ย้อนหลังกลับไปในปี 2001 หลายคนอาจจะเคยได้ชมภาพยนตร์ตลกอารมณ์จากหนังสือดัง ‘Bridget Jones’s Diary’ ที่ทำรายได้ในสหรัฐฯ ไปถึง 71 ล้านเหรียญ แถมภาคต่อมาอย่าง ‘Bridget Jones: The Edge of Reason’ ที่เข้าฉายในอีก 3 ปีถัดมา อาจทำรายได้ไปแค่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่รายได้รวมทั้งโลกก็ไม่ได้น้อยหน้าสักเท่าไหร่
หายหน้าไปนานราว 15 ปี ขุ่นแม่บริดเจ็ทก็กลับมาอีกครั้งพร้อมข่าวดี ‘Bridget Jones’s Baby’ เธอกำลังจะมีเบบี๋แล้ว แต่เอ… มันน่าหนักใจตรงที่ไม่รู้ว่าใครเป็น “พ่อ” ของลูกในท้องเธอเท่านั้นเอง
นั่นแหละคือที่มาของเรื่องราวสุดป่วนในภาคนี้
เรื่องย่อหนัง ‘Bridget Jones’s Baby’
ดูเหมือนชีวิตในวัยสี่สิบของบริดเจ็ท (Renée Zellweger) จะดูไปไม่ถึงไหน แม้กระทั่งวันเกิดในวัย 43 เธอก็ยังต้องฉลองคนเดียว แต่ใครจะรู้ เรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรไปจนแทบไม่อยากจะเชื่อ
ชีวิตของโปรดิวเซอร์รายการข่าวชื่อดังที่ยังคงขึ้นคานอยู่ กลับได้พบเจอหนทางใหม่ หลังพักร้อนไม่ทันไรกลับพบว่าเธอกำลังตั้งท้อง เมื่อถอยหลังกลับไปช่วงนั้นคนที่จะเป็นพ่อของลูกได้กลับมีถึงสอง
คนอะไรจะโชคดีเช่นนั้น ห่างมานาน พอได้ที เจอถึงสอง แต่ก็ป่องง่ายไม่เบานิ ส่วนสองพะหน่อที่น่าจะเป็นพ่อของเบบี๋ก็มี ดาร์ซี่ (Colin Firth) พ่อหนุ่มนักข่าวที่มีความสัมพันธ์กันมาเนิ่นนาน
อีกหนึ่งนั่นน่ะเหรอ เขาคือแจ็ค (Patrick Dempsey) หนุ่มเมกันหล่อหนวดเคราแพรวพราวที่ได้เจอกันโดยบังเอิญ ชีวิตของบริดเจ็ทที่กำลังจะขึ้นคานอยู่รอมร่อ กลับจะได้พ่อของลูกตั้งสองคน
มันจะป่วนชวนหัวสักเท่าไหร่น่าสนใจพอดู
รีวิวหนัง ‘บริดเจ็ท โจนส์ เบบี้’
แน่ล่ะ หลายคนก็คงจะไม่เคยได้ดูสองภาคก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว และหลายคนก็อาจจะลืมเลือนมันไปแล้วก็เป็นได้ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเท่าที่ดูมันก็ไม่ได้ยุ่งยากต่อการทำความเข้าใจเนื้อเรื่องเลยสักนิด ไม่ได้ดูภาคก่อนก็น่าจะเข้าใจเรื่องได้อยู่
ตลกฮากลิ้ง …จริงๆ นะ
อาจจะไม่มีใครคาดคิดว่า หนังตลกโรแมนติกที่หายไปนานจะกลับมาอย่างท็อปฟอร์มอีกครั้ง พร้อมพรั่งด้วยมุกฮาๆ กระจายทั่วเรื่อง ตั้งแต่ฉากแรกไปจนถึงฉากปิดท้าย อาจมีแป้กๆ บ้างแต่เป็นเพียงส่วนน้อยนิด ผู้ชมได้แต่หัวเราะกันท้องคิดท้องแข็ง
บางมุกถึงขั้นยกมือขึ้นตบกันอย่างชอบใจ
ด้วยความสามารถเฉพาะที่เข้ากันได้ดีกับบทคอมิดี้ของ Renée Zellweger ยังคงเก๋าเกม แสดงได้ตลกเป็นธรรมชาติอย่างมากมาย เธอได้เป็นโปรดิวเซอร์รายการข่าวที่มี Sarah Solemani เล่นเป็นมิแรนด้าพิธีกร นอกจากรับส่งกันได้ดีกับซาร่าห์แล้ว ก็ยังเล่นเข้าขาได้ดีกับ Colin Firth นักแสดงที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้เก๋าพอจะเล่นบทตลกหน้าตายที่พาให้ฮากลิ้งไม่ยาก ถือว่าคนเขียนบทนี่เข้าใจใส่มุกจริงๆ หลายครั้งที่จับใส่ได้ถูกที่ถูกเวลา ฮาแล้วฮาอีก
หลายคนถึงกับบอกว่า ‘Bridget Jones’s Baby’ เป็นภาคที่สนุกที่สุดเลยทีเดียว
บทที่เขียนมาอย่างดี
ก่อนจะพูดถึงบท คงต้องบอกว่า สำหรับคนที่เคยดูภาคเก่าก่อนน่าจะคุ้นชินกับบทพระเอกอารมณ์ละมุนที่เขาเคยแจ้งเกิด Hugh Grant หนึ่งในผู้ชายที่บริดเจ็ทเคยมีความสัมพันธ์ด้วย แต่ในภาคนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นเขาในเนื้อหนัง แต่ก็มีบางช็อตที่พาให้คิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ของเรากับผู้ชายคนในหนังแฟรนไชส์ชุดนี้เสียจริงๆ
บทของหนังอาจดูไม่มีอะไรแตกต่างไปจากที่เราเคยๆ ดูมา อาศัยแต่ความสามารถเฉพาะตัวสร้างความตลกขบขันไปทั่วทั้งเรื่องก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ซื้อตั๋วเข้าไปชมรู้สึกพึงพอใจ แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้น
เพราะบทหนังเขียนแทรกสสารบางอย่างเอาไว้อย่างแนบเนียน กับเรื่องราวที่ดูแสนจะธรรมดา เมื่อสาวทึนทึกเกิดท้องและต้องหาว่าพ่อของลูกคือใคร ระหว่างทางเหมือนเราจะได้เห็นแง่มุมบางอย่างในหนัง ดูจากตัวอย่างและเนื้อเรื่องย่อเราก็คงจะได้เห็นว่าบริดเจ็ทจะต้องหาเลือกให้ได้ว่าใครคือพ่อของเด็ก ซึ่งที่มันสำคัญไปกว่านั้นคือ คนที่ใช่จะกลายเป็นสามีของเธอในอนาคตด้วย หนึ่งคือผู้ชายที่เธอรู้จักเขามายาวนาน แม้ว่าเขาจะมีคนใหม่อยู่ก็ตาม ขณะที่อีกคนคือชายผู้เป็นเจ้าของกิจการจับคู่ด้วยตัวเลขสถิติ
นอกจากนี้ ในด้านหน้าที่การงาน บริดเจ็ทเองถึงจะเป็นมือเก๋า แต่ก็มีทีมงานที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาควบคุมและพวกเขาก็แสดงท่าทีที่ไม่เอาเธอสักเท่าไหร่อีกด้วย เมื่อผสมกับชีวิตที่ต้องแบกท้องไปทำงาน ปวดหัวกับการที่ท้องแล้วหาพ่อตัวจริงยังไม่ได้ มันเหมือนเป็นตัวแทนของความหนักหน่วงในชีวิตสาวทึนทึกที่หลายคนกำลังจะได้เป็นเสียเหลือเกิน
เป็นหนังตลกที่มีเนื้อหาน่าเชื่อถืออยู่ค่อนข้างมากครับ
เพลงประกอบโดนๆ
เชื่อว่าทุกคนที่ได้ดู ‘บริดเจ็ท โจนส์ เบบี้’ ก็คงจะได้ลุ้นกันไปว่าจริงๆ แล้วใครกันแน่ที่เป็นพ่อของเด็ก เรื่องราวที่เดินไปอย่างไม่มีอะไรคาดเดายาก แต่ระหว่างทางนี่สิ หนังเต็มไปด้วยเพลงประกอบที่คุ้นหูมากมาย แต่ละเพลงที่เลือกๆ มาถือว่าเพราะโดนใจกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ‘Still Falling For You’ ของ Ellie Goulding หรือเป็น ‘Thinking Out Loud’ จาก Ed Sheeran ที่เราต่างก็รู้ว่าเขาร่วมแสดงในเรื่องด้วย แถมก็ยังเล่นได้น่ารักน่าหยิกอีกต่างหาก มีเพลงเต้นรำสนุกของคนสมัยนี้อย่าง ‘King’ ของ Years & Years มีเพลง ‘F**k’ You ของ Lily Allen เท่านั้นไม่พอ เพราะหนังก็ยังหยิบและขุดเอาเพลงสมัยเก่าๆ อย่าง ‘We Are Family’ ของ Sister Sledge และ ‘Just My Imagination’ ของ The Temptations ขึ้นมาใช้งานด้วย
งานนี้ นอกจากจะได้หัวเราะกับมุกฮาๆ ในหนังแล้วก็ยังจะได้ฟังเพลงโดนๆ ประกอบกันไปด้วยนะ
ชื่อภาพยนตร์: Bridget Jones’s Baby / บริดเจ็ท โจนส์ เบบี้
ผู้กำกับภาพยนตร์: Sharon Maguire
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Helen Fielding (screenplay), Dan Mazer (screenplay)
นักแสดงนำ: Renée Zellweger, Gemma Jones, Jim Broadbent, Colin Firth, Sarah Solemani, Ed Sheeran, Patrick Dempsey
แนว/ประเภท: Comedy, Romance
ความยาว: 122 นาที
ประเทศ: อังกฤษ
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/น13+ , USA/R
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 22 กันยายน 2559 (เปิดรอบพิเศษ 15-21 กันยายน)
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Miramax, StudioCanal, Universal Pictures
บริดเจ็ท โจนส์ เบบี้
Bridget Jones's Baby - 8.9
8.9
Bridget Jones's Baby
เพราะบทหนังเขียนแทรกสสารบางอย่างเอาไว้อย่างแนบเนียน กับเรื่องราวที่ดูแสนจะธรรมดา เมื่อสาวทึนทึกเกิดท้องและต้องหาว่าพ่อของลูกคือใคร ระหว่างทางเหมือนเราจะได้เห็นแง่มุมบางอย่างในหนัง ดูจากตัวอย่างและเนื้อเรื่องย่อเราก็คงจะได้เห็นว่าบริดเจ็ทจะต้องหาเลือกให้ได้ว่าใครคือพ่อของเด็ก ซึ่งที่มันสำคัญไปกว่านั้นคือ คนที่ใช่จะกลายเป็นสามีของเธอในอนาคตด้วย หนึ่งคือผู้ชายที่เธอรู้จักเขามายาวนาน แม้ว่าเขาจะมีคนใหม่อยู่ก็ตาม ขณะที่อีกคนคือชายผู้เป็นเจ้าของกิจการจับคู่ด้วยตัวเลขสถิติ