รีวิวหนัง Badland Hunters นักล่ากลางนรก | บู๊มันสะใจ ไซไฟจักรวาลอะพาร์ตเมนต์

ถ้าวันหนึ่ง โลกเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ตึกสูงมากมายถล่มพังระเนระนาด มนุษย์ตายเกลื่อน ส่วนพวกที่เหลือรอดก็อยู่กันอย่างลำบากและต้องแก่งแย่งกัน โลกหลังการล่มสลายมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หนังเกาหลีที่ว่าด้วยเรื่องภัยพิบัติเรื่องนี้จะฉายภาพนั้นให้เราได้สัมผัสกัน ‘Badland Hunters’ หรือชื่อไทย ‘นักล่ากลางนรก’ นั่นล่ะครับ

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

ผลงานจากผู้กำกับที่เคยเป็นนักแสดงและสตันท์แมนมาก่อน เล่าเรื่องของโลกล่มสลายที่เป็นจักรวาลเดียวกับ ‘Concrete Utopia’ แต่ในมุมที่แตกต่างไป เมื่อเขาเลือกให้ มาดงซอก เป็นตัวเอกที่ได้รับภารกิจช่วยเหลือสาวน้อยจากเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่หมอมีปมผู้กลายเป็นดั่งพระเจ้าของชาวอะพาร์ตเมนต์ ทำให้ได้หนังแอ็คชันผสมไซไฟที่มีฉากบู๊แบบมันๆ และเวอร์วัง เหมาะเหม็งที่จะเป็นความบันเทิงในบ้าน

โดยไม่ต้องเน้นดราม่าตีแผ่สันดานดิบมนุษย์แบบในภาคก่อน

เรื่องย่อหนัง ‘Badland Hunters’

หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเหตุการณ์ผ่านไป 3 ปี ผู้คนที่เหลืออยู่ต่างต้องทุกข์ทนอยู่กับความแร้นแค้น น้ำสะอาดกลายเป็นสิ่งหายากและล้ำค่า ในชุมชนเล็กๆ ใกล้กับย่านรถเมล์ มีสาวน้อย ฮันซูนา (Roh Jeong Eui/โนจองอี จากซีรีส์ ‘Our Beloved Summer’ และ ’18 Again’) ที่อาศัยอยู่กับคุณยาย

ในบางเวลา เธอก็ออกมาจับจ่ายในย่านรถเมล์บ้าง และก็จะเจอกับ นัมซาน (Ma Dong Seok/มาดงซอก จากหนังเรื่อง ‘The Roundup: No Way Out’ และ ‘Eternals’) นายพรานหนุ่มล่ำผู้มีพละกำลังเหลือล้น เขากับชเวจีวาน (Lee Jun Young/อีจุนยอง จากซีรีส์ ‘Please Don’t Date Him’ และ ‘Imitation’) เพิ่งไปล่าจระเข้ด้วยกันมา พวกเขาก็เอามันมาหั่นแบ่งมาขายคนในชุมชน

ปกติ ชุมชนเล็กๆ แห่งนี้มักจะถูกพวกอันธพาลมารีดไถ แต่วันนี้ กลับมาคนกลุ่มหนึ่งมาเชิญชวนให้บ้านที่มีเด็กและวัยรุ่นเดินทางไปด้วยกัน เพื่อร่วมอยู่ในอะพาร์ตเมนต์หลังเดียวที่ยังไม่ถูกทำลาย ตอนนี้ที่นั่นบริหารโดยคุณหมอยางกีซู (Lee Hee Jun/อีฮีจุน จากซีรีส์ ‘Chimera’ และ ‘Mouse’) ผู้ซึ่งกำลังทดลองสร้างมนุษย์ชนิดใหม่ขึ้นมา

นัมซานและจีวานที่มองว่าซูนากำลังมีภัย พวกเขาจึงร่วมกับอีอึนโฮ (Ahn Ji Hye/อันจีฮเย จากซีรีส์ ‘Mine’) อดีตทหารหญิงที่เคยทำงานพิทักษ์คนในอะพาร์ตเมนต์ เดินทางไปช่วยเหลือซูนาและผู้คนของอึนโฮ

รีวิวหนัง ‘นักล่ากลางนรก’

อันที่จริง มันเป็นเรื่องราวในจักรวาลเดียวกันกับหนังเรื่อง ‘Concrete Utopia วิมานกลางนรก’ นั่นแหละ ภาคนั้น โฟกัสในเรื่องของกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ที่เหลือรอดไม่พังครืนลงมา และกลายเป็นเหมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายที่ต้องแบกรับผู้คนที่รอดตายให้มาอยู่รวมกัน เรื่องราวในนั้นก็อาจจะดาร์กๆ สื่อสะท้อนถึงสันดานดิบของมนุษย์มากหน่อย ซึ่งจะแตกต่างกันพอสมควรเมื่อเทียบกับภาคเรื่องนี้

‘นักล่ากลางนรก’ จะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากภาคนั้น หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ผ่านไปราว 3 ปี มนุษย์ที่เหลือรอดบางส่วนก็เริ่มรวมตัวกันเป็นชุมชนย่อยๆ พยายามเอาตัวรอดท่ามกลางความขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร น้ำต้องเอาน้ำเน่ามากรอง (ซึ่งก็ไม่น่าจะสะอาดขึ้นสักเท่าไหร่ อยู่กันได้ยังไงก็ไม่รู้) เนื้อสัตว์ก็ต้องอาศัยนัมซานผู้แข็งแกร่งดุจหินผา ล่าสัตว์อย่างจระเข้มาสับแล้ววางแผง ใครอยากได้ก็เอาของมาแลกกัน ดูเป็นชีวิตที่ไม่น่าจะมีอนาคตอะไรเลย

แต่ชื่อเสียงของอะพาร์ตเมนต์หลังนั้นยังไม่เคยจาง ทว่าที่นั่นได้เปลี่ยนไปแล้ว มันถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหาร แต่มีหมอเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ ที่กวาดต้อนผู้คนจากทุกสารทิศ แล้วแยกเด็กและเยาวชนออกจากผู้ใหญ่ สร้างห้องเรียนและมีการสอบ ใช้ผลการสอบเพื่อสร้างเงื่อนไขในการห้องพักดีดี

พล็อตของเรื่องมันก็ง่ายๆ กลุ่มของนัมซานต้องฝ่าเข้าไปเพื่อช่วยเหลือซูนาและพาเธอกลับออกมา แต่ก่อนจะเล่าพล็อตหลัก ผู้กำกับก็ต้องใช้เวลาในการปูเรื่องทั้งหมดก่อน เพื่อให้คนดูได้รู้จักกับโลกในเวลานั้นกับได้รู้จักตัวละครทั้งตัวร้ายตัวดี ก่อนที่จะเข้าเรื่อง

เริ่มจากที่ซูนาเด็กสาววัยรุ่นที่ถูกครู (Jang Young Nam จากซีรีส์ ‘Crash Course in Romance’) พาตัวมาพร้อมกับยาย เธอหว่านล้อมสร้างความคาดหวังในชีวิตดีๆ ก่อนที่เมื่อถึงเวลาก็แยกตัวยายออกไป แท้จริงมันมีเหตุผลของการพาเธอมา

หนังเล่าถึงตัวร้ายที่มีหัวใจ พยายามจะช่วยลูกสาวให้กลับมามีชีวิต แต่การต้องแลกด้วยชีวิตของวัยรุ่นอีกมากมาย คงไม่ใช่เรื่องที่ใพ่อแม่ที่ไหนจะยอมรับได้ แรงจูงโจของหมอยางถูกเล่าไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า เขาหมกมุ่นเพียงใดตั้งแต่ยังไม่เกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ แต่ดูเหมือนว่า การทดลองของเขาจะเกินเลยไปมาก บทหนังค่อนข้างพร่ำเพ้อให้หมอคนนี้สร้างมนุษย์กลายพันธุ์หลายประเภทขึ้นมา เพียงเพื่อจุดประสงค์เดียวคือเพื่อฟื้นคืนชีพโซยอน

หนังภาคนี้ไม่เน้นสะท้อนสันดาบดิบมนุษย์ หากเน้นไปที่ฉากแอ็คชัน เรื่องความเวอร์ขอให้บอก ทีมงานจัดหนักเพื่อสร้างฉากความรุนแรงก็มีให้เต็มอัตราศึก มนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหลายต่างก็ทนทายาดอย่างเหลือเชื่อ ขณะที่ปืนแต่กระบอกล้วนความเสียหายได้มากกว่าปกติ

สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้ระหว่างดูหนังภาคนี้ก็คือความเม้กเซ้นส์ เช่น เมื่อมีเสียงปืนดังในอีกที่ของอะพาร์ตเมนต์ ตัวละครอีกจุดกลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ หรืออย่างตัวละครที่ถูกกวาดต้อนมาด้วยแรงจูงใจ ทุกคนกลับเชื่อฟังในสิ่งพวกเขาหลอกลวงอย่างง่ายดาย ไม่แม้จะตั้งคำถามหรือแสดงท่าทีขัดขวาง (แต่ก็ยังดีหน่อย ที่ตัวละครเริ่มตั้งคำถามหลังเข้ามาอยู่ในอะพาร์ตเมนต์แล้ว) เอาจริงๆ เมื่อคิดไป มันก็มีความไม่สมจริงหลายอย่าง ที่ทำให้เราไม่เชื่อว่า อะพาร์ตเมนต์หลังเดียวจะทำน้ำสะอาดทั้งน้ำดื่มน้ำอาบขนาดนั้นได้ กรรมวิธีที่มองเห็นก็ไม่น่าจะทำให้น้ำสะอาดได้ และไม่ใช่ทุกคนในหนังที่กลายพันธุ์จนกินน้ำและอาหารน้อยลงแต่พวกเขาพกน้ำขวดเล็กๆ ที่ไม่น่าจะพอปะทังชีวิต

แต่คงไม่อาจปฏิเสธว่ามันเป็นหนังที่ดูเอาสนุกนี่ได้สนุกจริง มีฉากบู๊แอ็คชันเยอะพอตัว แต่ละฉากล้วนเวอร์วัง สลับไปกับฉากระทึกขวัญ บวกความพยายามสร้างสรรค์มนุษย์กลายพันธุ์ เหมาะจะเปิดดูในบ้านอย่างแท้จริง

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง