ในช่วงที่ผ่าน ดูเหมือนจะมีซีรีส์เกาหลีอยู่เรื่องหนึ่งที่เป็น Hotstar Originals เรื่องแรกๆ และกลายเป็นที่พูดถึงด้วยเนื้อหาในเรื่องที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์การเมืองในเกาหลีใต้จนน่าเป็นห่วงว่าอาจจะถูกแบนไม่ให้ฉายต่อ แต่ก็ดูเหมือนกระแสเหล่านั้นจะเริ่มเบาบางลงประมาณหนึ่ง หลังจากออนแอร์ไปได้สองตอน ก็มีข่าวว่าจะจัด ‘Snowdrop’ มาให้ชมกัน 3 ตอนในสัปดาห์เดียว หลังจดๆ จ้องๆ อยู่ ก็เลยคิดว่าได้เวลาที่จะเริ่มต้นดูเสียที
ซีรีส์เกาหลีที่บอกเล่าเรื่องราวความรักของนักศึกษาสาวกับสายลับเกาหลีเหนือเรื่องนี้ ใช้ชื่อดอกไม้เป็นชื่อเรื่อง ดอกหยาดหิมะนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา หลังผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวอันยาวนาน น่าจะมีความหมายที่สื่อถึงพระนางในเรื่องที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ นานาท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศ
แต่จะลงเอยเป็นความสุขในตอนท้ายหรือไม่คงต้องมาติดตามกัน
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Snowdrop’
ย้อนกลับไปในปี 1987 ช่วงที่เกาหลีใต้ถูกปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการ อิมซูโฮ (Jung Hae In/จองแฮอิน จากซีรีส์เรื่อง ‘D.P.’, ‘One Spring Night’ และ ‘Something in the Rain’) เป็นนักศึกษาปริญญาผู้ที่ได้ร่วมในนัดบอดกลุ่มกับนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยโฮซู หนึ่งในนั้น คือ อึนยองโร (Kim Ji Soo/คิมจีซู หรือ จีซู BLACKPINK จากซีรีส์เรื่อง ‘Arthdal Chronicles’ และ ‘The Producers’) หญิงสาวที่พักอยู่ในห้อง 207 ของหอพักมหาวิทยาลัย เพียงพบกันครั้งแรก ยองโรก็ตกหลุมรักเขาในทันที
แต่แล้วอีกวัน ยองโรกลับพบเขาในสภาพเลือดโชกและนอนสลบไสลอยู่ในห้องพักของเธอเอง ยองโรให้ที่หลบซ่อนและรักษาบาดแผลโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่า เขาคือสายลับชาวเกาหลีเหนือ ไม่ใช่นักศึกษาที่ทำการประท้วง
ในหอพักแห่งนี้ มีพีซึงฮี (Yoon Se Ah/ยุนเซอา จากซีรีส์ ‘Stranger’) เป็นผู้อำนวยการที่ค่อนข้างเข้มงวดแต่ก็มีความหลังเกี่ยวกับนักศึกษาที่ก่อเหตุประท้วง และบุนอ๊ก (Kim Hye Yoon/คิมฮเยยุน จากซีรีส์เรื่อง ‘Secret Royal Inspector & Joy’ และ ‘Extraordinary You’) ผู้ช่วยของซึงฮีที่มีเบื้องหลังยากลำบากจนเรียนไม่จบ เธอจึงมักขโมยของนักศึกษาไปใช้ส่วนตัวเป็นประจำ มีความสนิทสนมกับยองโรเป็นพิเศษ และยังขอไปร่วมนัดบอดกลุ่มกับยองโรด้วย
อีกด้าน ซูโฮก็กำลังอยู่ท่ามกลางการตามล่าตัวของหน่วยวางแผนความมั่นคงแห่งชาติ (NST-National Security Planning) ที่มี อีคังมู (Jang Seung Jo/จางซึงโจ จากซีรีส์ ‘Familiar Wife’ และ ‘Encounter’) เป็นหัวหน้าทีมผู้ไม่เคยประนีประนอมไม่ในสถานการณ์ใด ที่จู่ๆ ก็พบว่า จางฮันนา (Jung Eugene/จองยูจีน จากซีรีส์ ‘Romance is a Bonus Book’ และ ‘Something in the Rain’ ) แฟนเก่าที่เคยเป็นนักข่าวมาร่วมก๊วนด้วย
แถมงานนี้ ยังมีเรื่องทางการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย อยากรู้เหมือนกันว่า ความรักระหว่างนักศึกษาหญิงกับสายลับเกาหลีเหนือนี่จะลำบากลำบนโลดโผนยังไง
รีวิวซีรีส์ ‘Snowdrop’
เหมือนกับเป็นโลกใหม่ๆ ที่ผมเองยังไม่เคยเห็น เมื่อผู้เขียนบทเลือกจะให้พระเอกเป็นสายลับเกาหลีเหนือ ที่ต้องมาพบรักกับสาวนักศึกษาเกาหลีใต้ รักข้ามชาติที่ต่างคนต่างอยู่ในประเทศที่เบื้องหน้าไม่ค่อยถูกกัน แต่กลับปรากฏว่าเบื้องลึกเบื้องหลังนั้น มีความสัมพันธ์ลับบางอย่าง และมันบังเอิญมาเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศเกาหลีใต้ยังอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการ
เรื่องราวความรักท่ามกลางความขัดแย้งและการเมือง
มีบางคนที่มุ่งหมายจะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี และใช้เงินเพื่อสร้างสถานการณ์บางอย่างขึ้นมาเพื่อรับรองว่าฝ่ายตนจะได้รับชัยชนะ ซึ่งเรื่องเหล่านั้นมันเกี่ยวพันกับคนบางคนในเกาหลีเหนือ และเกี่ยวเนื่องกับสายลับที่ถูกส่งเข้ามาในเกาหลีใต้ และสายลับระดับหัวหน้าคนนั้นก็คือ อิมซูโฮ คนที่ถูกไล่ยิงบาดเจ็บจนต้องมาหลบซ่อนตัวในหอพักสตรีของมหาวิทยาลัยนั่นแล
ความรักแบบแรกพบที่เกิดขึ้นในใจของยองโร นักศึกษาสาวผู้เต็มไปด้วยความหวังและมองโลกในแง่บวก จะเติบโตได้อย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายเป็นสายลับชาวเกาหลีเหนือ ผู้กำลังถูกตามล่าตัวจากหน่วยความมั่นคงที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง ผอ.หน่วยนี้คือพ่อของยองโร เขาต้องการส่งตัวสายลับกลับประเทศอย่างปลอดภัยด้วยเพราะเหตุทางผลประโยชน์ แต่อีคังมู ลูกน้องของเขานี่สิ คอยจะแหกคำสั่งตลอดเวลา
ใครจะรู้ว่าหลังจากนี้จะมีอะไรให้รักครั้งนี้ต้องยุ่งเหยิงวุ่นวายเข้าไปอีก
ดาราคับคั่ง เดินสวนกันเต็มเรื่อง
เอาแค่ในหอพักหญิงของมหาวิทยาลัยโฮซูก็หลายคนแล้ว นอกจาก ผอ. หอพักและผู้ชายที่กล่าวถึงไปแล้ว ก็ยังมีรูมเมททั้งสามของยองโรอีก ไล่ไปตั้งแต่ ยอจองมิน (Kim Mi Soo/คิมมีซู จากซีรีส์ ‘Hellbound’) รุ่นพี่ปีสองคนนี้จะนิ่งๆ และน่าจะเป็นนักศึกษาที่เข้าร่วมประท้วง, โกฮเยรยอง (Jung Sin Hye/จองซินฮเย) สาวสวยรุ่นพี่ปีสองอีกคนที่มักทำตัวเป็นจุดเด่น และยุนซอลฮี (Choi Hee Jin/ชเวฮีจิน จากซีรีส์ ‘Hide and Seek’) สาวตระกูลร่ำรวยที่วุ่นวายอยู่กับหนุ่มนักศึกษาต่างสถาบันอย่าง โอกวังแท (Huh Nam Jun)
แล้วก็ยังมีบางคนที่คุ้นหน้า ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้านักศึกษาหอพออย่าง ชินคยองจา (Jung Yi Seo/จองยีซอ จากซีรีส์ ‘Mine’, ‘Tale of the Nine Tailed’ และพนักงานพิซซ่าในหนัง ‘Parasite’) สาวเรียนเก่งประสาทหูไวที่ชอบละเมอตอนดึก หรือลุงภารโรง (Kim Jong Soo/คิมจงซู จากซีรีส์ ‘Vagabond’ และ ‘Kingdom’)
สำหรับยองโรนั้น เธอสูญเสียแม่ไป และพ่อของเธอ อึนชางซู (Heo Jun Ho/ฮอจุนโฮ จากซีรีส์ ‘Kingdom’ และหนัง ‘Escape from Mogadishu’) ผอ.หน่วยวางแผนความมั่นคงก็มีภรรยาใหม่ ทำให้เธอเลือกออกมาอยู่หอพักแทนที่จะอยู่บ้าน ชางซูเองก็ทำงานอยู่กับเลขาฯ นัมแทอิล (Park Sung Woong/พัคซองอุง จากซีรีส์ ‘Rugal’) ที่มุ่งหมายต้องการเป็นประธานาธิบดี สองคนนี้ค่อนข้างเห็นขัดแย้งกันอยู่บ่อยๆ แถมเลขานัมก็คบชู้อยู่กับหมอคัง (Yoo In Na/ยูอินอา จากซีรีส์ ‘Touch Your Heart’ และ ‘Goblin’) ที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่เรายังไม่รู้
ทีมแม่บ้านในเรื่องนี้ก็จะมีอยู่หลายคน แต่ที่จดจำบทบาทได้มากที่สุด ก็เห็นจะเป็นชเวมีฮเย (Baek Ji Won/แพคจีวอน จากซีรีส์ ‘Racket Boys’ และ ‘Mad For Each Other’) ที่เป็นภรรยาของ อันคยองฮี (Lee Hwa Ryong/อีฮวารยอง) ลูกน้องของอึนชางซู
เอาแค่นี้ก็เรียกได้ว่า นับและจำกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วล่ะครับ
สิ่งที่เห็นและสิ่งที่ได้จากซีรีส์ ‘สโนว์ดร็อป’
เอาเข้าจริง ผมก็ไม่ได้เป็นพวกที่ศึกษาเรื่องการเมืองในเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด จึงไม่ได้ล่วงรู้อะไรลึกซึ้งหรือละเอียดมากมาย บางจุดในซีรีส์ก็อาจจะผ่านเลยไปเพราะไม่อินไม่เข้าใจมันมากพอ แต่พอเรื่องมันเดินไปมากขึ้น ก็เริ่มจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรมากขึ้นตามจำนวนตอน อย่างไรก็ดี ผมยังคงอินในพาร์ทของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครพระ-นางมากกว่าพาร์ทการเมือง
ยองโรรู้สึกหลงรักซูโฮตั้งแต่แรกเห็น ทว่าซูโฮนั้น อาจจะเริ่มค่อยๆ รู้สึกตัวผ่านความใกล้ชิด หากการพบเจอกันครั้งต่อมาของคนทั้งสองก็กลับเป็นความสัมพันธ์ที่แตกต่างไป เมื่อส่วนหนึ่ง เขากลายเป็นสายลับเกาหลีเหนือสำหรับเธอ แต่อีกส่วน เขาคือชายที่มีความรู้สึกพิเศษให้กับเธอ
มันคงเป็นสิ่งที่คานอำนาจกันในใจและยากจะจัดการให้ลงตัว
ตามธรรมดาของซีรีส์ที่มักเดินเรื่องไม่รวดเร็วเท่าของฝรั่ง บางครั้งก็ใช้เวลานานกว่าที่เป็นจริงจนทำให้ไม่ทันใจ [เอาจริง ก็เป็นกันเกือบทุกเรื่องแหละ] แต่เรื่องนี้มันจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกหลงลืมไป ที่ทำให้บทซีรีส์ดูมีอะไรให้ ‘เอ๊ะ’ อยู่เป็นระยะ กระนั้น มันก็มีสิ่งดีแทรกซึมอยู่หลายอย่าง
หนึ่งก็คงเป็นเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละคร เพราะความย้อนยุคไปยังปี 1987 ทีมงานก็ต้องจัดทั้งตึกราม รถรา ข้าวของเครื่องใช้ เพลง ไปจนถึงเสื้อผ้าหน้าผมให้กลมกลืนกับยุคสมัย เราจะเห็นชุดสวยๆ ในเกาหลียุคนั้น โดยเฉพาะชุดของจีซู ที่ผมพบว่าสวยดี นอกจากนี้ ก็ยังได้ซีนที่ชวนรู้สึกแปลกตาอย่างฉากเต้นรำ และแม้จะขึ้นว่าเป็นซีรีส์แนวดราม่าโรแมนติก แต่ก็พบเห็นฉากดวลปืนได้บ่อยครั้งตามประสาหนังที่มีสายลับ
เท่าที่เห็น ก็พบว่าจีซูเล่นไว้ได้ค่อนข้างดี ด้วยเค้าโครงหน้าและดวงตาที่ดีอยู่แล้ว ย่อมทำให้คนดูตกหลุมรักเธอไม่ได้ยาก แต่ทั้งแววตาและน้ำเสียง ทั้งบทที่ต้องร้องไห้ ถือว่าน้องเขาทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว แม้จะขัดใจเรื่องบทที่ตกหล่นบางเรื่องไปบ้าง
แต่ก็จัดได้ว่าเป็นซีรีส์ที่น่าติดตามอยู่
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Snowdrop / 설강화: snowdrop |
ผู้กำกับ | Jo Hyun Tak/โจฮยอนแท็ก (เจ้าของผลงาน SKY Castle) |
ผู้เขียนบท | Yoo Hyun Mi/ยูฮยอนมี (เจ้าของผลงาน SKY Castle, Bridal Mask) |
นักแสดง | Jung Hae In/จองแฮอิน, Kim Ji Soo/คิมจีซู, Yoon Se Ah/ยุนเซอา, Kim Hye Yoon/คิมฮเยยุน, Jang Seung Jo/จางซึงโจ, Jung Eugene/จองยูจีน |
แนว/ประเภท | Drama, Romance |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 16 ตอน |
ช่องทางรับชม | Disney+ Hotstar |
เริ่มออกอากาศ | 18 ธันวาคม 2021 – 5 กุมภาพันธ์ 2022 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | JTBC, Disney+ |
สโนว์ดร็อป
บทและพล็อต - 7
การดำเนินเรื่อง - 8.1
การแสดง - 7.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.3
โปรดักชั่นและงานภาพ - 7.7
7.6
Snowdrop
ซีรีส์เกาหลีทางดิสนีย์พลัสที่เล่าเรื่องปี 1987 ที่เกาหลียังมีเผด็จการ ความรักของสาวนักศึกษปีหนึ่งที่กับหนุ่มสายลับเกาหลีเหนือ เนื้อหาที่เล่าถึงเหตุการณ์ช่วงนั้นอยู่บ้าง มีทั้งฉากต่อสู้กันดุเดือด สลับกันไปกับความรักอันอบอุ่นและแสนรันทดระหว่างหญิงชายที่อยู่กันคนละชาติและไม่น่าจะรักกันได้ จีซูเล่นได้ดี เดินเรื่องได้น่าติดตามพอสมควร