ภาพยนตร์รีวิว

รีวิวหนัง Thor: Love and Thunder | ตำนานเล่าขานของ ธอร์ ด้วยรักและอัสนี

ภาคที่สี่ของธอร์ ที่เล่าถึงภารกิจใหม่ปราบวายร้ายกอร์ผู้คิดล้างบางทวยเทพ

แล้วผมก็มีโอกาสได้ดูหนังตระกูลฮีโร่มาร์เวลาด้วยตาของตนเองสักที หนังเรื่อง ‘Thor: Love and Thunder’ ชื่อไทย ‘ธอร์ ด้วยรักและอัสนี’ ภาคนี้เล่าเรื่องราวชีวิตของซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นเทพเจ้า ที่แยกออกมาจากอะเวนเจอร์สคนอื่นๆ และเป็นเรื่องราวของเทพเจ้าสายฟ้าที่ผจญกับวิบากกรรมในแบบเทพๆ

คริส เฮมส์เวิร์ธ กับบทเทพเจ้าสายฟ้า ในหนัง Thor: Love and Thunder
คริส เฮมส์เวิร์ธ กับบทเทพเจ้าสายฟ้า ในหนัง ‘Thor: Love and Thunder’

ยังคงเป็น Taika Waititi ที่นั่งกุมบังเหียนกำกับอีกครั้ง หลังเคยกำกับภาคก่อนอย่าง ‘Thor: Ragnarok’ จนน่าจะรู้แนวทางดีว่าจะทำภาคต่อของหนังฮีโร่เทพเจ้าออกมาในแนวทางไหน ไม่เท่านั้น เขายังควบร่วมเขียนบทและร่วมแสดงด้วยอีก งานนี้ มีตัวละครจะภาคก่อนมาร่วมงาน ร่วมทั้งภาคแรกก็ยังมีมาด้วย

เอาล่ะ แม้จะดูช้ากว่าคนอื่น แต่ก็ได้ดูนะ!


เรื่องย่อหนัง ‘Thor: Love and Thunder’

บุรุษผู้เป็นตำนานไวกิงอวกาศ ที่จริงเขาเป็นเทพเจ้าธอร์ (Chris Hemsworth จากหนังเรื่อง ‘Extraction’, ‘Avengers: Endgame’ และ ’12 Strong’) บุตรแห่งโอดินผู้ที่มีชีวิตระหกระเหินอยู่ในหลายดินแดน ผ่านทั้งความทุกข์ระทมช้ำรัก ขณะเดียวกันก็สูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า จนคิดปลีกตัวออกผจญภัย มาถึงปัจจุบัน เขากลับมามีรูปร่างบึกบึนสมส่วนอีกครา เขาได้รับรู้ว่าตอนนี้กำลังมีวายร้ายตัวใหม่ กอร์ (Christian Bale จากหนังเรื่อง ‘Ford v Ferrari’, ‘The Big Short’ และ ‘The Dark Knight’) ถือกำเนิดขึ้น และมันถูกเรียกขานกันในนาม ‘มือสังหารเทพเจ้า’

เพราะความผิดหวังในเทพเจ้าแท้ๆ เลยที่ทำให้กอร์กลายเป็นตัวร้ายไปเช่นนี้

ตัวอย่างหนัง ‘Thor: Love and Thunder’ [ซับไทย]

เมื่อธอร์เข้ามาปราบตัวร้ายอย่างกอร์ เขาแสวงหาความช่วยเหลือ และเขาก็ได้ ราชาวัลคีรี่ (Tessa Thompson จากหนังเรื่อง ‘Men in Black: International’ และซีรีส์เรื่อง ‘Westworld’) และ คอร์ก (Taika Waititi จากหนังเรื่อง ‘Free Guy’ และ ‘The Suicide Squad’) มาเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์

แล้วเขาก็ได้พบกับเจน ฟอสเตอร์ คนรักเก่าอีกหนในภาพลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่ชื่อ ไมตี้ธอร์ (Natalie Portman จากหนังเรื่อง ‘Annihilation’, ‘Black Swan’ และ ‘Jackie’)


รีวิวหนัง ‘ธอร์ ด้วยรักและอัสนี’

เอาเข้าจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องดูภาคไหนมาก่อน หรือลืมเลือนภาคเก่าไปแล้วก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนะ เพราะด้วยตัวเรื่องเองก็มีลักษณะของการเล่าเป็นตำนานจากอดีตผ่านมาถึงปัจจุบัน เหมือนช่วยเรารำลึกฟื้นอดีตของธอร์ไปด้วยในตัว

ผู้ร้ายในภาคนี้ คือ กอร์ (ที่รับบทโดยอดีตผู้รับบทแบทแมน) ผู้เคยเป็นสาวกของเทพองค์หนึ่ง ทว่าเมื่อเขาต้องทนทุกข์อยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้งจนสูญเสียลูกสาวสุดที่รักไปโดยไร้ความสนใจใยดีจากเทพที่เขาเฝ้าอ้อนวอน สุดท้าย เมื่อเขาได้รับ ‘ดาบเนโครซอร์ด’ สุดยอดอาวุธที่สามารถสังหารเทพได้ เขาจึงขอปฏิญาณตนไว้ว่า จะขอล้างบางทวยเทพให้สิ้นซาก

Christian Bale กับบท กอร์ ในหนัง ในหนัง ธอร์ ด้วยรักและอัสนี
Christian Bale กับบท กอร์ ในหนัง ‘ธอร์ ด้วยรักและอัสนี’

ขณะที่ ธอร์เองแม้เป็นเทพแต่ก็เผชิญกับวิกฤติชีวิตมากมายหลายหลาก ทั้งชีวิตการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ทั้งเดี่ยวทั้งร่วมมือกับอะเวนเจอร์ส ไหนจะมีความรักกับมนุษย์แต่ก็ไปไม่รอดแถมยังติดค้างอยู่ในใจ สูญเสียไปหลายทั้งพี่สาว น้องชาย คนสนิท ไหนจะพ่ออีก ปลีกวิเวกไปอยู่เดี่ยวมั่ง ขุนตัวเองจนอ้วนพีก็แล้วมั่ง สุดท้ายกลับมาใหม่ ออกกำลังจนหุ่นแซ่บเหมือนเดิม พร้อมอาวุธคู่ใจอย่างขวานเล่มโตที่ชื่อ ‘Stormbreaker’ มาทำภารกิจใหม่ ปราบปรามกอร์ นักสังหารเทพเจ้า

รวบรวมพลพรรคที่รู้ใจว่า ราชาวัลคีรี่, คอร์ก และเหล่า Guardians of the Galaxy แถมยังได้ เจน ฟอสเตอร์ หวานใจที่เคยห่างกันหลายปีกลับมาใหม่ด้วยลุคชวนเซอร์ไพรซ์ เมื่อเธอกลายเป็น ไมตี้ธอร์ แถมยังใช้ค้อนโยเนียร์ อาวุธคู่กายชิ้นเก่าที่แตกไปแล้วเสียด้วยอีก งานนี้คือ ‘ถ่านไฟเก่า’ ล้วนๆ เลย

เมื่อได้องค์ประกอบครบสูตรแล้ว หนังก็เริ่มฟาดไม่ยั้งด้วยการเดินเรื่องสุดเร้าใจ สลับกันไปกับมุกกวนๆ ตามแบบฉบับของ Taika Waititi เลยทำให้ ‘Thor: Love and Thunder’ กลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูเอามัน ดูเอาบันเทิง ได้ดีประมาณหนึ่ง แม้อะไรบางอย่างมันจะง่ายเกินไปบ้าง นัยว่าตัดบางอย่างไปเพื่อเล่าเรื่องที่แฟนหนังต้องการอะไรประมาณนั้น

นาตาลี พอร์ตแมน และ เทซซ่า ทอมป์สัน ในหนังเทพเจ้าสายฟ้าภาคที่สี่
นาตาลี พอร์ตแมน และ เทซซ่า ทอมป์สัน ในหนังเทพเจ้าสายฟ้าภาคที่สี่

โดยรวมของหนังมันให้ความบันเทิงเต็มที่ในแบบของมันนั่นแหละครับ เนื้อในของหนังมีบางจุดที่นับว่าน่าสนใจ

การแก้แค้นที่เกิดจากการไม่ถูกใส่ใจของผู้นำต่อผู้น้อยที่กำลังทุกข์ยาก

แง่มุมนี้ อาจอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงก็เคยเกิดขึ้น แทนที่ด้วยตัวละครตัวเดียวที่ต้องลำบากตรากตรำอยู่กลางทะเลทราย ขาดน้ำขาดอาหารจนลูกสาวตาย สุดท้าย ความมุ่งหมายแก้แค้นทำให้ดาบสีดำเลือกเขา และกอร์ก็เลือกนำมันไปแก้แค้นล้างบางเหล่าเทพเจ้าที่ไม่ใยดีทำให้เขาต้องสูญเสียสิ่งที่รัก

ผู้นำที่เพิกเฉยต่อคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าตน

ข้อนี้ คงเห็นชัดในตัวละครอย่างเทพเจ้าซุส (ที่แสดงโดย Russell Crowe) เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือเทพอื่น แต่กลับไม่มองเห็นว่า เทพหลายตนต้องล้มตายเพราะการล้างบางของกอร์ มองเห็นเป็นเพียงการสูญเสียเทพชั้นล่างไม่กี่ตน ซึ่งอันนี้ เทพอย่างธอร์รู้สึกทนไม่ได้ [คนดูอย่างเราก็รู้สึกไม่ไหวกับซุสเหมือนกัน]

ความปราณีที่มอบโยเนียร์ให้ เจน ฟอสเตอร์ ทำให้เธอได้เป็นไมตี้ธอร์

ในเรื่องนี้ เจน กำลังป่วยหนักโดยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่เธอได้รับพลังจากค้อนโยเนียร์ที่แหลกไปแล้วกลับผสานรวมเข้ามาใหม่ ทำให้มนุษย์ที่เหลือเวลาชีวิตอีกไม่มากกลับกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่เทียบเท่ากับเทพตนหนึ่ง แถมยังได้กลับไปเจอหน้าคนเคยรักเพื่อจบที่ยังติดค้างไว้อีกด้วย

ธอร์กับความเป็นผู้ใหญ่ไปอีกขั้น

หลังผ่านประสบการณ์มาโชกโชนทั้งดีและร้าย เคยเสียศูนย์จนถึงวันกลับมาใหม่ เขากลายเป็นฮีโร่ที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น นอกเหนือจากการยอมปราบวายร้ายเพื่อเทพทั้งมวล เขายังยินดีแบ่งพลังของตนให้กับเหล่าเด็กน้อยที่ไร้พลังแต่มีความกล้า ให้ได้ร่วมรบในสมรภูมิในอันสำคัญยิ่ง นับว่าเป็นการเขียนให้กับธอร์ได้ดีไม่หยอกเลยทีเดียว

โปสเตอร์หนัง Thor: Love and Thunder ธอร์ ด้วยรักและอัสนี
โปสเตอร์หนัง ‘Thor: Love and Thunder ธอร์ ด้วยรักและอัสนี’

ส่วนตัวนั้น นายแพทมองว่า มันก็เป็นหนังธอร์ในแบบที่คุ้นเคยมาจากภาคก่อน นำเสนอแง่มุมจากเหตุการณ์จริงมาสร้างเป็นพล็อตได้ค่อนข้างดี เสริมด้วยมุกพาขำไปได้ตลอดเรื่อง ชอบใจในตัวเจ้าแพะสองตัวที่ถูกจับยัดมาในเรื่อง อาการร้องโหวกเหวกของมันกลายเป็นความฮาไปได้ซะงั้น บวกกับการใส่บุคลิกความกวนกึ่งขี้น้อยใจของค้อนสตอร์มเบรกเกอร์ทำให้อมยิ้มไม่หยุด ผสานกับเพลงประกอบแบบร็อกที่ดูเข้ากับภาพลักษณ์ของเทพเจ้าสายฟ้า แต่ก็ยังขัดใจอยู่บ้าง กับบทบางส่วนที่ดูจงใจและพาให้รู้สึกอิหยังวะ หรืออะไรที่ฉับๆ และดูจะง่ายดายไปเสียหมด จนแม้จะเป็นหนังที่ดูแล้วบันเทิงดี แต่ก็จบไปแบบไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนัก

และก็เหมือนเดิมหนังปิดท้ายด้วย 2 ฉากแถมที่มาตอนระหว่างและท้ายเครดิต


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Thor: Love and Thunder / ธอร์ ด้วยรักและอัสนี
กำกับTaika Waititi
เขียนบทTaika Waititi (story), Jennifer Kaytin Robinson
แสดงนำChris Hemsworth, Natalie Portman, Christian Bale, Tessa Thompson/เทซซ่า ทอมป์สัน, Taika Waititi/ไทก้า ไวตีติ, Russell Crowe
แนว/ประเภทAction, Adventure, Comedy, Fantasy, Romance, Sci-Fi
เรทMPAA/u13+
ความยาว118 นาที
ปี2022
สัญชาติสหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย6 กรกฎาคม 2022
ผลิต/จัดจำหน่ายMarvel Studios, Fox Studios Australia, Walt Disney Pictures

ธอร์ ด้วยรักและอัสนี

พล็อตและบท - 7.1
การแสดง - 7.3
การดำเนินเรื่อง - 7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.4
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.3

7.2

Thor: Love and Thunder

เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ มีภาคแยกที่สี่แล้วนะ Thor: Love and Thunder ธอร์ ด้วยรักและอัสนี ที่เล่าถึงภารกิจใหม่ปราบวายร้ายกอร์ผู้คิดล้างบางทวยเทพ หนังที่มีบทเขียนไว้น่าสนใจหลายมุม แต่รวมๆ แล้ว Taika เน้นใช้ไปกับมุกตลกเสียมาก ทำให้แง่มุมดีดูจะถูกลดทอนความสำคัญลงไป กระนั้น คนดูก็คงได้ความบันเทิงแบบฉาบฉวยระหว่างดูไปเยอะพอสมควร

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ