รีวิวซีรีส์ Shadow and Bone ตำนานกรีชา | นักเขียนแผนที่ผู้มีพลังเรียกสุริยะ

ดูเหมือนชีวิตช่วงนี้จะขาดแคลนซีรีส์แฟนตาซีไม่ได้เลย เพราะความช่างคิดจินตนาการ หลายครั้งจึงชอบซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องเกินจริง ช่วงนี้ก็ดูเหมือนทางฝรั่งจะเริ่มหยิบนิยายอันโดดเด่นมาระบายให้เป็นเรื่องราวบนหน้าจอทีวีกันอีกครั้งแล้ว ‘Shadow and Bone’ หรือชื่อไทย ‘ตำนานกรีชา’ เรื่องราวของโลกที่ถูกแบ่งเป็นสองด้วยความดำมืด และผู้มีพลังวิเศษทั้งหลายพยายามหาทางกำจัดมันให้หมดสิ้น

ผลงานจากนักเขียน Leigh Bardugo ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็น The Grisha Trilogy และ Six of Crows Duology ที่ได้รับการดัดแปลงมาเป็นบทซีรีส์ที่ฉายทาง Netflix กับจักรวาล Grishaverse ที่มีทั้งความลึกลับมืดหม่นแต่แฟนตาซีเหนือจริง กับมนุษย์ที่มีพลังวิเศษ สัตว์ร้ายที่ออกอาละวาด และความรักของเอลินาผู้มีพลังเรียกสุริยะ

แค่ตัวอย่างก็เรียกความอยากดูให้บังเกิดขึ้นแล้วล่ะ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Shadow and Bone’

เหตุเกิดขึ้นในดินแดนแห่งหนึ่งที่ความมืดมนคือสถานที่ ที่นั่นมีแดนพยับเงาที่ความมืดมนอนธการตั้งตระหง่านขวางทางอยู่เบื้องหน้า ผู้คนพยายามข้ามไปอีกฝั่ง พวกเขาต่อเรือขึ้นมา และจำเป็นต้องมีกลุ่มคนผู้มีพลังวิเศษไปด้วย

คนเหล่านั้น เรียกว่า กรีชา

ครั้งนี้ มัล หรือ มัลเยน (Archie Renaux ผู้ที่กำลังจะมีหนัง ‘Morbius’ ตามมา) ได้รับบัญชาให้ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะพลแกะรอย ในภารกิจขนเสบียงข้ามแดน ทว่า เขาต้องพรากจากหญิงสาวที่เขารักมาเนิ่นนาน เธอคือ อาลีนา สตาร์คอฟ (Jessie Mei Li ผลงานก่อนหน้าของเธอมีเพียง ‘National Theatre Live: All About Eve’) เธอคือหญิงสาวกำพร้านักเขียนแผนที่ผู้มีสายเลือดซูฮัน แต่เพราะความชาญฉลาดของเธอ จึงได้รับหน้าที่บนเรือลำใหม่ เดินทางไปปร่วมกับมัล ผ่านดินแดนพยับเงาอันมืดมิดเป็นครั้งแรก และด้วยเหตุการณ์ภายในนั้นได้เปิดเผยพลังของเธอที่ซ่อนเร้นอยู่

แท้จริงแล้วเธอคือกรีชาผู้เรียกสุริยะ เป็นกรีชาทรงอำนาจที่ใครๆ ก็ต้องการตัว เมื่อสถานะของเธอถูกค้นพบ เธอจึงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป แต่ทว่า เธอกลับได้อยู่ในความคุ้มครองของคนๆ หนึ่ง เขาคือ นายพลคิริแกน (Ben Barnes เจ้าชายแคสเปียนในหนังเรื่อง ‘The Chronicles of Narnia: Prince Caspian’ และเป็น Billy Russo ในซีรีส์เรื่อง ‘The Punisher’) ผู้ควบคุมความมืด เขาดึงเธอไปอยู่ในวังหวังช่วยฝึกปรือเธอ ทั้งยังต้องการให้เธอเป็นคนที่ทำลายแดนพยับเงาให้สิ้นซาก

ในวันที่เธอยังไม่รู้วิธีควบคุมพลังของตนเอง เธอกลายเป็นความหวังของพระราชา ขณะที่รอบด้าน มีแต่ผู้ที่พยายามเข้าถึงตัวเธอด้วยเหตุผลต่างๆ นานาทั้งดีและร้าย และนี่คือ ซีซันแรกของ ‘ตำนานกรีชา’

รีวิวซีรีส์ ‘ตำนานกรีชา’

สำหรับผู้มาใหม่อย่างเรา การทำความเข้าใจในตอนแรกของซีรีส์อาจจะเป็นปัญหาอยู่นิดหน่อย เรื่องราวดำเนินไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ มีเพียงแต่เรานี่ก็ต้องหวนกลับมาทำความเข้าใจมันใหม่อีกครั้งเพื่อจะไม่ตกหล่นสิ่งที่ควรจะรู้เกี่ยวกับมัน

ดินแดนราฟกาที่ถูกความมืดมิดแบ่งแยกออกเป็นสอง

อาลีนา สตาร์คอฟ เป็นหญิงสาวที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก เธอเป็นลูกครึ่งชูฮัน หน้าตาจึงออกไปทางเอเชีย ซึ่งไม่เป็นที่ต้อนรับของคนราฟกาสักเท่าไหร่ ทั้งยังเลือกจะไม่รับการทดสอบ ความเป็นผู้มีพลังพิเศษที่ถูกเรียกว่า กรีชา จึงถูกปิดบังซ่อนเร้นไว้เรื่อยมา จนวันหนึ่งที่เธอต้องการข้ามแดนพยับเงาเพื่อไปยังดินแดนที่เธอไม่เคยพบนั่นแหละ พลังของเธอจึงถูกเปิดเผย

เริ่มต้นเรื่องนั้น เราก็เป็นเหมือนอาลีนา ที่ไม่ค่อยรู้อะไรมากนักเกี่ยวกับแดนพยับเงา

ดินแดนอันดำมืดที่ตั้งสูงตระหง่านและยืดยาวปิดกั้นไว้ทุกทาง เธอไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครกันที่สร้างมันขึ้นมา รู้เพียงว่า อีกด้านนั้นถูกเรียกว่า ราฟกาตะวันตก และภายในความมืดมิดนั้นมีสัตว์ร้ายคอยดักรออยู่ น้อยคนนักที่จะได้ข้ามไป และในครั้งนี้ พวกเขาก้าวไปพร้อมกองทหารกลุ่มใหญ่ และเหล่ากรีชาผู้มีพลังวิเศษทั้งหลาย

เธอเองก็เพียงหาหนทางติดตามไปเพราะมัลคนรักเป็นพลแกะรอยอยู่ในเรือใหญ่ลำนั้น เธอหารู้ไม่ว่าสิ่งที่หลับใหลอยู่ภายในจะเผยตัวออกมา กรีชาผู้เรียกแสงสุริยะได้นั้นเป็นทั้งความหวังแต่นำมาซึ่งอันตราย ศัตรูของพวกเขาหวาดกลัวเมื่อรู้ว่าเธอมีตัวตน คนทั้งโลกหมายตามล่า ทว่า อนาคตที่น่าหวาดหวั่นกำลังเยื้องกรายมาถึงเธอ

โดยที่อาลีนาไม่เคยรู้ตัวมาก่อน เฉกเช่นเดียวคนดูอย่างเราๆ

หลายตัวละครที่ร่วมรุมทึ้งราชินีสุริยะ

ในวันที่เธอเดินทางไปถึงราฟกาตะวันตก เธอถูกเชิญแกมบังคับให้ไปอยู่ในรั้วในวังและอยู่ในความดูแลของนายพลคิริแกน เจ้าแห่งความมืด ที่พยายามจะทำให้เธอควบคุมพลังได้ ช่วงเวลานั้น อาลีนาต้องห่างไกลจากมัลผู้ที่พยายามทุกวิถีทางที่จะได้กลับไปพบเจอกับเธออีกครั้ง

แต่ในระหว่างนั้น ข่าวคราวของผู้เรียกสุริยะขจรขจายไปทั่ว นำมาซึ่งการแย่งกันเข้าถึงและชิงตัวอาลีนา โดยเฉพาะ คาซ เบรคเกอร์ (Freddy Carter จากซีรีส์เรื่อง ‘Pennyworth’ และ ‘Free Rein’) ที่รวมทีมเข้ากับ อิเนซ (Amita Suman จากซีรีส์เรื่อง ‘The Outpost’ และ ‘Doctor Who’) หญิงสาวผู้ช่ำชองด้านใช้มีดและการเคลื่อนไหว แจสเปอร์ (Kit Young) หนุ่มนักแม่นปืนที่ชมชอบการพนันเสียเหลือเกิน แล้วก็ยังมี อาร์เคน (Howard Charles) หนุ่มร่างท้วมที่ทำอะไรให้ทึ่งๆ ได้หลายอย่าง

ในด้านผู้มีพลังวิเศษ ยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่มีทั้งดีกับเธอและทั้งไม่ค่อยถูกกับเธอ ไม่ว่าจะเป็น บากรา (Zoë Wanamaker) หญิงผู้เป็นอาจารย์สอนการควบคุมพลังแก่เธอ โซยา (Sujaya Dasgupta) ผู้เรียกวายุที่ไม่ค่อยจะถูกชะตากับเธอ นีน่า (Danielle Galligan) สาวมีพลังแห่งเสน่หาที่มาไม่ถึงมือนายพล และ เจนยา (Daisy Head) สาวนักตกแต่งที่ดูเป็นมิตรกับอาลีน่าอย่างมาก

นอกเหนือจากนี้ การเป็นกรีชาก็เหมือนการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษย่อมจะมีคนเกลียดชัง ในซีรีส์เรื่องนี้ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเช่นกันที่เกลียดชังคนที่เป็นกรีชา พวกเขาจึงตามล่าตัว กรีชาเองก็ต้องเอาตัวรอดจากคนพวกนี้เช่นกัน

ความสนุกของซีรีส์ตำนานกรีชาอยู่ตรงไหน?

ผลงานนิยายขายดีของนักเรียนชาวอิสราเอล-อเมริกันที่ชื่อ Leigh Bardugo พาความแปลกใหม่ให้กับการรับชมซีรีส์แนวแฟนตาซีของนายแพทพอสมควรเลย อย่างหนึ่งก็คือ มันได้เล่าเรื่องที่เกิดในดินแดนแถบรัสเซีย ไม่พอ นางเอกของเรื่องยังเป็นลูกครึ่ง ทำให้เธอถูกมองว่าเป็นคนเลือดผสม ครึ่งหนึ่งนั้นน่าจะหมายถึงจีน (แต่จะเป็นจีนแถบไหนนี่อีกเรื่องหนึ่ง) เป็นอะไรที่ใหม่อยู่ไม่น้อย

แถมตัวละครแต่ละตัวก็มีใบหน้าที่แสดงถึงเชื้อชาติที่หลากหลาย อย่างอีเนซ ผิวเข้มหน้าคมแบบคนแขก ก็เลือกเอา Amita Suman ซึ่งเป็นนักแสดงชาวเนปาลเข้ามา อะไรแบบนี้เป็นต้น

สิ่งที่อาจจะทำให้ยากในการติดตามก็อาจจะมีบ้าง ตรงที่เราได้เห็นแผนที่ของดินแดนราฟกาและข้างเคียงเพียงในตอนแรกเท่านั้น (ซึ่งก็เป็นภาษาอะไรที่เราอ่านไม่ออก) แต่ต่อมา เมื่อตัวละครเดินทางไปมา เราได้ยินเพียงชื่อสถานที่ที่มีสำเนียงเหมือนภาษารัสเซีย แต่เราไม่สามารถเชื่อมโยงในหัวได้ว่ามันอยู่ตรงไหน การติดตามเรื่องก็เลยจะมึนๆ หน่อย

ดีที่เรื่องราวมันชวนติดตามมากโขอยู่

เรื่องราวในซีรีส์เดินได้กระชับฉับไวพอสมควร มีบางตอนที่อาจเอื่อยหน่อย แต่ที่น่าชื่นชมก็คงเป็นดนตรีประกอบที่ทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เขาต้องการความตื่นเต้น เสียงเครื่องสายเร่งเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ลีลาการแสดงของแต่ละคนถือว่าทำได้ไม่เลว บวกกับเรื่องราวที่เลื่อนไหล ชักชวนให้อยากรู้เรื่องต่อ แม้บางคนอาจรู้สึกว่า นางเอกค่อนข้างดูใสซื่อเกินไปนิด แต่ก็อาจเป็นธรรมดา ที่คนเราอาจอ่อนประสบการณ์ไม่เจนโลก จนเลือกผิดไป และกลายเป็นบทเรียนเพื่อยั้งใจไม่ทำพลาดซ้ำเดิมอีก ไม่น่าเชื่อว่า 8 ตอนผ่านไปอย่างรวดเร็ว และอยากจะรู้ต่อแล้วว่า เหตุการณ์ในซีซันหน้าจะเป็นไปอย่างไร

…อีกสิ่งที่ไม่อยากจะลืมบอก คือ นางเอกน่ารักโดนใจมากๆ เลย

ชื่อซีรีส์: Shadow and Bone / ตำนานกรีชา
ผู้สร้าง:
นักแสดง: Jessie Mei Li, Archie Renaux, Ben Barnes, Freddy Carter, Amita Suman, Kit Young
แนว/ประเภท: Action, Drama, Fantasy 
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 8 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: 21 Laps Entertainment, Netflix