รีวิวหนัง Wonderland | ถ้าโลกนี้มีบริการเอไอสร้างอีกตัวตนเยียวยาใจ

จะเป็นยังไง ถ้าเราป่วยใกล้ตาย แต่คนที่เรารักได้เจอกับเราในเวอร์ชันที่สุขภาพดี แต่นั่นเป็นแค่ AI ไม่ใช่คนจริงๆ กันล่ะ หนังเกาหลีเรื่องนี้นำพาไอเดียมาสู่ผู้ชม ผ่านทาง ‘Wonderland’ หรือชื่อไทย ‘วันเดอร์แลนด์’ ที่มีฉายให้ได้ชมกันแล้วทาง Netflix แถมยังมีพากย์ไทยให้ด้วยนะ

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

หนังเกาหลีในเน็ตฟลิกซ์ที่ว่าด้วยโลกอนาคต เล่าว่าถ้าโลกนี้มีบริการที่ใช้เอไอมาสร้างจากตัวตนใหม่ขึ้นมาจากตัวตนของคนที่ตายจากไปหรือเทียบเท่า เพื่อสื่อสารกับคนที่ยังอยู่ มันจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้าง ซึ่งก็ได้นักแสดงชาวเกาหลีใต้คนดังๆ เข้ามาร่วมงานเพียบ ทั้งชเวอูซิก, จองยูมี, กงยู, ถังเหว่ย, แบซูจี และพัคโบกอม

ถ้าเรามีอีกตัวตนที่ยังอยู่หลังเราจากไป แถมตัวตนนั้นมีชีวิตจิตใจไม่ต่างจากคนจริงล่ะ มันจะเป็นอย่างไร หนังที่เดินเรื่องอย่างเรียบเรื่อย แต่ก็ตั้งคำถามที่น่าสนใจไว้พอสมควร

เรื่องย่อหนัง ‘Wonderland’

ไอเดียบรรเจิดที่เกี่ยวพันกับความรู้สึกและมีชื่อว่า “วันเดอร์แลนด์” คือ การนำพาคนที่คุณรักให้กลับมามีตัวตนที่สดใส ทดแทนความโศกเศร้าใจในยามที่ตัวตนคนที่คุณรักได้ตายจากไปหรือมีสภาพไม่ต่างกับคนตาย โปรเจกต์ที่มีคนดูแลอย่าง คิมฮยอนซู​ (ชเวอูชิก จากซีรีส์ ‘ร้อนนั้นเรารักกัน’) และ ซอแฮรี (จองยูมี จากหนังเรื่อง ‘คิมจียอง เกิดปี 1982’) เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการ

คนเข้ามาใช้บริการ อาจเป็นคนป่วยใกล้ตายหรืออาจเป็นญาติ/คนรักของผู้ป่วยหนักอยู่ก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ไป๋หลี่ (ถังเหว่ย จากหนัง ‘ฆาตกรรมรัก หลังเขา’) แม่ที่จากไปแล้วของไป๋เจีย ลูกสาวตัวน้อย หรืออย่าง คูจองอิน (แบซูจี จากซีรีส์ ‘ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน’) ก็มีพัคแทจู ​(พัคโบกอม จากซีรีส์ ‘หัวใจพบรัก’) ชายหนุ่มคนรักที่ป่วยนอนเป็นผักอยู่ในโรงพยาบาล เป็นต้น และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของพวกเขา

รีวิวหนัง ‘วันเดอร์แลนด์’

“เมื่อการจากลา นำมาสู่โลกที่คนรักเก่ายังมีตัวตนในอีกดินแดน” คำโปรยของหนังเขาว่าไว้อย่างนั้น คนเขียนบทเขาคงจินตนาการไปว่า ถ้าเราเอาเอไอมาใช้สร้างสรรค์กิจการที่เอื้อประโยชน์ต่อจิตใจ คลายความโศกเศร้าให้กับผู้ที่ยังยอมรับการจากลาไม่ได้ หรือต้องมีชีวิตอยู่ต่ออย่างมีแรงใจในระหว่างรอความหวัง โปรเจกต์ก็คงช่วยพวกเขาได้มาก

ผลงานจากผู้กำกับ คิมแทยง แห่ง ‘แฟมิลี่ ไทม์’ และ ‘ครั้งหนึ่ง ณ​ ฤดูแห่งรัก’ พาเราไปเจอกับหนังดราม่าที่มีความเป็นไซไฟของโลกอนาคต เริ่มต้น เขาพาเราไปเจอกับ ไป๋หลี่ หญิงสาวเชื้อสายจีนที่เป็นผู้จัดการกองทุน แต่เธอป่วยหนักและจากโลกนี้ไปแล้วแต่กลัวว่าลูกสาวจะยังทำใจรับไม่ได้ จึงเลือกใช้บริการนี้ โดยปรับให้เธอกลายเป็นนักโบราณคดีที่ได้ติดต่อกับลูกสาวได้ตลอดเวลา

แต่ที่นั่นก็มีอีกตัวตนหนึ่ง ซองจุน (กงยู ที่ก็เคยเล่นหนังเรื่อง ‘คิมจียอง เกิดปี 1982’ กับจองยูมีเหมือนกัน) นักจิตบำบัดที่เป็นเหมือนตัวละครหลักในระบบเสมือนจริงคอยดูแลอยู่

แล้วหนังก็เล่าไปถึง แทจู ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตเป็นนักบินอวกาศบนสถานีอวกาศ เขาจะโทรมาปลุกจองอินแฟนสาวทุกเช้า จองอินเป็นแอร์โฮสเตจสาวสวยที่ทุกข์ระทมเพราะแฟนหนุ่มที่นอนป่วยเป็นผักอยู่ เธออยากคุยกับแทจูเหมือนเคยจนเลือกใช้บริการนี้ที่สร้างอีกตัวตนของแฟนหนุ่มขึ้นมา แล้วจากนั้นก็เล่าไปถึง คุณยายซงจองรัน (ซองบยองซุก) ที่อยากจะพูดคุยกับชเวจินกู (ทังซุนซัง จากซีรีส์ ‘Move To Heaven’) หลานชายที่เรียนอยู่ต่างประเทศ แล้วก็ยังมีอีกเคสนึง อียงซิก (ชเวมูซอง) คุณพ่อผู้ป่วยหนักใกล้ตายที่อยากจะเห็นตัวเองในวันเดอร์แลนด์ดูบ้าง

อันที่จริง กิจการนี้ก็น่าสนใจดีนะ มันเป็นระบบที่เก็บข้อมูลหน้าตา น้ำเสียง นิสัยใจคอ ที่รวมเรียกว่า “ตัวตน” ของผู้ที่วายชนม์(หรือเทียบเท่า)เอาไว้ แล้วสร้างมันเป็นอีกหนึ่งตัวตนที่สามารถติดต่อกับคนที่เหลือผ่านทางมือถือ เพียงแค่โทรหา หรือบางทีก็โทรมาหาเรา แล้วพูดคุยกันแบบเห็นหน้า แถมยังมีหนทางสร้างรายได้อย่างเช่นการสั่งซื้อของให้อีกฝ่ายได้ด้วย

แล้วหนังก็ไม่ได้เล่าแค่คนที่มาใช้บริการนะ แต่ก็ยังเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างฮยอนซูและรุ่นพี่แฮรีด้วย ฮยอนซูต้องสวมบทเป็นแฟนหนุ่มหลอกๆ ของแฮรี ส่วนฮยอนซูเองก็สงสัยว่าตัวเองเป็นลูกชายคนนึงของลุงยงซิกหรือเปล่า พูดง่ายๆ คือ บทหนังมันหาเรื่องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทุกตัวให้มันพัลวันพัลเกกันหมดนั่นแหละ

คงต้องบอกว่า งานซีจีในเรื่องนี้ทำออกมาดีพอตัวเลย เช่นเดียวกับการขนนักแสดงระดับแม่เหล็กมารวมกันอย่างคับคั่ง ส่วนบทนั้น หลายครั้งก็พาเราสับสนไปเหมือนกันว่า นี่เป็นแค่เอไอหรือพวกเขามีตัวตนจริงกันแน่

มันมีความใส่ใจในรายละเอียดอยู่พอสมควรเลยนะ เพราะเขาทำให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงถ้าพวกเขาไม่ได้ใช้วันเดอร์แลนด์อยู่ อย่างเช่น การรับนัดหนุ่มอื่นไปดูหนังโดยที่แฟนหนุ่มก็ยินดีให้ไปซะด้วยซ้ำ หรืออย่างภาพในโทรศัพท์ที่ไป๋หลี่โทรหาลูกสาว ซึ่งคนดูจะสัมผัสได้ว่านั่นเป็นภาพที่เอไอสร้างขึ้น หาใช่ภาพจริง

บริการดังกล่าว คนที่อยู่สามารถจะขอยกเลิกบริการได้ตามต้องการ ตัวละครแต่ละตัวต่างก็มีปัญหาที่เผชิญและก้าวผ่านมันไปให้ได้ บางคนก็ต้องปรับตัวเมื่ออีกฝ่ายที่นอนเป็นผักกลับฟื้นคืนมาอีกครั้งและต้องแยกแยะให้ได้ว่าตัวตนไหนที่ควรใส่ใจ บางคนก็รู้สึกทำใจลำบากเพราะรู้ดีว่าอีกคนนั้นจริงๆ ตายไปแล้ว ขณะที่บางคนก็ต้องทำใจรับกับความเป็นจริงให้ได้เมื่อมันมาจนสุดทาง

หนังบอกกับเราว่า แม้แต่เอไอเอง ก็มีชีวิตจิตใจ มีความกังวลไม่ต่างอะไรกับคนที่มีตัวตนจริงๆ ซึ่งนั่นทำให้ในโลกสมมติต้องมีซองจุนคอยประคับประคองจิตใจของตัวตนเอไอ

หนังเดินไปอย่างค่อนข้างจะอึนๆ เรียบเรื่อย ไม่เร่งร้อน แม้จะเดินมาถึงช่วงไคลแมกซ์ของเรื่องราวแล้วก็ตาม แต่มันก็ตั้งคำถามเอาไว้ได้น่าคิดอยู่หลายคำถามเหมือนกัน จะเป็นไปได้ไหม คนที่มีชีวิตอยู่ที่เอาจิตไปผูกพันกับเอไอมากเกินจนแยกแยะไม่ออกว่า ตัวตนไหนจริง ตัวตนไหนที่สร้างขึ้นมา, การตายของคนในโลกจริงคือการจากไปอย่างถาวร แต่คนที่ยังอยู่ต่างหากที่ไม่ยอมจะมูฟออน การสร้างบริการนี้ขึ้นมานั้นเป็นประโยชน์จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การสร้างปัญหาใหม่กันแน่

หนังพยายามจะบอกว่า แม้เป็นเอไอแต่พวกเขาก็มีชีวิตจิตใจไม่ต่างตัวตนจริง ถ้าเราสร้างเอไอที่ลอกเลียนตัวตนคนจริงขึ้นมา เราต้องมีกฎหมายสิทธิเอไอชนกันมั้ยนะ

เอาจริงๆ แม้จะดูแบบพากย์ไทย แต่นักแสดงทั้งหลายต่างก็เล่นได้ชวนน้ำตารื้นได้อยู่นะ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง