ของดีเกาหลีเรื่องใหม่ในเน็ตฟลิกซ์มาเสิร์ฟแล้วครับ กับซีรีส์ ‘Love Next Door’ หรือชื่อไทย ‘รักอยู่ประตูถัดไป’ ที่พาคู่พระนางขวัญใจคอเกาหลีให้ได้มาเจอกัน จองโซมิน และ จองแฮอิน ในบทของเพื่อนต่างเพศที่โตมาด้วยกัน เพราะแม่เป็นเพื่อนกันและบ้านก็อยู่ข้างๆ กัน ที่ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ ท่ามกลางปัญหาสารพัน และให้คนดูอย่างเราช่วยลุ้นกันไปว่า เพื่อนรัก-รักเพื่อน คู่นี้จะลงเอยอย่างไร
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ถึงมันจะดูเป็นซีรีส์รอมคอมที่เล่าเรื่องเดิมๆ เพราะพระนางเป็นเพื่อนบ้านกันมายาวนาน เพื่อนเล่น เพื่อนเรียนตั้งแต่เด็กยันโต ก่อนจะแยกย้ายแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันที่เธอตกงานและเขากำลังตั้งบริษัทตัวเองใหม่ๆ แต่ข้างในมันก็เน้นเล่าถึงปัญหาหลายหลายที่ชีวิตคนต้องพบเจอ เพื่อนที่แตกต่างด้านฐานะ ครอบครัว ความคิด และแน่นอน ประสบการณ์ชีวิต ที่จะช่วยกันประคับประคองและโอบอุ้มกันไป ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนที่รู้จักตัวตนกันมานาน แต่ในฐานะคนแอบรักด้วย
มาเอาใจช่วยไปด้วยกัน ให้ลูกของเพื่อนแม่ ได้เป็นคนรักจริงๆ ซะทีนะทุกคน
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Love Next Door’
มันเป็นเรื่องของเพื่อนกันวัยเด็กที่กลับมาเจอกันในวัยโตเป็นผู้ใหญ่ เริ่มกันที่ ชเวซึงฮโย (Jung Hae In/จองแฮอิน จากซีรีส์ ‘One Spring Night’) สถาปนิกหนุ่มที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเกาหลีใต้ และเพิ่งก่อตั้งบริษัทออกแบบสถาปัตย์เป็นของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้น เขายังเคยเป็นนักว่ายน้ำ เป็นหนุ่มหล่อ มีเสน่ห์ บุคลิกดี แต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งในอดีตที่อยากจะลบลืมมัน แต่ก็พบว่าชะตาชีวิตตัวเองกำลังเปลี่ยนแปลง ในวันที่ได้รู้ว่า แบซอกรยู (Jung So Min/จองโซมิน จากซีรีส์ ‘Alchemy of Souls’) เพิ่งกลับมาจากอเมริกาพร้อมพาเรื่องราวใหญ่โตกลับมาด้วย
ซึงฮโย และ ซอกรยู เป็นเพื่อนกันมาตั้ง 4 ขวบ บ้านที่อยู่ติดกัน อาบน้ำด้วยกัน เรียนร่วมชั้นกัน และแม่ของพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมก๊วนกัน
ชีวิตของซอกรยูนั้นราบรื่นและสวยงามมาโดยตลอด เธอทั้งเรียนดีและเต็มไปด้วยแพสชัน หลังจบมหาวิทยาลัยในอเมริกา เธอก็ได้งานทำและป็นโปรเจ็กต์เมเนเจอร์ในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่นั่น ทั้งเตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์ที่ทำให้แม่สุดภูมิใจ แต่กลับกลายเป็นว่า ซอกรยูกลับบ้านเกิดพร้อมกับข่าวที่ว่า เธอลาออกและล้มงานแต่งงาน
การกลับมาเกาหลีทำให้ซอกรยูได้กลับมาเจอกับซึงฮโย รื้อฟื้นความทรงจำในยุคมืดของทั้งสองคนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
รีวิวซีรีส์ ‘รักอยู่ประตูถัดไป’
นี่มันเป็นซีรีส์แนวรอมคอมที่เราคุ้นเคยนี่นา องค์ประกอบเต็มไปด้วยเรื่องโรแมนติกและคอมเมดี้ล้วนๆ เรื่องราวของเพื่อนวัยเด็กที่ไม่ค่อยอยากจดจำ ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งตอนวัยสามสิบกว่า คนนึงประสบความสำเร็จในอาชีพและเพิ่งแรกตั้งบริษัทของตนเอง อีกคนไปได้ดีในต่างประเทศแต่ซมซานกลับมาบ้านเกิดจนกลายเป็นคนตกงาน บรรดาแม่ๆ ที่สนิทสนมแต่ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมาเพื่อขิงว่าลูกใครเจ๋งกว่า งั้นเราลองมาเริ่มต้นที่การแจกแจงตัวละครแวดล้อมของพระเอกนางเอกกันก่อนเลยนะ
ตัวละครสำคัญในซีรีส์ ‘Love Next Door’
เริ่มกันด้วยเหล่าแม่กันก่อน ถ้าเอาแค่สองคนที่สำคัญก็จะมี ซอฮเยซุก (Jang Young Nam/จางยองนัม) เป็นแม่ของชเวซึงฮโย ส่วน นามีซุก (Park Ji Young/พัคจียอง) เป็นแม่ของซอกรยู สองคนนี้แต่ก่อนก็รักกันดี แต่เดี๋ยวนี้ทะเลาะกันประจำ เพราะเจอกันทีไรก็มีแต่คุยข่มกันว่าลูกใครประสบความสำเร็จมากกว่าอะไรงิ ส่วนอีกคนก็เป็น แดเจซุก (Kim Keum Soon/คิมกึมซุน) ที่เป็นแม่ของจองโมอึมที่มีอาชีพดูแลด้านอสังหาฯ อยู่
ทีนี้ มาว่ากันที่ตัวละแวดล้อมของพระนางแต่ละฝ่ายกันบ้าง เริ่มกัน ฝั่งพระเอก ชเวซึงฮโย มีบริษัทสถาปนิกเป็นของตัวเอง ชื่อ ‘Atelier In’ ที่ในเรื่อง เราก็จะมองเห็นว่ามีอยู่แค่ประธานที่เป็นซีอีโอร่วมอย่าง ยุนมยองอู (Jun Suk Ho/จุนซอกโฮ) กับอีนายุน (Sim So Young/ซิมโซยอง) พนักงานสาวที่ชื่นชมซึงฮโยราวกับเป็นแฟนพันธุ์แท้
ข้ามกันไปที่ฝั่งนางเอกกันบ้าง เธอมีแบดงจิน (Lee Seung Hyub/อีซึงยอบ) น้องชายที่กำลังจะสอบให้ผ่านเพื่อเป็นเทรนเนอร์ แล้วเธอก็มีเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่เด็ก แถมแม่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน อย่าง จองโมอึม (Kim Ji Eun/คิมจีอึน จากซีรีส์ ‘Again My Life’) สาวกู้ภัยคนสวยที่ค่อนข้างเนิร์ดๆ ผู้ได้พบกับนักข่าวหนุ่มแว่นอย่าง คังดันโฮ (Yun Ji On/ยุนจีอน) ในวันที่เขาทำตัวเจ๋อๆ ให้เธอเห็น
ความสัมพันธ์ของคู่พระนางที่เคยมียุคมืดด้วยกันมาก่อน
แบซอกรยู เป็นลูกสาวจอมแสบซนที่สร้างเรื่องให้แม่ปวดหัว ทั้งลาออกจากงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ทั้งล้มการแต่งทั้งที่แม่แจกการ์ดไปทั่ว แต่มันมีเหตุผลเบื้องหลังการสร้างเรื่องครั้งนี้ของเธออยู่ แต่การกลับมาเจอกันอีกครั้งสองหนุ่มสาวทั้งสอง ก็ได้รื้อฟื้นความทรงจำในอดีตให้กลับคืนมา อย่างเช่นรอยแผลที่หลังของซึงฮโย ย้ำเตือนให้เราได้รู้ว่า ซอกรยูเก่งในด้านการสร้างไว้มากมายแค่ไหน
บทซีรีส์เล่นกับการเล่าเรื่องหลายแบบดี หนึ่งในนั้น ก็คือ การเล่าจากสองมุมมอง ย้อนกลับไปในวัยเด็กเหมือนกัน คนหนึ่งเล่าอย่างหนึ่ง อีกคนหนึ่งก็อีกอย่าง กลายเป็นสองมุมมองที่แตกต่าง แม้ความเป็นจริง ฝ่ายหนึ่งแค่จะสร้างข่าวปั่นอีกฝ่ายเท่านั้นเองก็ตาม
ในซีรีส์เรื่องนี้ เขาจะเล่าสลับกันไปมา โดยใช้แกนเป็นเรื่องในช่วงเวลาปัจจุบัน แล้วสลับไปเล่าความสัมพันธ์ของพวกเขาในวัยเด็กมั่ง วัยมัธยมมั่ง ทำให้เราได้เห็นว่า พวกเขาเคยผ่านประสบการณ์อะไรร่วมกันมาบ้าง ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เราได้เข้าใจและอินในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่นั่นเอง
แม้หน้าหนังมันจะดูเป็นซีรีส์รอมคอมที่คล้ายจะเล่นกับเรื่องความรักของคนข้างบ้านที่โตมาด้วยกันก็ตาม แต่ในความเป็นจริง แต่ละตอนของซีรีส์ก็ใส่ประเด็นชีวิตที่ค่อนข้างซีเรียสเข้าไปด้วย
อ่านเพิ่มเติม: รวมซีรีส์เกาหลีแนวรอมคอม ขำปอดโยก ดูรักของเขา แต่เราอารมณ์ดี!
เริ่มต้น ชีวิตการงานของซอกรยูและซึงฮโยที่แตกต่างกัน คนหนึ่งเกิดมาในครอบครัวที่ยากลำบาก แต่ได้ทุนไปเรียนและทำงานเติบโตอยู่ในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เมืองนอกเมืองนา เกือบจะได้แต่งงานที่นั่น แต่กลับเลือกล้มเลิกงานแต่งและลาออกเพื่อกลับมา พร้อมกับบอกว่า “หนูอยากเป็นคนว่างงานที่มีความสุข” อีกคนก็เพิ่งลาออกจากบริษัทเก่ามาตั้งไข่สร้างบริษัทเล็กๆ ของตนเอง แต่เขาเติบโตในครอบครัวที่ร่ำรวยและมีพริวิเลจ เท่านี้ ก็มีประเด็นมากมายให้เล่ากันได้แล้ว เพื่อนต่างเพศที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก ฐานะต่าง ครอบครัวก็ต่าง และกำลังเจอกับปัญหาที่แตกต่างกัน
คนเขียนบทค่อยๆ บอกให้รู้ถึงเหตุผลเบื้องหลังของชีวิตที่หักเหของซอกรยู คนที่เคยเป็นทั้งนักเรียนต้นแบบ ผู้มีบุคลิกหิวชัยชนะ เก่งรอบด้าน ยึดติดกับความสำเร็จ และหิวเกียรติ จากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยตัวคนเดียวที่เมืองนอก เธอต้องบากหน้ากลับบ้านเกิดเพราะเรื่องบางอย่าง แถมมันยังกลับมาหลอกหลอนเธออีกคำรบหนึ่งด้วย ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ก็ทำให้แม่ต้องอับอายและรู้สึกน้อยหน้าเพื่อนๆ ทั้งยังกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน ด้วยฐานะที่จนกว่าเขา จนต้องยอมที่จะอดหลับอดนอนและอดอยาก ฝากความหวังทุกอย่างไว้กับความรุ่งเรืองของลูกสาว
ถึงจะชอบค่อนขอดกันเองว่า อดีตของเขาทั้งสองเป็นยุคมืด แต่ซึงฮโยกลับกลายเป็นเซฟโซนเดียวของเธอ แม้ว่าจะมีวันเก่า ๆ ที่แสนมืดมน แต่ประสบการณ์ทั้งดีและร้ายที่เคยผ่านมาด้วยกัน มันก็ทำให้คนสองคนสามารถจะต่อกันติดได้ง่าย แถมเข้าใจหัวอกของกันและกันได้ง่ายกว่าด้วย
คนดูเลยได้มองเห็นว่า ถึงแม้จะเป็นซีรีส์รอมคอม แต่ก็มันก็ชุบชูใจคนดูที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต แม้เกิดมาบ้านจน เจอเรื่องบั่นทอนใจทั้งในที่ทำงานและความรัก แต่ก็ยังได้มีที่พักพิง ได้มองเห็นว่า ชีวิตนี้ยังมีคนที่เข้าใจ และพร้อมจะช่วยเหลือผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน คุณไม่ได้โชคร้ายขนาดนั้น ว่างั้นเถอะ
แต่ละตอน เล่นประเด็นจริงจังที่กระทบจิตใจ
อาจดูเหมือนความสัมพันธ์ของซอกรยูและซึงฮโยออกไปในทางเป็นไม้เบื่อไม้เมา แต่พอเวลาผ่านไป เราก็จะยิ่งได้รู้ว่า มันคือความสัมพันธ์แบบ “เพื่อนรัก-รักเพื่อน” นั่นเอง เพื่อนต่างเพศที่โตมาด้วยกัน ลูกของเพื่อนแม่ที่บ้านอยู่ติดกัน เรียนมาด้วยกัน คิดว่าจะมีสักคนที่แอบชอบอีกฝ่ายหนึ่งปะล่ะ
นอกจากจะเล่นประเด็นของคนจนที่ว่างงาน คนรวยที่สร้างบริษัทใหม่แล้ว ก็ยังบอกเล่าไปได้อีกว่า ถึงแม้จะเกิดมามีฐานะแต่ก็ไม่ใช่ว่าชีวิตนี้จะไม่เคยผ่านความเจ็บปวดที่ต้องก้าวผ่าน ชอบที่บทมันตั้งคำถามใส่ตัวละครว่า ถ้าย้อนอดีตกลับไปได้ เขาจะยังทำอะไรแบบเดิมมั้ย ซึ่งก็ทำให้คนดูได้นั่งถามตัวเองไปพร้อมกันด้วยเช่นกัน
มันเล่าถึงคาแรกเตอร์ของตัวละครที่อาจพบได้ในตัวเราหรือคนใกล้ตัว อย่างเช่น เล่าถึง ซึงฮโย ที่เป็นเจ้าของกิจการที่เชื่อมั่นในอุดมการณ์ แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องเลือกทำบางอย่างที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์เพื่อความอยู่รอดขององค์กรและเพื่อให้พนักงานได้อยู่ดีมีสุข อีกด้านหนึ่ง การทำธุรกิจก็ต้องเจอเรื่องปวดหัวต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบที่คำนึงถึงผู้คนมากกว่าผลกำไร บางทีมันไม่ไปด้วยกันกับธุรกิจ, การลอกเลียนงานคนอื่น, การโดนลูกค้าเบี้ยวไม่จ่ายค่าออกแบบ จนต้องเลื่อนโปรเจกต์, เงินเข้าไม่พอจ่ายหนี้ที่กู้ยืมมาสร้างออฟฟิศ, ถูกผู้จ้างเล่นแง่ หลอกให้ออกแบบแต่ที่จริงล็อกเป้าที่อื่นเอาไว้แล้ว อะไรพวกนี้เป็นต้น
ในด้านที่ไม่ใช่เรื่องงานของซึงฮโย ก็ยังมีด้านที่เรียกว่าความฝัน ความฝันที่อยากจะเป็นนักว่ายน้ำทีมชาตินั้นเกือบจะสำเร็จแล้ว แต่สุดท้าย มันก็ถูกพรากจากเขาไป จนต้องหยุดพักเพื่อให้จิตใจได้ฟื้นฟู ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในอีกความฝันนึง บทมันตั้งคำถามกับเราในพาร์ทของซอกรยู ว่างานที่เราทำอยู่มันเป็นงานในฝันมั้ย ถ้าไม่ใช่ งานในฝันของเราคืออะไร การหมดไฟในงานที่ทำอยู่อาจผลักดันให้ลาออก แต่จะอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ปะ?
หรืออย่างตัวรอง ซีรีส์ก็เล่าถึงนักข่าวผู้อารี ที่อุทิศตนช่วยยายเข็นรถขายของเก่า ช่วยลงมาบอกเจ้าของรถคันอื่นบนท้องถนนให้ช่วยหลีกทางให้รถฉุกเฉิน เป็นตัวแทนของคนที่ทำอะไรเพื่อผู้อื่นจากก้นบึ้งของจิตใจเลยละครับ
นอกจากนี้ มันก็ยังเล่าชีวิตส่วนตัวที่แตกต่างกันในแต่ละตัวละคร โดยเฉพาะ ครอบครัวของซึงฮโยที่อาจฐานะดีกว่าซอกรยูก็จริง แต่บ้านของเขาไร้ความอบอุ่น มีแม่ผู้เป็นนักการทูตที่ค่อนข้างเข้มงวดเจ้ากี้เจ้าการ กับพ่อที่เป็นนายแพทย์ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับงาน แต่ทั้งสองห่างเหินกันเหลือเกิน ซึ่งต่างจากซอกรยูที่ถึงแม้จะมีฐานะไม่ดีนัก แต่พ่อกับแม่ที่ช่วยกันทำร้านอาหารก็มีเวลาให้กับลูกได้มากกว่า
โดยรวมแล้ว มันจึงเป็นทั้งซีรีส์รอมคอมที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน เล่าถึงมิตรภาพที่ยาวนานและมีความรักเข้ามาแทรกแซง อีกทั้งยังเป็นซีรีส์ที่เล่าถึงการเรียนรู้และเข้าใจชีวิตไปพร้อมๆ กันด้วย ไม่เลวเลยนะตะเอง!
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Love Next Door / รักอยู่ประตูถัดไป / 엄마친구아들 |
ผู้กำกับ | Yoo Je Won/ยูเจวอน (เจ้าของผลงาน ‘Crash Course in Romance’ และ ‘Hometown Cha-Cha-Cha’) |
ผู้เขียนบท | Shin Ha Eun/ชินฮาอึน (เจ้าของผลงาน ‘Hometown Cha-Cha-Cha’ และ ‘The Crowned Clown’) |
นักแสดง | Jung Hae In, Jung So Min, Kim Ji Eun, Yun Ji On |
แนว/ประเภท | โรแมนติก, คอมเมดี้ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 16 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 17 สิงหาคม 2024 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | tvN, Netflix |