ในโลกแห่งความจริง การสลับตัวฝาแฝดอาจเกิดขึ้นเพื่อความสนุก อยากลองดูว่าจะมีคนจับได้หรือไม่ว่าอีกคนปลอมตัวมา แต่ก็อาจจะมีบ้างแหละที่สลับและปลอมตัวเพื่อจุดประสงค์ที่จริงจังกว่า เพียงแต่เหตุการณ์ในซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้มันจริงจังยิ่งกว่านั้นเข้าไปอีก ‘Our Unwritten Seoul’ หรือชื่อไทย ‘เขียนชีวิตใหม่ในกรุงโซล’ เรื่องราวของฝาแฝดสาวที่สลับตัวกันเพราะคนหนึ่งโดนบูลลี่ในที่ทำงาน
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้?
เรื่องของสองสาวที่เกิดมาเป็นคู่แฝด หน้าตาเหมือนกันแต่กลับมีชีวิตที่แตกต่างกันมากมาย เมื่อคนหนึ่งจิตตกและหมดไฟในชีวิตพนักงานออฟฟิศ จึงตกลงสลับตัวกัน แต่อีกคนต้องมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดและทำงานในไร่สตรอว์เบอร์รี่ เป็นซีรีส์แนวดราม่าที่สะท้อนชีวิตจริง โลกของพนักงานออฟฟิศที่เจอแต่เรื่องบั่นทอนใจ โลกของคนเก็บซ่อนบาดแผลแต่แสดงออกว่าเข้มแข็งแค่ไหน
ต่างได้เรียนรู้ชีวิตอีกแบบ ได้เจอทั้งคนใหม่และคนเก่า ได้เรียนรู้ที่จะรู้จักตนเอง และก้าวเดินต่ออย่างคนที่ตกตะกอนแล้ว
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Our Unwritten Seoul’
ในโลกของซีรีส์ ‘เขียนชีวิตใหม่ในกรุงโซล’ มันเล่าถึงคู่แฝดคู่หนึ่งที่ตอนแรกก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย แต่พอยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งแตกต่างกัน แฝดน้อง ยูมีจี (พัคโบยอง จากซีรีส์ ‘Daily Dose of Sunshine’) ผู้เลือกจะไว้ผมสั้น ย้อมหัวทอง แม้หัวไม่ค่อยดีแต่เธอแข็งแรงจนเกือบจะได้เป็นนักวิ่งทีมชาติ
ตอนนี้เธอทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงพยาบาล มีอีกงานคือเป็นผู้ช่วยของคยองกู (มุนดงฮยอก จากซีรีส์ ‘See You in My 19th Life’) ชายผู้มีข่าวลือว่าเขาคือแฟนเก่าของเธอ และกำลังได้งานใหม่เงินดีอย่างการเป็นลูกจ้างทำงานในฟาร์มฉางฮวาอีกด้วย
ส่วนแฝดพี่ ยูมีแร (พัคโบยอง จากหนัง ‘Concrete Utopia’) เธอโตมาร่างกายอ่อนแอแต่หัวดี จบจากมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง และตอนนี้ เธอก็ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของบริษัทที่รัฐบาลเป็นเจ้าของในกรุงโซล แต่สภาพการทำงานของที่นั่นทำเธอจิตตกอย่างมาก
ในที่สุด แฝดทั้งสองจึงความคิดสลับตัวกัน โดยมีจีจะปลอมเป็นมีแรไปทำงานออฟฟิศในกรุงโซลที่แสนท็อกซิกให้ และให้มีแรปลอมเป็นมีจีไปใช้ชีวิตอยู่บ้านเกิดแทน
ซึ่งนั่นก็ทำให้ มีจีได้พบกับรักแรกของตนเองอย่าง อีโฮซู (จินยอง จากซีรีส์ ‘Chicken Nugget’) อีกครั้ง เขาเป็นทนายความฝึกหัดในสำนักกฎหมายยักษ์ใหญ่ที่เก่งในด้านอ่านปากคนอย่างมาก แต่ก็เป็นคนที่เชื่อมั่นในความถูกต้องมากเช่นกัน ด้านมีแรที่ปลอมเป็นมีจีและกลับบ้านเกิด ก็ได้ไปเป็นลูกจ้างไร่สตรอว์เบอรี่ของ ฮันเซจิน (รยูคยองซู จากซีรีส์ ‘Tale of the Nine Tailed 1938’) หลานของคุณปู่ที่มารับช่วงต่อ
รีวิวซีรีส์ ‘เขียนชีวิตใหม่ในกรุงโซล’
ความสนใจแรกเมื่อได้ยินข่าวของซีรีส์เรื่องนี้ คือการมีนักแสดงนำเป็นพัคโบยอง สองคือพล็อตของเรื่องที่เล่าว่า ฝาแฝดที่ใช้ชีวิตต่างกันต้องมาสลับตัวกัน และเมื่อมันถึงเวลาสตรีมในเน็ตฟลิกซ์ นายแพทจึงไม่รีรอที่จะเปิดเข้าไปดู
คู่แฝดที่ “เหมือน” แต่ “ไม่เหมือน”
เอาแค่ชื่อก็ไม่ค่อยดีละ “มีแร” แปลว่า อนาคต ส่วน “มีจี” แปลว่า ยังไม่รู้ ฟังดูลำเอียง แต่ก็นั่นล่ะ คนเขียนบทคงอยากจะให้มันเป็นดราม่าเลยจงใจให้เป็นแบบนี้ สิ่งที่น่าเศร้าอีกอย่างคือ แม่ก็ดันแยกพวกเธอไม่ออก คนที่แยกออกคือคุณพ่อที่ก็ล่วงลับไปแล้ว เหลือแต่คุณยายที่เป็นคนโปรดของมีจีก็มาป่วยติดเตียงซะอีก
ทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่มีแค่ใบหน้าและรูปร่างที่เหมือนกัน แต่นอกนั้นไม่มีอะไรเหมือนกันเลย คนนึงแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย และเล่นกีฬาเก่ง ขณะที่อีกคนสุขภาพอ่อนแอ เกลียดยาขม แต่เรียนเก่ง ทั้งคู่จึงตกลงทำสัญญาลับด้วยการโกงไปเรื่อย สลับกันทำในสิ่งที่อีกฝ่ายทำได้ไม่ดี ทว่าในที่สุด เมื่อถูกจับได้ก็เลยโดนจับให้ไว้ผมต่างกัน
จนผ่านมาถึงวัยทำงาน การใช้ชีวิตของทั้งคู่จึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่บทมันก็บอกกับเราว่า ไม่ว่าจะใช้ชีวิตในแบบไหน ปัญหาก็ยังคงเข้ามาไม่หยุดหย่อนเหมือนกัน
“เมื่อวานจบไปแล้ว พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง วันนี้ยังไม่รู้ ดังนั้นก็ลุยไปเลย”
มีจีที่อยู่บ้านเกิด เธอเป็นสาววัยสามสิบที่ไม่มีความฝัน แค่ทำงานหาเงินไปวัน ๆ หลังเคยพบความภาคภูมิใจกับการเป็นนักวิ่ง ไม่ต้องตกเป็นขี้ปากของคนที่ชอบตัดสินเพราะมักถูกเอาไปเปรียบเทียบกับมีแร แต่หนทางนั้นก็ต้องสะดุดหยุดลงเมื่อประสบเหตุข้อเท้าพลิกจนไม่สามารถกลับไปวิ่งได้อีก ส่งผลให้ความมืดมนเข้ามาในชีวิตของเธอในทันที เมื่อคุณยายล้มเพราะเส้นเลือดในสมองแตก มีจีเลือกจะไม่เรียนต่อเพื่อดูแลคุณยายที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หลังได้เป็นพนักงานชั่วคราวทำความสะอาดในโรงเรียน และคอยช่วยงานคยองกูที่ใครๆ ต่างรับรู้ว่าเป็น “แฟนเก่า” มีจีก็ได้งานรายได้งามที่ไร่สตรอว์เบอร์รี่ของเซจิน
มาพูดถึงมีแรกันบ้าง ใครๆ อาจมองว่าเธอมีชีวิตที่ดีเพราะเธอได้งานทำในบริษัทบริหารการเงินเกาหลีที่กรุงโซล แต่ชีวิตพนักงานออฟฟิศนั่นแหละที่ทำเธอจิตตก เพื่อนร่วมงานไม่มีใครคบกับเธอ ถูกเจ้านายกลั่นแกล้งตลอดเวลา ถึงขนาดได้นั่งโต๊ะเครื่องถ่ายเอกสารที่แยกออกมาจากคนอื่น แถมไม่ค่อยได้งานจนนั่งเบื่อไปวันๆ เอาเข้าจริง อาจเป็นชีวิตที่ใครหลายคนกำลังเผชิญอยู่ จะลาออกก็ไม่ได้เพราะที่บ้านต้องพึ่งพา แม้ห่างเหินกันไปร่วมปี แต่คนที่เข้าใจได้มากที่สุดก็คือฝาแฝดของตนเอง
ด้วยเหตุที่มีจีเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อเธอได้รู้ความจริงของมีแร จึงไม่ลังเลที่จะสลับตัวกัน
ความรักที่ต้องค้นหา จนกว่าจะเจอคู่แท้ของกันและกัน
นอกเหนือ ‘เขียนชีวิตใหม่ในกรุงโซล’ จะเป็นเรื่องของคู่แฝดที่สลับตัวกันแล้ว มันก็ยังเป็นเรื่องชีวิตของรักคนทั้งคู่อีกด้วย และดูๆ ไปแล้ว มันไม่ได้เป็นแค่รักสามเส้า เพราะมันมากกว่านั้นเข้าไปอีกนะ เริ่มกันที่ มีจี เด็กสาวผมสั้นในวันเก่าที่เคยใกล้ชิดกับโฮซู เด็กหนุ่มบ้านตรงข้าม ลูกชายของรอง ผอ. คนที่ย้ายมาเรียนทีหลังในสภาพขาเป๋และมีปัญหาทางการได้ยินไปข้างนึง สองคนไม่ค่อยถูกกันในทีแรก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสถานการณ์แอบรัก แค่ความสัมพันธ์มันไม่ได้ไปต่อเพราะเรื่องบางอย่าง
นอกจากโฮซู มีจีก็ยังสนิทกับคยองกู เจ้าของคยองกูมาร์ท ร้านขายของชำร้านใหญ่ของเมือง นอกจากนี้ เมื่อเธอเข้ากรุงและสวมรอยเป็นมีแร เธอจึงได้เจอกับ แทอี (รับบทโดย Hong Sung Won นี่คืองานซีรีส์เรื่องแรกของเขา) นักวิเคราะห์หนุ่มรุ่นน้องในออฟฟิศที่คอยเป็นห่วงเธอ ลอบช่วยเหลือเธออยู่บ่อยๆ แล้วก็ยังมีเพื่อนหนุ่มที่เจอกันในงานเลี้ยงรุ่นและแสดงท่าทีว่าชอบเธอนั่นอีก กลายเป็นว่า มีจีเนี่ย เสน่ห์แรงไม่น้อยเลย
ด้านโฮซู เขามีแผลเป็นที่แขนและขาฝั่งซ้าย รวมทั้งประสาทหูที่มีปัญหาไปข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามปกปิดไม่ให้คนอื่นรู้ เมื่อเขาใกล้ชิดกับมีจี แม้จะสวมรอยเป็นมีแรจนพาเขาสับสนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ตะหงิดใจอยู่เรื่อยมา ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เจอบททดสอบ เมื่อมี พัคจียุน (รับบทโดย Yoo Yu Jin จากซีรีส์ ‘Dr. Romantic 3’) เพื่อนสมัยเรียนของทั้งคู่โผล่มา เธอเป็นพนักงานสัญญาจ้างที่ทำหน้าที่โปรโมตร้านอาหาร และท่าจะชื่นชอบโฮซูเอามากๆ
กลับมาที่มีแร ผู้สวมรอยเป็นมีจีและได้กลับมาอยู่กับแม่ ได้พักจากงานออฟฟิศที่พาจิตตก เธอเลยได้กลายเป็นลูกจ้างกึ่งผู้ร่วมหุ้นกับฮันเซจิน กูรูด้านอสังหาริมทรัพย์ผู้โด่งดังที่ผันตัวมาเกษตรกรมือใหม่ที่เคยเป็นกิจการแสนรักของคุณปู่ ในเวลาเดียวกัน เธอก็ต้องมาเกี่ยวข้องกับคยองกูที่สนิทกับมีจี ทั้งยังต้องรับมือกับโฮซูคนที่มีรักแรกเป็นมีจีอีก วุ่นวายพิลึกแหละเรื่องนี้
“ความรักไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ แต่คือการอยู่ทีมเดียวกัน แม้จะว่าเป็นทีมที่แพ้ก็ตาม”
โอบอุ้มทุกชีวิตที่ประสบปัญหา พาพวกเขาก้าวผ่านมันไปให้ได้
เรื่องราวในซีรีส์เกาหลีดราม่าเรื่องนี้ พูดถึงชีวิตที่ประสบปัญหาได้หลายสิ่งมากๆ ไม่ใช่แค่ซีรีส์ที่ทำให้เราได้เห็นการแสดงของ พัคโบยอง ที่ต้องเล่นเป็น 4 ตัวละครด้วยกัน คือ มีจี และ มีแร คู่ฝาแฝดหน้าเหมือน แล้วก็ยังต้องเล่นเป็น มีจีที่ปลอมเป็นมีแร แล มีแรที่ปลอมเป็นมีจี อีก ซึ่งมันก็อาจทำให้คนดูอย่างเรามีปัญหาและสับสนระหว่างดูได้อยู่เหมือนกัน
บทซีรีส์เล่าทั้งเรื่องของหลายคาแรกเตอร์ที่ใช้ชีวิตต่างกัน แต่ต่างก็ต้องเจอะเจอกับปัญหาแม้จะคนละแบบกัน
คนหนึ่งทุ่มเทหนักมากกว่าได้เข้าบริษัทนี้ได้ แต่กลับเป็นทุกข์จนอยากจะลาออก เหตุเพราะชีวิตพนักงานออฟฟิศที่มีแต่เรื่องพาจิตตก ทั้งไร้เพื่อน ทั้งถูกเจ้านายล่วงละเมิด ถูกกลั่นแกล้ง และเจอกับเจ้านายที่คิดแต่จะเอาหน้า ส่งผลให้รู้สึก Burnout หมดไฟในการทำงาน โดดงานโดยไม่ลา เผชิญกับสาระพัดข่าวลือจนรู้สึกกลัวและไม่มีความสุข แต่เธอเป็นพวกขี้อดทน และเก็บงำทุกอย่างไว้กับตนเอง
ขณะอีกคน เติบโตมากับการตามหาจุดแข็งให้ตัวเองจนพบความสามารถทางกีฬา แต่ชีวิตก็หักเหหลังพบเจอเรื่องสะเทือนใจและอุบัติเหตุที่หยุดความหวัง กว่าจะทำใจให้กลับมาได้ก็กลายเป็นคนไร้ความฝัน ใช้ชีวิตไปวันวัน แสดงออกเหมือนคนยิ้มแย้มแจ่มใส ซ่อนบาดแผลลึกๆ ไว้ข้างใน
อีกสิ่งที่ซีรีส์มันทำให้เรารู้สึก คือ คนเรามักโดนตัดสินและเข้าใจผิดอยู่เสมอแหละ ดูอย่างโฮซูสิ แค่เคยประสบอุบัติเหตุจนมีปัญหาด้านการได้ยิน ก็ถูกมองว่าเป็นคนเมินเฉยต่อคนรอบข้างไปซะแล้ว ในด้านชีวิตการงานของซูโฮ เขาต้องเจอกับหัวหน้าที่นั่งรถเข็นผู้มองเห็นแต่ชัยชนะแม้จะได้มาด้วยการล้ำเส้น โฮซูเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองเลือกจะแยกตัวออกมา ก่อนจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้านายเก่าของตนเอง
เหมือนเรื่องราวทั้งหมดมันจะบอกว่า ไม่ว่าจะเลือกชีวิตแบบไหน สุดท้าย ปัญหาก็จะเดินมาหาเราอยู่ดี สิ่งสำคัญที่จะทำให้ก้าวข้ามผ่านมันไปได้ ก็คงเป็นการรู้จักตนเอง ต้องรับมืออย่างมีสติ รู้วิธีปกป้องหัวใจตัวเอง และลองเอาตัวเองไปอยู่ในสถานะเดียวกับคนอื่น เพื่อจะได้เข้าใจความคิดอีกแบบดู
นอกจากนี้ ก็ยังมีเนื้อหาที่ช่วยประคับประคองและให้กำลังใจทุกคนที่เจ็บปวดจนไม่กล้าจะก้าวออกไป บอกผู้คนให้เข้าใจบาดแผลฝังใจฉุดรั้งให้พวกเขายังจมอยู่กับจุดเดิม และบอกให้พวกเขาเอาชนะตัวเองและก้าวออกไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ ที่รออยู่
ถือเป็นซีรีส์น้ำดีอีกเรื่องนึงเลยแหละครับ แถมคนเขียนบทก็เก่งซะด้วย ปิดบังความจริงอยู่ได้ตั้งนานสองนาน กว่าจะเฉลยออกมาว่าเรื่องเป็นยังไง เลยได้ถึงบางอ้อว่า “อ๋อ เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง!”
“สตรอว์เบอร์รี่ที่เปรี้ยว ทำแยมได้อร่อยที่สุด!”
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Our Unwritten Seoul / เขียนชีวิตใหม่ในกรุงโซล / 미지의 서울 |
ผู้กำกับ | Park Shin Woo/พัคชินอู (เจ้าของผลงาน ‘When the Stars Gossip’ และ ‘Encounter‘) |
ผู้เขียนบท | Lee Kang/อีคัง |
นักแสดง | Park Bo Young, Jin Young, Ryu Kyung Soo, Yoo Yu Jin, Lee Jae In, Moon Dong Hyeok, Jang Young Nam |
แนว/ประเภท | ดราม่า |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 12 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 24 พฤษภาคม – 29 มิถุนายน 2025 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | tvN, Netflix |