รีวิวหนัง Aquaman อควาแมน เจ้าสมุทร | ศึกสายเลือดแห่งแอตแลนติส

โปรโมตกันมานานเนิ่นเหลือเกินสำหรับภาคแยกของมหาบุรุษแห่งมหาสมุทรแอตแลนติกผู้นี้ ซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจคนใหม่ของชนเผ่าผู้คลั่งไคล้ผู้มีพลังพิเศษ หลังจากมีมาหมดแล้ว ทั้งบนดิน บนสวรรค์ คราวนี้ได้เวลาลงน้ำไปทำความรู้จักกับภาคกำเนิดของฮีโร่อีกคน ‘Aquaman’ หรือชื่อไทยว่า ‘อควาแมน เจ้าสมุทร’ นั่นเอง

ผลงานการกำกับของ James Wan ชื่อคุ้นๆ มั้ยครับ ก็คนที่สร้างชื่อมาจาก ‘Saw’, ‘Insidious’ และ ‘The Conjuring’ นั่นแหละ แต่วันนี้ เขาได้จับงานกำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่

ได้เวลามาพิสูจน์ว่างานของเจ้าพ่อหนังสยองขวัญ มันจะออกมายังไง

เรื่องย่อหนัง ‘Aquaman’

หนังพาเราย้อนกลับไปทำความรู้จักกับการกำเนิดขึ้นของซูเปอร์ฮีโร่ผู้มีพลังสูงส่ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในน้ำ เขาคือ อควาแมน ผู้ซึ่งเป็นลูกครึ่งของคนบกกับชาวแอตแลนติส แม่ของเขาเป็นราชินีที่ถูกขับไล่เพราะไปรักกับมนุษย์

แม่ของเขา แอตแลนนา (Nicole Kidman จาก ‘The Beguiled’, ‘The Killing of a Sacred Deer’ และ ‘Australia’) ทว่าพ่อเป็นเพียงชายผู้เฝ้าประภาคาร อาร์เธอร์ (Jason Momoa จากซีรีส์ ‘Game of Thrones’) เขาเติบโตมาพร้อมพลังมหาศาล แต่แอตแลนติส ดินแดนใต้น้ำมีประกอบไปด้วยเจ็ดชนเผ่านี้ยังคงรังควานเขาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด ก็ต้องมีเหตุให้กลับไปเพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่มันเคยถูกบอกเล่าไว้ ถึงตำนานของชายผู้ที่จะกอบกู้โลกแห่งแผ่นดินและผืนน้ำ

ความเป็นเลือดผสมที่มักถูกสังคมรังเกียจ จะสร้างตำนานและสร้างสมานฉันท์ให้เกิดกับสองดินแดนได้หรือไม่

รีวิวหนัง ‘เจ้าสมุทร อควาแมน’

หนังภาคกำเนิดที่ดูท่าจะยาว เพราะเวลาของหนังคือ 143 นาที แต่ไม่ได้แปลว่ามันจะเยิ่นเย้อเล่าปูเรื่องยาวมากมายขนาดนั้น มีแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้นที่บอกว่า กำเนิดของชายผู้นี้เป็นมายังไง ใครคือผู้ให้กำเนิด แต่หลังจากนั้น ก็ได้เวลาของฉากแอ็คชั่นมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลัง พร้อมกับเรื่องราวที่พร้อมจะพลิกให้อึ้งได้พอประมาณ

ถ้าจะมองโดยรวมไปแล้ว เรื่องในภาคกำเนิด ‘อควาแมน’ มันก็คือศึกสายเลือดของชนชั้นราชา ไม่ต่างอะไรกับที่เกิดในแอสการ์ด แต่แค่ย้ายมาอยู่ใต้น้ำ ณ อาณาจักรที่เรียกว่า แอตแลนติส เท่านั้นเอง

มันมีส่วนผสมของหลายสิ่งที่ดูไม่เข้ากัน แต่ถูกหยิบมาเขย่ารวมเข้าไว้ด้วยกันเหมือนกันนะหนังเรื่องนี้ เรื่องราวที่ดูไม่ยากเย็น เข้าใจง่าย แต่มีพลิกผัน มีอะไรที่ซ่อนเร้นอยู่ก่อนถูกเปิดเผยภายหลัง ผสานกับฉากบู๊ที่มาอย่างจัดเต็ม เทคนิคพิเศษสวยงามตระการตาโดยเฉพาะฉากใต้น้ำ ดินแดนและชนเผ่าต่างๆ เต็มไปด้วยสีสัน ซีจีของงานใต้น้ำถือว่าทำมาเนียนทีเดียว

แตกต่างกับซีจีบนบกอย่างเห็นได้ชัด

เพราะรู้สึกได้ถึงความไม่เนียนสวยของเทคนิคพิเศษในฉากการต่อสู้ที่เห็นชัดเกินไป

ถ้าพูดถึงตัวละคร ‘อควาแมน’ ไม่เล่าเรื่องอย่างลวกๆ พยายามใส่ที่มาที่ไปของการกระทำของตัวละครทั้งดีและร้ายเข้ามาเพื่อให้คนดูเข้าใจ หลายครั้งที่เหตุผลของตัวละครดูน่าขัดใจคนดูอย่างผม กับการเลือกจะแก้แค้นด้วยเหตุผลที่ทำให้ดูไม่น่าชอบใจนัก

บทพูดของตัวละครก็ดูเท่แต่ก็ดูแปลกๆ ในความรู้สึกของผม ทำให้รู้สึกว่าหนังไม่ต่างกับการได้ดูเหล่าเทพคุยกัน มันต้องประดิษฐ์ๆ อะไรประมาณนี้

มุมกล้องก็เป็นอีกส่วน หลายฉากทำได้ดี โดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่น ขับยานหรือรบพุ่ง แต่บางฉากก็ดูแปลกๆ ไปหน่อย ส่วนการใส่ดนตรีประกอบ ผมชอบในความเป็นดนตรีอิเล็กทรอนิก มันดูล้ำๆ และเข้ากันได้ดีกับฉากที่อยู่ในน้ำ แต่ก็สับสนตรงที่บางฉากที่ไร้บทพูดแต่เอาเพลงร้องมาจับใส่ นึกว่ากำลังดูหนังวัยรุ่นกันอยู่

ติมาเยอะ อาจจะดูว่าผมไม่ชอบใจหนังเรื่องนี้ใช่มั้ยครับ แต่ความจริง ‘อควาแมน เจ้าสมุทร’ มีอะไรดีๆ อยู่มากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เร้าใจ ดูง่าย และมีแง่มุมให้พลิก งานซีจีเมืองใต้น้ำและฉากต่อสู้ที่ตื่นตาเร้าใจ เคล้าไปกับดนตรีที่เข้ากันดี ที่พิเศษกว่านั้นคือ

การมีนางเอกเป็น Amber Heard (จากหนังเรื่อง ‘Justice League’, ‘Magic Mike XXL’ และ ‘Machete Kills’) ที่สวมบทบาทเป็น เจ้าหญิงเมร่า นอกจากหุ่นจะแซ่บแล้ว หน้าตายังสะสวยชนิดที่มองได้ไม่วางตา เป็นของดีที่ไม่อาจมองข้ามได้จริงๆ

ส่วนที่ขัดใจนั้นมันเป็นส่วนเสี้ยวเล็กๆ ไปเลยเมื่อพบว่าหนังโดยรวมมันคือหนังที่ดูสนุก ไร้ความง่วง ตื่นตากับภาพตลอดเวลา ถูกสะกดด้วยมนต์แห่งเมร่า ก่อนจะลุกจากโรงหนัง สำรวจให้ดีก่อนว่า ได้ดูฉากแถมที่อยู่กลางเครดิตหรือเปล่า

มิฉะนั้นจะเสียดายจนต้องไปดูใหม่อีกรอบนะเออ

ชื่อภาพยนตร์: Aquaman / อควาแมน เจ้าสมุทร
ผู้กำกับภาพยนตร์: James Wan
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: David Leslie Johnson-McGoldrick, Will Beall
นักแสดงนำ: Jason Momoa, Amber Heard, Willem Dafoe, Patrick Wilson, Nicole Kidman, Yahya Abdul-Mateen II
ความยาว: 143 นาที
ปี: 2018
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/ท, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 13 ธันวาคม 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: DC Comics, DC Entertainment, Panoramic Pictures