รีวิวซีรีส์ Shōgun | หนุ่มอังกฤษผจญภัยในแดนซามูไร

อาจเป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในดินแดนอาทิตย์อุทัย แต่อยู่ในมุมมองและสายตาของคนตะวันตก แต่ก็ได้รับคำชื่นชมว่าทำออกมาได้สมจริงใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้นอย่างที่สุด เรื่องราวที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมขายดีของ James Clavell ผลงานซีรีส์จาก FX Productions ผู้ผลิตสัญชาติอเมริกา ออริจินัลซีรีส์เรื่อง ‘Shōgun’ ที่นำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจากมุมมองของชาวตะวันตก

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

ด้วยโปรดักชันอันอลังการ สร้างและถ่ายทำในแคนาดาแต่รีเสิร์ชดีจนแนบเนียนราวกับถ่ายในสถานที่จริง บวกกับเรื่องราวที่ย้อนยุคไปยังญี่ปุ่นในยุคก่อนจะกลับมามีโชกุน หยิบเอาระบบการปกครอง การแย่งชิงอำนาจภายใน และการคืบคลานเพื่อครอบครองของชาวตะวันตก รวมทั้งมิติของศาสนาที่เข้ามาเกี่ยวข้อง คับคั่งด้วยนักแสดงชาวญี่ปุ่นมากมาย ร่วมด้วยนักแสดงชาวตะวันตกอีกจำนวนหนึ่ง

ทำให้กลายเป็นซีรีส์ที่มีความเข้มข้นด้วยเรื่องราวที่ซับซ้อนแต่น่าติดตามอย่างยิ่ง

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Shōgun’

ย้อนกลับสู่ญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1600 ในช่วงเวลาที่คาทอลิกและโปรเตสแตนต์เป็นสองนิกายที่ขัดแย้งหนักหน่วง ซีรีส์เล่าถึงต้นหนหนุ่มอังกฤษนาม จอห์น แบล็กธอร์น (Cosmo Jarvis จากซีรีส์ ‘Peaky Blinders’ และหนังเรื่อง ‘Lady Macbeth’) ที่รอดตายอย่างหวุดหวิดเมื่อเรือสำเภาของพวกเขาเข้ามาเกยตื้นบนชายหาดของดินแดนญี่ปุ่น ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องเผชิญกับระบบศักดินาในสังคมญี่ปุ่น และยังต้องต่อสู้กับอัตลักษณ์และความจงรักภักดีของตนเองในดินแดนที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากบ้านเกิดของเขาอย่างสิ้นเชิง

การมาที่นี่ของแบล็กธอร์น ทำให้เขาได้พบกับ โยชิอิ โทรานางะ (Hiroyuki Sanada จากหนังเรื่อง ‘John Wick: Chapter 4’ และ ’47 Ronin’) ไดเมียวผู้ทรงอิทธิพล เจ้าผู้ปกครองแคว้นคันโต ที่ต้องอาศัยไหวพริบและเล่ห์เพทุบายต่างๆ เพื่อเอาตัวรอดจากศัตรูที่รายล้อม และได้พบกับ โทดะ มาริโกะ (Anna Sawai จากหนังเรื่อง ‘F9: The Fast Saga’ และซีรีส์ ‘Monarch: Legacy of Monsters’) ล่ามหญิงสาวชาวคริสต์ ที่เคยมีเกียรติสูงสุดแต่วันนี้กลับเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของตระกูลที่เสื่อมเสีย

มันคือเรื่องราวของคนนอกที่ถูกมองว่าเป็นคนเถื่อน แต่เขาสามารถจะพาตัวเองขึ้นมาเป็นซามูไร แม้จะถูกโทรานากะใช้เป็นเหมือนเบี้ยในการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด นั่นคือการเป็น ‘โชกุน’

รีวิวซีรีส์ ‘โชกุน’

มันคือซีรีส์โปรดักชันอเมริกาที่เล่าเรื่องบนแผ่นดินญี่ปุ่นในยุคอดีต เล่าเรื่องที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ ซึ่งหนังสือก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงอีกต่อนึง ถ่ายทำกันในประเทศแคนาดา ทั้งการสร้างฉาก เทคนิคพิเศษด้านภาพ และบอกเล่าถึงระบบศักดินา เรียกได้ว่าสมจริงอย่างมาก ๆ ทีเดียวเลยครับ

สถานการณ์คร่าวๆ ที่ถูกเล่าอย่างรวบรัดในตอนที่หนึ่ง

แค่เริ่มมาตอนแรกก็คงพอได้เห็นแล้วว่า มันจะต้องเต็มไปด้วยตัวละครชื่อญี่ปุ่นที่ชวนยุ่งยากในการจดจำไม่น้อย เรื่องราวในซีรีส์นี้ย้อนไปไกลในช่วงเวลาที่ ไทโก ผู้ยิ่งใหญ่วายชนม์ และมี ยาเอจิโยะ เป็นรัชทายาทวัยเยาว์ที่ยังต้องรอวันขึ้นครองราชย์ ในเวลานั้นอำนาจปกครองจึงอยู่ในมือของสภาอุปราช (สภาผู้สำเร็จราชการ) ที่ต่างก็ยื้อแย่งแข่งชิงอำนาจกันเอง อันประกอบไปด้วย อิชิโดะ, โอโนะ, คิยามะ, ซูกิยามะ และ โทรานางะ

อิชิโดะ ดูจะยิ่งใหญ่สุด คนที่เหลืออาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าแต่ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ถือหางข้างอิชิโดะอยู่ ฝ่ายตรงข้ามของอิชิโดะจึงมีเพียง โทรานางะ ที่ถูกคาดหมายว่าคงเหลือเวลาของชีวิตอีกไม่มากแล้ว

ทีนี้ มาพูดตัวเอกฝ่ายหญิงของเรื่องกันบ้าง เธอคือ โทดะ มาริโกะ ลูกสาวชาวคาทอลิกของ อาเคชิ จินไซ ขุนนางผู้ลอบปลงพระชนม์ คุโรดะ ผู้ครองบัลลังก์ก่อนหน้าไทโก มาริโกะนั้นเป็นสะใภ้ของ โทดะ ฮิโรมัตสึ (Tokuma Nishioka) ซึ่งฮิโรมัตสึก็คือนายพลของโทรานางะอีกที

ด้านโทรานางะ หลังโดนภาคีไดเมียวกล่าวหาว่าทรยศก็ถูกกักตัวอยู่ในปราสาทโอซากา แต่หลังได้ทราบข่าวเรือฝรั่งเกยตื้นก็มอบหมายให้ฮิโรมัตสึไปยังจังหวัดอาจิโระแทนตน ซึ่งนั่นก็ทำให้คนดูได้พบกับ ยาบูชิเกะ (Tadanobu Asano จากหนังเรื่อง ‘Battleship’ และ ‘Thor: Raknarok’) ผู้ปกครองจังหวัดอุซิในภูมิภาคคันโต ผู้ที่มองว่าโทรานางะคงไม่รอดแน่ เขาจึงยืดปืนและทรัพย์สินจากเรือสำเภาของแบล็กธอร์นไว้ แต่ก็มาถูกฮิโรมัตสึยึดไปอีกต่อนึง

สิ่งหนึ่งที่เราได้รู้ก็คือ แบล็กธอร์นนั้นเป็นพวกโปรเตสแตนต์ที่ไม่ถูกกับพวกคาทอลิก ในเรื่องนี้เขาจึงมักมีเรื่องกับคนต่างนิกาย อีกทั้งคนขาวและชาวญี่ปุ่นนั้นล้วนเป็นคาทอลิกทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่มาริโกะที่พูดภาษาโปรตุเกสได้จนกลายเป็นล่ามหญิง โทรานางะคาดหมายว่า จอห์น แบล็กธอร์น อาจเป็นผู้พลิกผันสถานการณ์ให้กับเขาได้ รู้พื้นฐานไว้ประมาณนี้ก็เพียงพอจะติดตามเรื่องราวในตอนถัดๆ มาได้ประมาณหนึ่ง

โปรดักชันยิ่งใหญ่ ถ่ายทำสวยงาม

ด้วยพล็อตที่เล่าถึงคนขาวที่เข้าไปแทรกตัวอยู่ในสังคมและการปกครองของญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่พอจะเห็นก็คือ การให้ตัวเอกอย่างโทรานางะที่เป็นคนของตระกูลทรงอิทธิพลในญี่ปุ่นมายาวนาน แต่ตัวเขาเองกลับไม่แสดงออกถึงความทะเยอทะยานในอันที่ต้องก้าวขึ้นสู่งตำแหน่งสูงสุดอย่าง ‘โชกุน’ เป็นอีกครั้งที่ได้ดูหนังหรือซีรีส์ที่ว่าด้วย คนผู้ไม่คาดหวังในตำแหน่งยิ่งใหญ่แต่ชะตาผลักให้เขาต้องเป็น

ทั้งเรื่องราวในนั้นก็ยังระบุด้วยว่า ดินแดนญี่ปุ่นถูกใช้เป็นพื้นที่ยึดครองของพวกโปรตุเกสและสเปน โดยมีศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกเป็นกลอุบายสำคัญ ความจริงที่ญี่ปุ่นไม่เคยรู้และมันจะขยายตัวกลายเป็นสงครามในไม่ช้า

เมื่อได้เปิดดูก็พบว่า มันมีความเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ โปรดักชันยิ่งใหญ่ เล่าเรื่องการแย่งชิงอำนาจ แต่แตกต่างตรงที่มันเล่าเรื่องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง และเกิดขึ้นในญี่ปุ่นยุคก่อนเก่า ด้วยโปรดักชันอเมริกา ลักษณะของการถ่ายทำมันจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของซีรีส์ตะวันตก แต่ทัศนียภาพและฉากหลังล้วนเป็นตะวันออก แม้ส่วนใหญ่จะถ่ายทำกันในแคนาดา

ซีรีส์เรื่องนี้จะเริ่มปูเรื่องที่ 1-2 ตอนแรก จากนั้นก็จะทวีความสนุกขึ้นด้วยสถานการณ์ที่พาระทึกและลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร เพราะดูท่าแล้ว อิชิโดะและบรรดาอุปราชคริสเตียนทั้งหลายก็เหี้ยนกะหือรือที่จะปลิดชีวิตของชายที่พวกเขาเรียกว่าเป็น ‘คนเถื่อน’ อย่าง จอห์น แบล็กธอร์น เสียเหลือเกิน เช่นเดียวกับชีวิตของ โยชิอิ โทรานางะ อุปราชคนสำคัญ

ถ้าศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมมา ก็จะพบว่ามันสร้างมาจากเรื่องราวจริงของนักรบซามูไรชาวตะวันตกคนแรกบนดินแดนญี่ปุ่น และเล่าเรื่องราวของประเทศที่กำลังจะกลับไปสู่ยุคแห่งระบบโชกุนอีกครั้ง ฉะนั้นก็คาดเดากันได้ว่าในบั้นปลาย เราจะได้เห็นตัวละครนำของเรื่องก้าวไปมีตำแหน่งใด แต่ระหว่างทางนี่แหละ ที่เราจะได้ติดตามว่าเส้นทางของพวกเขาเต็มไปด้วยขวากหนาม สงครามการรบรา การแย่งชิงอำนาจ ท่ามกลางภัยคุกคามของพวกตะวันตกที่หมายครอบครองดินแดนญี่ปุ่น

ซึ่งยิ่งดูจะยิ่งพบกับโปรดักชั่นอันยิ่งใหญ่และเรื่องราวที่สนุกมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์