน ไหนจะคุณยายที่ส่งสมุดบัญชีให้เธอได้ซื้อเรือเป็นของตนเอง หลายต่อหลายคนที่มีน้ำใจ ช่วยให้เธอยังมีกำลังจะสู้ต่อ ถ้าขาดพวกเขาเหล่านั้น ป่านนี้ แอซุนจะมีชีวิตเช่นไรกันนะ
แม้ทะเลจะพรากคนที่เธอรักไปหลายคน แม้เป็นหลานสะใภ้ของคุณย่าที่เป็นหมอผี โดนเม็ดถั่วแดงสาดใส่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้ผู้หญิงอย่างเธอเป็นได้แค่ไม้ประดับในบ้านคนรวย เป็นผู้หญิงที่มีวัยสาวเพียงเพื่อตั้งท้องคนแล้วคนเล่า แม้ฤดูกาลจะผ่านผัน แต่ไม่ว่าฤดูไหน ชีวิตก็ผกผันได้เสมอ ซีรีส์ที่เดินไม่เป็นเส้นตรง สลับเวลาไปเรื่อยแต่ไม่งง มีเสียงบรรยายของแอซุนและกึมมยองในช่วงเวลาต่างๆ แทรกเข้ามาระหว่างเรื่องราว
“เราต้องใช้คนทั้งหมู่บ้าน เพื่อให้คนหนึ่งคนมีชีวิตรอดไปได้”
“คนอื่น ๆ แค่แกล้งเป็นผู้ใหญ่ เพราะสังคมบอกให้เป็น”
“นึกว่าถ้าเราโตขึ้นแล้ว… ทั้งกายและใจของเราจะแข็งกระด้างจนทนไฟได้ แต่มันแผดเผาฉันเหมือนเดิม ถึงโดนเผาทุกวัน ก็ยังเจ็บทุกครั้ง ฉันเป็นแบบนี้คนเดียวหรือเปล่า”
“ลูกอาจทิ้งแม่ที่ป่วยเรื้อรัง แต่กลับกัน พ่อแม่นั้นทิ้งลูกแบบนั้นไม่ได้”
“บนโลกนี้ อาจไม่มีใครที่รู้จักโตจริงๆ พวกเราทุกคนล้วนเป็นเด็ก”
“ไม่มีใครอยากทำงานเพราะสนุกหรอกนะ ทำเพื่อเงินทั้งนั้นแหละ”
ต้องบอกว่าบทของซีรีส์เรื่องนี้อัดแน่นไปด้วยไดอะล็อกที่ทรงคุณค่า มีสาระน่าคิดตาม จนไม่มีตรงไหนเป็นที่ว่างที่ไม่จำเป็น เหลือเชื่อที่เขาใส่ทุกอย่างมาได้ขนาดนี้ ไหนจะเรื่องราวเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงเวลาที่แทรกเข้ามาเป็นระยะ และบ้างก็ส่งผลต่อชีวิตของตัวละครภายในนั้น ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตของแฮนยอ อาชีพเก่าแก่ของหญิงชาวเกาหลีที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายมานับร้อยครั้ง แม่ของแอซุนก็ทำอาชีพนี้ และทะเลก็พรากเธอไปก่อนเวลา
ความเชื่อคร่ำครึที่ทำให้ผู้หญิงถูกกดทับ แต่แอซุน คือหญิงสาวที่ต่อสู้อยู่กับระบบชายเป็นใหญ่ เธอกล้าจะก้าวขึ้นเรือประมง กล้าจะเข้าสู่วงการเลือกตั้งด้วยนโยบายไม่ใช้การซื้อเสียง และหลายครั้งที่ไฝว์กับผู้ชาย
เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่ชวนน้ำตาไหลฝุดๆ
มังกรที่ผงาดจากลำธารน้อย ๆ แห่งเกาะเชจู ดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัวในวัยสาว ก่อนมาดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของลูกๆ ในโซลในวัยผู้ใหญ่ แบกความรู้สึกผิด ความสูญเสีย ออกมาจากเกาะ ได้แค่เก็บกอดไว้ในใจเรื่อยมา
แอซุนได้พบว่า แม้เธอจะต้องการให้ลูกได้ทำได้มีทุกอย่างแค่ไหน แต่สุดท้ายก็กลับพบว่าสิ่งที่ตนให้ ก็ยังไม่เพียงพอเท่าที่ลูกต้องการ แอซุนเคยเจ็บปวดตอนเป็นลูก แต่ก็ต้องมาเจ็บปวดในวันที่เป็นแม่คน ถ้าเธอเลือกแต่งงานกับคนร่ำรวย ชีวิตวันนี้คงดีกว่ามาก แต่เธอก็รู้ดีว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังเป็นคนที่เธอเลือก กวานชิกผู้มั่นคงดั่งหินผา เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอและลูกเสมอมา เป็นดั่งเหล็กกล้าที่เธอชื่นชม
ซีรีส์ที่มักจะเล่าเรื่องของแม่กับลูกสาว ด้วยการพาพวกเขามาอยู่ในซีนเดียวกันแต่ต่างเวลา มันจึงแทนความคิดและความทรงจำของแม่ลูกได้อย่างทรงพลัง
เรื่องที่เล่าแบบสลับช่วงเวลาไปตามแต่จะพูดถึงเรื่องอะไร โดยเสียงของแอซุนและลูกสาวคอยบรรยายแทรกเข้ามา บทของมันทำให้เห็นถึงชีวิตปากกัดตีนถีบของคนหลายรุ่น กวังรเย มาถึงรุ่นแอซุนและกวานชิก ยาวมาถึงรุ่นกึมมยองและอึนมยอง แม้โดยส่วนใหญ่จะเน้นเล่าด้านฝ่ายหญิงมากหน่อย แต่บทซีรีส์ก็ไม่ลืมที่จะเล่าชีวิตไม่หวานของฝ่ายชาย
ด้วยวิธีการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ ทำให้อึนมอยงรู้สึกไม่อยู่ในสายตาและน้อยเนื้อต่ำใจ จึงพยายามตะเกียกตะกายเพื่อเอาชนะใจ ทำให้คนดูอย่างเราได้มองเห็นว่า แม้จะรักลูกเท่า ๆ กันแต่การแสดงออกทำให้ลูกมองว่าเราลำเอียงโดยเราไม่ทันคาดคิด กาลเวลาเท่านั้นกระมัง ที่จะทำให้พ่อแม่ลูกเข้าใจกันและกันได้
บทของมันพาน้ำตาไหลครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการแสดงที่เข้าถึงและไดอะล็อกที่กระทบใจ แม้จะเป็นฉากเล็กฉากน้อยก็ทำร้องไห้ได้ อย่างซีเควนซ์นึงที่บอกเล่าว่า ลูก ๆ อาจจะโตแล้วก็จริง แต่คนเป็นพ่อและแม่ ยังเห็นลูกเป็นเด็กอยู่เหมือนเช่นเดิม ไม่อาจทำใจแข็งได้เลย แม้จะไม่ได้เกิดในครอบครัวที่อบอุ่นและมีลูกเป็นของตัวเองเลยก็ตาม
นอกจากนี้ ก็ยังเล่าชีวิตรักของรุ่นลูกไปด้วยนะ ชีวิตรักของกึมมยอง เธออาจได้เจอคนที่ดีอย่าง พัคยองบอม (อีจุนยอง จากซีรีส์ ‘Melo Movie’) แต่เพราะมีครอบครัวเจ้ายศเจ้าอย่างจนไม่อาจได้สมหวัง ส่วนอีกคนคือ พัคซุงซอบ (คิมซอนโฮ จากซีรีส์ ‘The Tyrant’) หรือพัคโตโต้ จิตรกรนักวาดภาพโฆษณาหนังผู้น่ารักและจิตใจอ่อนไหว เขามีนิสัยใกล้เคียงกับกวานชิกผู้พ่ออย่างมาก กึมมยองได้เจอคนที่ใช่แล้วล่ะ
ดูซีรีส์เรื่องนี้มาทั้ง 12 ตอน ได้เห็นการแสดงของทั้งแคสต์ที่เรียกได้ว่าดีไม่มีที่ติ ทุกถ้อยคำ ทุกบทสนทนา ล้วนมีความหมาย ไม่มีตรงไหนที่ไร้ความหมาย ทั้งหมดล้วนกระทบจิตใจจนมีแต่น้ำตาที่หลั่งไหลออกมา ได้แต่ถามตัวเองว่า มันมีตรงไหนเหรอที่ส้มจะหวาน พบว่าตัวเองนั่งน้ำตาไหลอาบแก้มได้แทบทั้งเรื่อง แม้จะมองเห็นแต่ส้มเปรี้ยว แต่เนื้อในก็ยังทำให้เรามองเห็นว่า ถ้าเรายังเป็นคนดีที่มุ่งมั่นอยู่ สักวันหนึ่ง เราจะลืมตาอ้าปากได้ อาจไม่ถึงขั้นร่ำรวย แต่ถ้าชีวิตมันยังไม่สิ้น มันก็คงต้องดิ้นกันไป
อีกสิ่งที่ใจรู้สึก “สัญญาที่เราเคยให้ไวกับคนที่เรารัก เมื่อกาลเวลาผันผ่าน ขอเพียงทำมันได้สำเร็จสักอย่าง เท่านั้นก็ปัดเป่าความรู้สึกผิดในใจไปได้มากแล้ว”
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | When Life Gives You Tangerines / ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน / 폭싹 속았수다 |
ผู้กำกับ | Kim Won Suk (เจ้าของผลงาน ‘My Mister’ และ ‘Signal’) |
ผู้เขียนบท | Im Sang Choon (เจ้าของผลงาน ‘When the Camellia Blooms’) |
นักแสดง | Park Bo Gum, IU, Moon So Ri, Park Hae Joon, Lee Jun Young, Kim Sun Ho, Choi Dae Hoon |
แนว/ประเภท | ดราม่า, ประวัติศาสตร์, โรแมนติก |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 16 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 7 – 28 มีนาคม 2025 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Baram Pictures, PAN Entertainment |
คะแนนรีวิวซีรีส์ ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน
พล็อตและบท - 10
การดำเนินเรื่อง - 10
การแสดง - 10
เพลงและดนตรีประกอบ - 9
งานถ่ายภาพ ดนตรีประกอบ และโปรดักชั่น - 9
9.6
When Life Gives You Tangerines
ซีรีส์เกาหลีในเน็ตฟลิกซ์ที่บอกเล่าเรื่องราวยาวๆ ตั้งแต่รุ่นยายยันรุ่นลูก บอกเล่าถึงสองชีวิตบนเกาะเชจูที่เกิดและเติบโตขึ้นมาจากความยากจน ท่ามกลางสังคมที่ไม่ค่อยให้โอกาส เล่าเรื่องความรัก ความผูกพัน ครอบครัว และที่สำคัญก็คือชีวิตและความทรงจำ ในนั้นยังคงพูดถึงความแตกต่างทางชนชั้นและฐานะ ที่ทำให้หลายสิ่งแตกต่างไป เป็นซีรีส์ที่ชวนซึ้งเรียกน้ำตา จนคนถามหาว่าเมื่อไหร่ส้มจะหวาน ต้องบอกว่าแสดงดีกันทั้งแคสต์ แม้เจ็บปวดแค่ไหนแต่คนดูจะไม่มีวันทิ้งไว้แค่กลางทาง ไอยูคือที่สุด ต้องเล่นเป็นสองตัว แถมยังสวมบทบาทได้อย่างเข้าถึง