ภาพยนตร์

รีวิวหนัง Paris, Je t’aime | 18 เรื่องรักในมหานครปารีส

ไปดูมาเรียบร้อยแล้วครับ กับภาพยนตร์เรื่อง ‘Paris, Je t’aime’ หรือในชื่อไทยว่า ปารีส เฌอแตม : มหานครแห่ง “รัก” ภาพยนตร์ที่รวมเรื่องรักที่เล่าโดยผู้กำกับมีชื่อจากหลากหลายชาติ แต่เล่าสิ่งเดียวกัน คือ ความรัก และ มหานครปารีส

ภาพจากหนัง Paris, Je t'aime
‘Paris, Je t’aime’ บอกเล่า 18 เรื่องรักในมหานครปารีส

ผมเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศของโรงหนังเก่าๆ แต่อลังการอย่าง สกาลา อีกครั้ง ไม่แน่ใจว่า เป็นโรงเดียวหรือเปล่าที่จัดฉายหนังเรื่องนี้ในประเทศไทย แต่ก็ถือว่าเป็นโรงที่ผมไปถึงง่ายที่สุดละกัน หน้าโรงแสดงข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องย่อยๆ แต่ละเรื่องไว้พร้อม ได้รับความสนใจพอสมควร เลือกอ่านเก็บข้อมูลก่อนเข้าไปดูจริงได้ด้วย

18 เรื่อง เกิดจากผลงานของผู้กำกับกว่า 20 ชีวิต เล่าเรื่องผ่านมุมมองของตน และในแนวทางของตน มันจึงออกมาหลากหลายแนว ทั้งสุข เศร้า ขำขัน แม้กระทั่งแฟนตาซี ระหว่างเพศชาย-หญิง รวมไปถึงระหว่างชายกับชายด้วย โดยใช้ฉากหลังเป็นย่านต่างๆ ในกรุงปารีส เหตุการณ์เรื่องรักเกิดขึ้นในทุกยาม ทั้งเช้าตรู่ กลางวัน กลางคืน ย่ำค่ำ และ …กลางดึก

รายชื่อผู้กำกับนั้น ผมร่ายเรียงไปแล้วเมื่อตอนที่แล้ว วันนี้ ผมคงเลือกเล่าเรื่องบางเรื่องผมชอบละกันครับ


หนัง ‘Paris, Je t’aime’ เปิดด้วยภาพของมหานครปารีส ก่อนเข้าสู่เรื่องแรก อันเป็นผลงานจากผู้กำกับ Bruno Podalydes เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เอาแต่พร่ำบ่นถึงชีวิตที่ไม่เอาไหนของตัวเอง จนมาพบว่า ผู้หญิงคนหนึ่งมาล้มลงข้างรถของตัวเอง

ก่อนจะเดินไปถึงเรื่องถัดมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมชอบ ‘Quais de Seine’ ของ Gurinder Chadha เรื่องของชายหนุ่มที่พบกับหญิงสาวมุสลิม ในระหว่างที่เพื่อนๆ ของเขาอีก 2 นายกำลังทำตัวเป็นสี่แยกปากหมาแซวสาวๆ ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างศาสนาไม่ได้โดนอะไรผมมากนัก ที่ผมสนคือ นางเอกของเรื่องหน้าตาคมมากๆ (ถูกสเป็ก ว่างั้นเถอะ) และบทพูดก็ดีมากๆ ด้วย

แฟนของผมดูท่าจะประทับใจเรื่อง ‘Loin du 16eme’ ของ Walter Salles และ Daniela Thomas อยู่ไม่น้อย เรื่องราวโดนๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องเอาลูกน้อยของตนไปฝากไว้กับเนอร์สเซอรี่ เธอกล่อมลูกก่อนจากมา เพื่อที่จะเดินทางไปเลี้ยงและกล่อมลูกของคนที่จ้างเธอด้วยเพลงเดียวกัน โดนดีเหมือนกันนะ

Rufus Sewell and Emily Mortimer ในหนัง Paris, Je t'aime
Rufus Sewell and Emily Mortimer ในหนัง ‘Paris, Je t’aime’

Tour Eiffel ของ Sylvain Chomet เป็นอีกเรื่องที่ผมประทับใจ เรื่องรักของนายตลกใบ้คนหนึ่ง เขาแสดงได้น่ารักน่าหยิกมากๆ ผมเชื่อว่า คุณดูแล้วต้องชอบเหมือนผมครับ อ้อ ผู้กำกับคนนี้ คือเจ้าของผลงานอย่าง ‘Belleville Rendezvous’ นั่นเอง

เรื่อง ‘Place des fetes’ ของ Oliver Schmitz กลับเป็นหนังรักในมุมเศร้าที่โดนใจผมที่สุดไปครับ เล่าเรื่องผู้ชายผิวดำคนหนึ่งที่ชะตาขาด เพราะหลงรักหญิงผิวดำอีกคนหนึ่งที่จำหน้าเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

อีกเรื่องที่โดนใจมากๆ ก็คงไม่พ้น ‘Faubourg Saint-Denis’ ของ Tom Tykwer ที่แสดงนำโดยดาราสาวขวัญใจผมอย่าง Natalie Portman หนังเริ่มขึ้น เมื่อมีโทรศัพท์มาถึงชายหนุ่มตาบอด ในสายนั้น ก็คือหญิงสาวที่เป็นแฟนของเขานั่นเอง พอร์ตแมนแสดงเป็นแฟนสาวของเขาผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง หนังเล่าเรื่องราวความรักของทั้งสองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจบลงอย่างโล่งอกคนดู

บางเรื่อง ผมก็ยอมรับว่า ดูไม่รู้เรื่องครับ ไม่รู้ว่าผู้กำกับเขาสื่ออะไรออกมา โดยเฉพาะเรื่องของ Christopher Doyle


ในหนังเรื่องนี้ มี “ไทย” เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยถึง 2 เรื่องด้วย เรื่องแรก Quais de Seine มีสาวคนหนึ่งที่เดินผ่านสามแยกปากหมา ในเรื่องระบุให้รู้ว่าเป็นสาวไทย แต่ดูยังไง้ยังไงก็หน้าไม่ไทยเลยละครับ แถมยกนิ้วกลางให้เสียด้วยสิ

อีกเรื่องก็ของ Christopher Doyle ผู้กำกับและผู้กำกับภาพชื่อดังนั่นแหละ ยำหนังยาว 5 นาทีเสียมันเชียว แต่หาสาระอะไรไม่ค่อยเจอ เรื่องราวของชายอาชีพเซลส์ที่ต้องไปผจญกับสาวๆ เอเชียในย่านไชนาทาวน์ มีเสียงสาวพูดภาษาไทยปะปนมาด้วยครับ “ไม่เป็นไรค่ะ” และ “ฉันรักคุณ” สงสัยอยู่เมืองไทยบ่อย ความเป็นเอเชียเลยมีไทยไปเอี่ยวด้วย


หนังแทรกภาพของมหานครปารีสไปเป็นระยะๆ ในเรื่องย่อยแต่ละเรื่องที่ถ่ายทำกันแบบเน้นๆ ทัศนียภาพกันพอประมาณ พยายามตัดให้รอยต่อระหว่างเรื่องดูดี (ซึ่งก็ทำได้ดีครับ) มาถึงบทสรุปที่หญิงชาวอเมริกัน ที่เขียนบอกเล่าความประทับใจนครปารีสปิดท้าย หลายคนเขียนไว้ว่า ประทับใจ แต่สำหรับผม “เฉยๆ” ก่อนจะตัดเข้าสู่ช่วงรวมภาพการลงเอยของตัวละครจากหลากเรื่องเข้าด้วยกัน

หลังหนังจบ ผู้คนเดินออกจากโรง ส่วนหนึ่งมาหยุดยืนดูหน้าโรง ตรงที่มีแผ่นป้ายที่นำเสนอเรื่องราวทั้ง 18 เรื่องเอาไว้ ผมเองก็มาหยุดยืนดูอีกครั้ง น่าแปลกดีที่เราต้องมาอ่านมาอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งดูมันไป

โดยรวม ถือว่า น่าประทับใจ แต่แน่นอนว่า คงไม่สามารถประทับได้สุดๆ เท่ากับหนังที่เดินเรื่องโดยผู้กำกับคนเดียว และพล็อตเดียวได้ อีกทั้ง คงไม่อาจจะทำให้เข้าใจถึงแก่นแท้ความเป็น “มหานครแห่งรัก” ได้เท่าที่ควรอีกด้วย

ถ้าอยากสัมผัสความเป็น “รักในปารีส” ด้วยตัวเอง ก็ขอเชิญที่ สกาลา นะครับผม

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน

6 คอมเมนต์

  1. ทั้ง 18 ตอน ชอบตอนที่คุณเอามาเป็นภาพประกอบที่สุดค่ะ

  2. ไปร้านเช่าหนังมา เห็นชื่อเรื่องแว้บๆแต่ไม่กล้าเช่า กลัวดูแล้วหลับ แต่พอมาอ่านที่นี่แล้ว น่าลองนะ

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ