รีวิวซีรีส์ Wednesday | เวนส์เดย์ สาวปากแซ่บกับเพื่อนใหม่ในเนเวอร์มอร์
สาวน้อยที่ฉลาดและชอบสีดำ ผู้ต้องย้ายโรงเรียนไปสืบคดีพร้อมสานสัมพันธ์ครอบครัว
หลายคนน่าจะเคยคุ้นกับหนังครอบครัวประหลาดที่เคยฉายในวันเก่าราวปี 1991 อย่าง ‘ตระกูลนี้ผียังหลบ’ ก่อนที่ในยุคปัจจุบัน มันจะมีหนังแอนิเมชันของครอบครัวแอดดัมส์อย่าง ‘The Addams Family’ ที่เพิ่งฉายภาคต่อกันไป แต่ในทีวีโดยเฉพาะในโลกสตรีมมิ่งอย่างทุกวันนี้ ก็มีซีรีส์ภาคสปินออฟออกมาให้พวกเราได้ติดตามเช่นกัน เป็นสปินออฟที่เล่าเรื่องของลูกสาว ‘Wednesday’ และมันมีฉายใน Netflix ครับผม
งานนี้มีผู้สร้างเป็น Alfred Gough และ Miles Millar แต่ก็ไม่พ้นมีบางตอนที่กำกับโดย Tim Burton ครั้งนี้ พวกเขาจะหยิบเรื่องราวที่มีศูนย์กลางเป็นลูกสาวที่หลงใหลสีขาวกับดำ ครั้งนี้เธอจะย้ายไปโรงเรียนแห่งใหม่ในเจอริโคที่มีแต่พวกเด็กประหลาด เธอจะได้สืบหาความจริงของเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นทั้งภายในและรอบๆ สถาบันแห่งนี้
ซีซันแรกมี 8 ตอน ค่อยๆ ดูไปทีละตอนก็แล้วกันเนอะ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Wednesday’
ซีรีส์เรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของครอบครัวแอดดัมส์ก็จริง แต่มุ่งเน้นไปที่ตัวลูกสาวปากแซ่บผู้มีพลังนิมิตอย่าง เวนส์เดย์ (Jenna Ortega จากหนังเรื่อง ‘หวีดสุดขีด’ และ ‘The Fallout’ ) ที่ย้ายโรงเรียนเป็นว่าเล่นเพราะวีรกรรมที่เธอก่อเอาไว้ไม่หยุดหย่อน และล่าสุด พ่อโกเมซ (Luis Guzmán) กับแม่มอร์ทิเซีย (Catherine Zeta-Jones จากหนัง ‘RED 2’) ของเธอก็ตกลงย้ายเธอไปอยู่ที่ ‘เนเวอร์มอร์อะคาเดมี่’ สถาบันที่แม่ของเธอเคยร่ำเรียนมาและได้พบกับพ่อของเธอ ที่นี่เป็นศูนย์รวมนักเรียนผู้นอกกรอบ แต่ละคนล้วนมีพลังวิเศษไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เป็นธรรมดาที่ผู้คนจะหวาดผวาไม่อยากเข้าใกล้ ไม่ก็ค่อยชอบสถาบันแห่งนี้สักเท่าไหร่
สถาบันเนเวอร์มอร์แห่งนี้ควบคุมดูแลโดย ลาริสซา วีมส์ (Gwendoline Christie จากซีรีส์เรื่อง ‘เดอะ แซนด์แมน’, ‘Severance’ และ ‘Game of Thrones’) เพื่อนรูมเมทของแม่คนที่คอยจับตาดูเธอทุกฝีก้าว เขาพาเวนส์เดย์ไปพบกับ อีนิด ซินแคลร์ (Emma Myers จากหนังเรื่อง ‘Girl in the Basement’) รูมเมทที่เหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าแค่เพียงกรงเล็บ
เวนส์เดย์พกพาเอาความเป็นตัวเองที่ไม่เหมือนใครไปอยู่ในที่แห่งใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า แต่เธอก็ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่หลายคน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินจิตตกอย่าง เซเวียร์ ธอร์ป (Percy Hynes White จากซีรีส์เรื่อง ‘The Gifted’), เอแจ็กซ์ (Georgie Farmer) เพื่อนกอร์กอนที่เป็นรูมเมทของโรวัน (Calum Ross) หนุ่มพลังจิต รวมทั้งบิยังกา บาร์เคลย์ (Joy Sunday) ไซเรนสาวผิวดำที่ไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่
นอกจากนี้ก็ยังมีเด็กหนุ่มนอกสถาบันลูกชายนายอำเภอที่ทำงานร้านกาแฟอย่าง ไทเลอร์ กัลพิน (Hunter Doohan จากซีรีส์เรื่อง ‘Your Honor’) แล้วก็ยังมี ดร. วาเลรี คินบอท (Riki Lindhome จากหนังเรื่อง ‘Knives Out’) หมอด้านจิตวิทยาที่เธอต้องไปหาตามคำสั่งอีกด้วยนะ
แน่นอน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่อาจจะขาด ธิง (Victor Dorobantu) มือที่ทั้งเดินและสื่อสารได้ ที่เป็นสหายคนสนิทติดตามและคอยช่วยเหลือเวนส์เดย์ตลอดเวลาในอะคาเดมี่แห่งนี้
รีวิวซีรีส์ ‘เวนส์เดย์ แอดดัมส์’
สาวน้อยผู้ย้ายโรงเรียนมาหลายหน เพราะบุคลิกแปลกเฉพาะตัวจึงอยู่ที่ไหนไม่ยืด สร้างวีรกรรมป่วนไปทั่ว อย่างล่าสุดที่ปล่อยปลาปิรันย่าลงสระน้ำนั่น ทำให้เธอต้องย้ายโรงเรียนอีกหน ไปอยู่ที่ใหม่ เนเวอร์มอร์อะคาเดมี พร้อมถูกบังคับให้ต้องไปหาจิตแพทย์เป็นประจำ ก่อนที่เธอจะรู้ว่า ที่นี่ก็น่าสนุกอยู่เหมือนกันแฮะ
ก่อนจะเข้าสู่สถาบันเนเวอร์มอร์ ควรจะรู้อะไรบ้าง?
อาจจะเหมือนจดบันทึกหน่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องรู้อะไรบ้าง แต่ที่จดๆ ไวก็ประมาณนี้
เวนส์เดย์ (หรือบ้างก็เขียนว่า เว้นส์เดย์) เธอเป็นเด็กสาวที่มีความแปลกในตัวเอง เฉลียวฉลาด ชอบสร้างสิ่งประดิษฐ์ มีความสามารถเชิงต่อสู้ ความสามารถด้านดนตรีก็ไม่เบา เธอไม่ชอบให้กอด เป็นภูมิแพ้สีสันเลยใส่แต่เสื้อผ้าสีดำขาว มีนิมิตมองเห็นเรื่องราวในอดีตหรืออนาคตของสิ่งที่สัมผัส ทั้งยังมีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง ชอบเขียนนิยายที่เก็บไว้อ่านเอง เธอตั้งใจจะหนีออกไปจากสถาบันทั้งที่แม่เชื่อว่าเธอจะค่อยๆ รักสถาบันแห่งนี้
ขณะที่ เนเวอร์มอร์อะคาเดมี่ (Nevermore Academy) ก็มีแต่นักเรียนพวกที่ถูกเรียกว่า ‘นอกคอก (Outcast)’ นักเรียนที่นี่ถูกแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม อันได้แก่
- Fangs/เขี้ยว (พวกนี้มีอีกชื่อคือ แวมไพร์) ซีซันนี้ ไม่มีเรื่องราวของพวกเขานะ
- Furs/ขน (มีอีกชื่อเรียกว่า มนุษย์หมาป่า) พวกเขานอกจากมีขน ก็มีกรงเล็บด้วยนะ
- Stoners/หิน (หรือเรียกอีกอย่างว่า กอร์กอน) สามารถจะสาปให้คนกลายเป็นหินได้ (ชั่วคราว)
- Scales/เกล็ด (พวกนี้ถูกเรียกว่า ไซเรน) พวกนี้จะใช้เพลงของตนเพื่อสะกดจิดคนอื่นได้
ซึ่งแปลว่าเวนส์เดย์ไม่ได้เข้าพวกไหนสักพวกสิน้าา
และเพราะมันเป็นโรงเรียนประจำ เวนส์เดย์จึงต้องอยู่หอ และหอที่เธออยู่ก็คือหอโอฟีเลีย ที่แม่ของเธอก็เคยอยู่มาก่อน ตอนนี้มีครูประจำหอเป็น มาริลีน ธอร์นฮิลล์ (Christina Ricci จากหนังเรื่อง ‘The Matrix Resurrections’ และ ‘Speed Racer’) คุณครูคนแรกของสถาบันที่เป็นนอร์มี่ กฎของหอก็คือ ที่นี่จะปิดไฟสี่ทุ่ม ห้ามเปิดเพลงเสียงดัง และห้ามผู้ชายขึ้นมา โอเคเป่า?
คดีที่เวนส์เดย์ต้องสืบ
เวนส์เดย์ไม่ใช่เด็กสาวธรรมดา เพราะมีทั้งนิมิตและฉลาดพอจะสืบหาความจริงของเหตุร้ายรอบตัวได้ เพียงแค่แรกเข้าไปเรียน ก็มีเหตุสัตว์ประหลาดสังหารผู้คนซะแล้ว แต่มันก็ไม่ได้มีแค่เรื่องเดียวนะที่เธอต้องไขปริศนา นิมิตยังพาเธอใปได้เจอเบาะแสใหม่ของปริศนาอื่นด้วย ทำให้เวนส์เดย์ต้องหัวหมุนวุ่นอยู่กับสิ่งที่เธอต้องการจะรู้และแก้ไขมัน เธอถูกทำนายว่าจะเป็นคนที่มาทำลายสถาบันแห่งนี้ ขณะที่คดีฆาตกรรมของพ่อเธอก็เข้ามาเกี่ยวพันให้ต้องสืบค้นความจริง
แม้ซีรีส์จะเล่าเรื่องวุ่นๆ ของเธอสถาบัน แต่ยังไงก็ไม่พ้นต้องเล่าเรื่องครอบครัว ทั้งพ่อและแม่ รวมทั้งน้องชายอย่างพักซลีย์ (Isaac Ordonez) ถูกหยิบมามีบทบาทในซีรีส์นี้จนได้ ก็เพราะสถาบันแห่งนี้ เป็นที่ที่พ่อกับแม่เคยเรียนและพบรักกัน ทั้งเหตุฆาตกรรมที่ควรจะปิดลงไปตั้งนาน กลับถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ทำให้เวนส์เดย์ที่ไม่ค่อยอยากจะพูดกับแม่ของตัวเองนัก ก็ได้โอกาสปรับความเข้าใจซึ่งกัน พร้อมกับสืบหาเงื่อนงำความจริงของเหตุการณ์ในอดีต
ภายในโรงเรียน เธอต้องรับมือกับเพื่อนที่มาทั้งแบบดีและร้าย อาจารย์ใหญ่ที่คอยจับผิดเธอ (แถมยังมีเงื่อนงำน่าสงสัยอีก) นอกโรงเรียนเธอยังมีพันธมิตรที่เป็นคนธรรมดา (ที่พวกเขาเรียกว่า Normie) อย่าง ไทเลอร์ กัลพิน คนที่เป็นลูกชายของนายอำเภอผู้ที่ไม่ค่อยชอบตระกูลแอดดัมส์ของเธอ
เมื่อมองถึงการมารับบทเวนส์เดย์ของ Jenna Ortega นายแพทมองว่า เธอเองทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว มีความมั่นใจในบุคลิกปากแซ่บของตนเอง พูดจาฉะฉาน รักษาคาแรกเตอร์ได้ดีเลย ขณะที่ตัวละครเพื่อนร่วมสถาบันหลายๆ ตัวก็น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Percy Hynes White ที่รับบทเซเวียร์ หรือ Hunter Doohan ที่รับบทไทเลอร์ แต่ที่เข้าตามากหน่อยก็คงจะเป็นบทสาวหมาป่าอีนิดของ Emma Myers ที่มีความสดใสแม้จะพบปัญหายังไม่อาจกลายร่างได้ เธอคือด้านตรงข้ามที่แตกต่างจากเวนส์เดย์อย่างชัดเจนที่สุดเลย
เรื่องราวในซีซันแรกนี้ เล่าถึงการสืบคดีลึกลับของสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ตาโตว่าแท้จริงมันเป็นใคร บทพาเราสงสัยกลับไปกลับมาจนกว่าจะรู้ความจริง ท่ามกลางตัวละครบางตัวที่พาเราไขว้เขว ครูใหญ่ที่เอาแต่สนใจชื่อเสียงและการคงอยู่ของโรงเรียน นายอำเภอที่เอาแต่คอยจับผิดเวนส์เดย์ ไทเลอร์ชายหนุ่มแสนดีที่จริงจังมั่นรักเกลียดสีสัน เพื่อนรักรูมเมทที่แตกต่างกันทุกด้านแต่เชื่อมั่นในอีกฝ่ายเสมอ บทเก่งในการหลอกล่อเรา ยิ่งใกล้จบก็ยิ่งสนุก และเวนส์เตย์ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากการมาอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะเรื่องของมิตรภาพ
ด้านดนตรีประกอบใส่ความเล่นใหญ่มาพอสมควร ซึ่งก็เข้ากันกับมู้ดของซีรีส์ดี ส่วนถ้าถามว่าชอบซีนไหนที่สุด อาจเป็นซีนที่หลายคนก็ชอบเหมือนๆ กันนั่นคือ ช็อตที่เวนส์เดย์วาดลวดลายเต้นท่าประหลาดในงานเรเวนนั่นแหละ
และด้วยการเดินเรื่องที่สนุกน่าติดตาม ทำให้กลายเป็นซีรีส์ที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ของผู้ใช้เน็ตฟลิกซ์ในไทย
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
| ชื่อซีรีส์ | Wednesday / เวนส์เดย์ แอดดัมส์ |
| ผู้สร้าง | Alfred Gough, Miles Millar |
| ผู้กำกับ | Tim Burton, James Marshall, Gandja Monteiro |
| ผู้เขียนบท | Alfred Gough, Miles Millar, Kayla Alpert, April Blair, Matt Lambert |
| นักแสดง | Jenna Ortega, Gwendoline Christie, Riki Lindhome, Catherine Zeta-Jones, Christina Ricci |
| แนว/ประเภท | คอเมดี้, อาชญากรรม, ครอบครัว, แฟนตาซี, ลึกลับ |
| จำนวนตอน | ซีซัน 1: 8 ตอน |
| ช่องทางรับชม | Netflix |
| เริ่มออกอากาศ | 23 พฤศจิกายน 2022 |
| ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | MGM Television, Millar Gough Ink, Tee and Charles Addams Foundation |
เวนส์เดย์ แอดดัมส์
พล็อตและบท - 8.4
การแสดง - 8
การดำเนินเรื่อง - 8.6
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 8.3
8.3
Wednesday
ซีรีส์ที่สปินออฟมาเล่าเรื่องของของลูกสาวตัวแสบแห่งตระกูลแอดดัมส์ ตระกูลนี้ผียังหลบ โดยมี Tim Burton มาร่วมกำกับในบางตอนด้วย กับเรื่องราวที่เวนส์เดย์ต้องย้ายมาเรียนในสถาบันที่พ่อและแม่เคยเรียนอยู่ แรกๆ เหมือนจะไม่เต็มใจ แต่สุดท้ายเจอสิ่งที่สนุกเข้า ติดใจเลยทีนี้ มีทั้งเพื่อนใหม่มาให้รู้จัก ทั้งได้สืบเสาะหาความจริงเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่สังหารคน และได้สืบเรื่องคดีฆาตกรรมครั้งอดีตของพ่อ จัดเป็นซีรีส์ที่ดูสนุกตั้งแต่แรกเริ่ม พลาดไปจะเสียใจนะครับ!













