รีวิวซีรีส์ American Born Chinese | เมื่อเพื่อนผมเป็นบุตรของเทพเจ้า

ทุกวันนี้ มีคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียปะปนอยู่ในอเมริกามากมาย แม้เราไม่อาจจะพบเจอได้ด้วยตนเอง เพราะไม่มีปัญญาบินไปเที่ยวหรืออยู่อาศัยในอเมริกา แต่ก็สามารถสัมผัสกับชีวิตของพวกเขาได้บ้างจากหนังและซีรีส์ ล่าสุด ก็มีซีรีส์ออริจินัลในดิสนีย์พลัสเพิ่มเข้ามาอีกเรื่อง ชื่ออย่างบ่งบอก ‘American Born Chinese’ มันต้องเล่าเรื่องคนอเมริกันที่มีเชื้อสาวจีนแน่ๆ แต่ทว่า ความจริงมันเล่ามากกว่านั้นน่ะสิ

มันคือซีรีส์วัยรุ่นแนว Coming-of-age ที่ผสมผสานลีลากังฟูเข้าไป ทำให้มันเป็นซีรีส์แอ็กชันที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชียอย่างเต็มเปี่ยม และมันสร้างจากกราฟิกโนเวลในชื่อเดียวกันที่ถูกเรียกว่าเป็น genre-hopping graphic novel ผลงานของ Gene Luen Yang ซีรีส์เรื่องนี้สร้างโดย Kelvin Yu คนที่เป็นทั้งนักแสดง และผู้อยู่เบื้องหลังงานการ์ตูนซีรีส์อย่าง ‘Bob’s Burgers’ และ ‘Central Park’

เอาล่ะ มันคงถึงเวลาแล้ว ที่เราจะพูดถึงออริจินัลซีรีส์เรื่องนี้กันอย่างเต็มๆ ซะที

เรื่องย่อซีรีส์ ‘American Born Chinese’

ซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวของ จิน หวัง (Ben Wang) เด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกันเชื้อสายจีนคนหนึ่ง ที่เรียนอยู่ในระดับไฮสคูล ท่ามกลางนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติร่วมสถาบัน แต่ก็มีเพียง อนุช (Mahi Alam) เด็กหนุ่มเชื้อแขกที่เขาพอจะเรียกว่าเพื่อนได้ แต่ก็ง่วนอยู่คอสเพลย์และยังโกรธเขาในบางสิ่งอยู่ เมื่อวันเปิดเทอมมาถึง เขารู้สึกถูกชะตากับ อมิเลีย (Sydney Taylor) เด็กสาวชาวอเมริกันที่ดูเป็นมิตรมากกว่าเด็กเมกันทั่วไป เธอทำให้ชีวิตที่แสนน่าเบื่อของเด็กเชื้อสายเอเชียอย่างเขา ดูมีสีสันขึ้นมา

แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับเพื่อนคนใหม่อีกคน เว่ยเฉิน (Jimmy Liu จากซีรีส์จีน ‘We Best Love’)​ นักเรียนใหม่ที่ย้ายมาจากจีนเช่นเดียวกัน เหมือนจะเป็นเด็กธรรมดา แต่ที่แท้จริงเป็นบุตรชายของเทพเจ้า มีพลังเหนือมนุษย์ แถมยังพาความวุ่นวายยุ่งเหยิงมาให้กับชีวิตของจินอีกต่างหาก

จากนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับโลกถล่ม เพราะเขาต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับการต่อสู้ของเหล่าเทพเจ้าในตำนานของจีนอย่างไม่ทันตั้งตัว

รีวิวซีรีส์ ‘American Born Chinese’

เอาจริงๆ คาแรกเตอร์ของ จิน หวัง ก็ดูเข้าถึงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เขาคือเด็กหนุ่มเชื้อสายจีนที่รู้สึกยุ่งยากในการปรับตัว และพบว่ามีแค่ไม่กี่คนที่ยอมรับเขาในฐานะเพื่อน แต่เมื่อเขาได้พบกับคนที่มีความจีนในตัวเหมือนกัน ก็เหมือนเขาจะได้เจอคนที่พูดภาษาเดียวกันเขาสักที แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ เพื่อนที่ชื่อเว่ยเฉินของเขานี้ เป็นลูกชายของเทพเจ้าของชาวจีนที่ชื่อว่า หงอคง และเขาขโมยกระบองของพ่อมา ซึ่งส่งผลให้มีเทพเจ้าอีกหลายองค์ตามมาช่วงชิง ก่อเกิดเป็นสงครามกังฟูบนโลกมนุษย์

ผนวกตำนานเทพเจ้าจีนเข้ากับซีรีส์วัยรุ่นจีนในอเมริกา

เรื่องราวของอาณาจักรสวรรค์ที่เง็กเซียนฮ่องเต้ที่ปกครองอย่างสงบสุขมานาน ที่กำลังวุ่นวายเมื่อปีศาจกระทิงเตรียมจะก่อการกบฏ และกุญแจสำคัญที่จะหยุดยั้งเขาได้คือกระบองวิเศษของหงอคง ราชาวานรผู้แปลงกายได้ 72 ร่าง แต่มันกลับถูกขโมยไป หัวขโมยไม่ใช่ใคร แต่เป็น ซุนเว่ยเฉิน ลูกชายของเขานั่นเอง

เขาก้าวลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ด้วยจุดมุ่งหมายค้นหาคัมภีร์ม้วนที่สี่ ที่เป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น เป็นเพราะนกกระเรียนในความฝันของเขา บอกว่าเด็กหนุ่มบนโลกจะนำทางไปพบกับคัมภีร์เล่มนั้นได้ แต่การที่เขาขโมยกระบองเหล็กมา ก็ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องตามลงมาด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะมันได้พาให้เหล่าเทพเจ้าและปีศาจตามมารังควานเขาด้วยเช่นกัน

งานนี้ เลยได้เจอเทพเจ้าในตำนานจีนหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าแม่กวนอิม (Michelle Yeoh จากหนังเรื่อง ‘Everything Everywhere All at Once’) เทพแห่งความเมตตาที่คอยช่วยเหลือจินอยู่, ราชาวานร ซุนหงอคง (Daniel Wu จากหนังเรื่อง ‘Tomb Raider’) พ่อของจินที่ถูกลูกตัวเองขโมยกระบองวิเศษไป, ตือโป๊ยก่าย, จี้กง และแน่นอน ปีศาจกระทิง หนิวม่อหวัง (Leonard Wu จากหนังเรื่อง ‘Alita: Battle Angel’) กับเรื่องราวที่เล่าสลับกันไปมาระหว่างโลกมนุษย์และแดนสวรรค์ และบทพูดที่เป็นภาษาจีนไปซะเกือบครึ่ง

สะท้อนชีวิตวัยรุ่นจีน/เอเชียในอเมริกา

ซีรีส์บอกเล่าถึงความยุ่งยากและน่ารำคาญใจของการเป็นคนหน้าจีนท่ามกลางสายตาของคนอเมริกัน มันทำให้เขาคิดว่าตนต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่นั่น เขาเลยต้องไม่ทำตัวโดดเด่น ไม่เป็นตัวของตัวเองแต่ก็มีหลายอย่างที่น่าหงุดหงิด บรรดาครูที่ไม่เคยเรียกชื่อจีนได้ถูกเลยสักครั้ง การต้องพยายามทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว หรือการเข้าร่วมทีมฟุตบอล

ขณะเดียวกัน ซีรีส์ก็บอกเล่าถึงการที่คนจีนถูกล้อเลียนในคลิปบนโชเชียลราวกับเป็นตัวตลก เล่าไปถึงซิทคอมที่เคยได้รับนิยมในอดีต ที่มีตัวละครคนจีนที่มีแต่มุกตลกเจ็บตัวเป็นประจำ เขาคือดาราที่ชื่อ เฟรดดี้ หว่อง (Ke Huy Quan จากหนังเรื่อง ‘Everything Everywhere All at Once’) ที่ตอนแรกก็เหมือนจะมาแค่เป็นตัวละครในซิทคอม แต่ก็พบว่า เขามีบทบาทในชีวิตจริงด้วย แถมได้พูดอะไรที่จริงจังและทัชใจอย่างมาก

เมื่อพูดถึงบ้านและครอบครัวของจิน เขามีพ่อที่ทำงานออฟฟิศแต่กำลังประสบปัญหาความก้าวหน้าในอาชีพ กลับบ้านด้วยอารมณ์เคร่งเครียด และมักทะเลาะกับแม่อยู่บ่อยๆ แต่แม่ที่เป็นแม่บ้านก็ดูจะไม่เคร่งครัดอะไรกับลูกมากนัก ตรงนี้ ทำให้มันกลายเป็นซีรีส์ที่แฝงถึงทัศนคติในการเลี้ยงดูลูกของคนจีนไปในตัวด้วย

ขณะเดียวกัน การที่เขาได้พบกับเว่ยเฉินผู้เป็นคนจีนเหมือนกัน แม้ว่าจินจะพยายามปฏิเสธเขาตลอดมา แต่มันก็เหมือนกับการปฏิเสธตัวตนของตัวเอง ยังไงเว่ยเฉินก็มีทั้งใบหน้า วัฒนธรรมและภาษาที่ใกล้เคียงกับเขา มันคงหลีกหนีกันไม่พ้นอยู่แล้ว แม้ในใจจิน จะอยากเป็นคนธรรมดา แต่โชคชะตาชักพาให้เขาต้องกลายเป็นคนสำคัญ เมื่อเว่ยเฉินมองว่าจินคือผู้นำทางเขาไปสู่ม้วนคัมภีร์เล่มที่สี่ แม้มันจะเป็นเพียงความฝันของเว่ยเฉินก็ตามที

ความรู้สึกหลังรับชม ‘อเมริกัน บอร์น ไชนีส’

มันเป็นซีรีส์ที่ถูกโปรโมตว่ามี Ke Huy Quan แสดงนำร่วมกับ Michelle Yeoh และ Daniel Wu แต่เอาเข้าจริง ซีรีส์มันโฟกัสที่ชีวิตของสองหนุ่มจีนที่ชะตาชักพาให้มาเป็นเพื่อนกัน หนึ่งเป็นเด็กหนุ่มที่พ่อแม่เป็นจีนแต่ย้ายมาอยู่อเมริกา อีกหนุ่มเป็นลูกชายของราชาวานรบนสวรรค์ที่ลงมายังโลกเพื่อค้นหาคัมภีร์ม้วนที่สี่ ทำให้แท้จริงมันนำโดย Ben Wang และ Jimmy Liu เสียมากกว่า

มันหยิบจับเอาตำนานเทพสวรรค์ของจีนมาเบลนด์รวมเข้ากับเรื่องของวัยรุ่นจีนที่ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา พาให้คนทั่วไปได้รู้จักตำนานพวกนั้น และพาให้คนที่รู้จักดีอยู่แล้วได้พบเจอกับการเล่าตีความในสไตล์ใหม่ๆ ทุกตอน (ที่มีความยาวไม่เกินตอนละ 40 นาที) เราจะได้พบเจอกับพาร์ทการต่อสู้สไตล์กังฟูที่ดูน่าตื่นเต้น เท่าที่เห็น รู้สึกได้ว่าการต่อสู้พวกเหล่าเทพเจ้าต่างๆ ไม่ค่อยจะมีผลกระทบอะไรต่อโลกที่พวกเขาอยู่ ผู้คนบนโลกนี้ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

บทหนังอาจดูไม่หนักแน่น มีความเป็นซีรีส์วัยรุ่นและครอบครัวค่อนข้างสูง มีบางช่วงที่การลำดับดูกาวๆ ไปบ้าง แต่ขมวดปมได้เข้มข้นในตอนที่ 8 ซึ่งถือว่าทำได้ค่อนข้างดี มันมีมุมคิดที่น่าสนใจ จนกลายเป็นตอนที่ได้รับเรตติ้งสูงสุดในเว็บ IMDb พร้อมกับเรื่องบางอย่างที่ยังค้างคา ราวกับว่าจะต้องได้พบคำตอบในซีซันถัดไป

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์