รีวิว Destiny The Tale of Kamakura | มหัศจรรย์ (สถานีต่อไป) โลกแห่งความตาย

ถ้าเอ่ยถึง Takashi Yamazaki คนหนังญี่ปุ่นหลายคนคงจะร้องอ๋อ เพราะเขามีผลงานในระดับที่เป็นที่จดจำอยู่หลายเรื่อง กับเรื่องนี้ นี่คือหนังเรื่องล่าที่เข้ามาฉายในไทย ‘Destiny The Tale of Kamakura’ หรือ ‘มหัศจรรย์โลกแห่งความตาย’ เรื่องราวที่เกี่ยวพันระหว่างความรักและโลกแห่งความตาย

ก่อนหน้านี้ ผู้กำกับคนนี้มีมาทั้ง ‘Stand by Me Doraemon’, ‘Always – Sunset on Third Street’ ทั้งสามภาค รวมไปถึง ‘Parasyte’ ทั้งสองภาคเข้าไปอีก หลายคนที่เสียน้ำตาให้กับตัวละครสำคัญในเรื่องก่อนๆ มาคราวนี้ก็คงจะคาดหวังว่าจะต้องเสียน้ำตาอีกอย่างแน่นอน

และมันก็เป็นไปตามนั้น…

เรื่องย่อหนัง ‘Destiny The Tale of Kamakura’

ถ้าจะเรียกหนังเรื่องนี้สั้นๆ ว่ามันชื่อ ‘Destiny’ ก็น่าจะได้ ด้วยเพราะมันเล่าเรื่องราวความรักของคู่รักชายหญิงที่เพิ่งจะแต่งงานกันคู่หนึ่ง มาซาคาซึ อิชชิกิ (Masato Sakai) ชายหนุ่มผู้ยึดอาชีพเป็นนักเขียน กับ อากิโกะ นากามุระ (Mitsuki Takahata จาก ‘Ancien and the Magic Tablet’) หญิงสาวที่อ่อนกว่าชายหนุ่มพอควร แต่ความประทับใจในตัวมาซาคาสึ ทำให้เธอรักและเลือกที่จะแต่งงานด้วย

หลังฮันนีมูน เธอต้องย้ายมาอยู่กับเขาที่เมืองคามาคุระ

เมืองนี้เป็นเมืองที่ไม่เหมือนที่อื่น ด้วยเพราะที่นี่ มนุษย์ คนตาย และปิศาจ ต่างอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและสงบสุขมาตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าในมวลหมู่ปิศาจจะไร้ซึ่งปิศาจตัวร้าย

โชคชะตาทำให้ทั้งสองคนพลัดพรากจากกันด้วยแผนการอันชั่วร้ายของปีศาจ อานุภาพของความรักจะทำให้มาซาคาสึต้องไปช่วยเหลือเธอกลับมา ภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เอาซะเลย

ถ้าเมืองนี้ไม่ใช่คามาคุระ

รีวิวหนัง ‘Destiny The Tale of Kamakura’

แค่เห็นเครดิตชื่อผู้กำกับ มันก็ชักชวนให้อยากดูมากพอแล้ว มันเคยเป็นมังงะมาก่อน ผลงานของ เรียวเฮ ไซงัง ก็เจ้าของผลงาน ‘Always’ ทั้งสามภาคอีกนั่นแหละ งานนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูแล้วหนังมีความบันเทิงแน่นอน ทว่าด้วยเครดิตผู้กำกับแล้ว งานนี้มีลากเข้าโหมดเสียน้ำตาเป็นแม่นมั่น

ด้วยนี่คือหนังแฟนตาซีของโลกมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันกับเหล่าปิศาจและคนตาย โดยมีเมืองคามาคุระเป็นฉากหลังที่ Takashi Yamazaki หรือ ยามาซากิ ทาคาชิ บรรจงสร้างมาให้เราได้ดูกัน

หนังมีความด้วยมุกน่ารัก จากการแสดงที่ทำให้ขำคิกคักได้ตลอดของสองสามีภรรยา   ช่วงแรกของหนังจึงทำให้เรามีความสุขกับหนังมากๆ คู่ผัวตัวเมียที่ข้าวใหม่ปลามันเพิ่งจะได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่เติมแต่งความแฟนตาซีเข้าไปเมื่อพวกปิศาจมาเดินสวนไปมาปะปนอยู่ในหมู่มนุษย์ได้

มีตลาดของเหล่าปิศาจที่มนุษย์เดินเข้าไปจับจ่ายซื้อของได้ แต่ต้องเลือกของหน่อยนึง หาไม่ชีวิตจะจบไวกว่าที่ควร ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในหมู่บ้านคนดีๆ ไม่ทันไร เดินเข้าไปในดินแดนของปิศาจเฉยเลย แถมสองคนนี้ยังดูไม่ได้กลัวอะไรอย่างที่ปากพูดสักนิดเลยด้วย

ไม่พอ หนังยังพาเราท่องไปไกลถึงแดนยมโลก ที่ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยไป ไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นเยี่ยงไร และวิธีที่เราจะไปใช้เพียงรถไฟขบวนเก่า วิ่งไปบนรางกลางอากาศ

ให้ความรู้สึกเหมือนกับดู ‘Spirited Away’ ในแบบหนังคนแสดงและเป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของคนในวัยผู้ใหญ่ อะไรประมาณนั้น มีทั้งความเพลินของงานภาพที่ไม่ถึงกับเนียนตานัก แต่ให้ฟีลของหนังญี่ปุ่นในแบบ nostalgia ดี ที่ชัดเจนคือ รถไฟตู้เดียวสีเขียวที่เป็นเหมือนภาพจำของเมืองๆ นี้ ทำเอาอยากไปเยือนสักทีเลยทีเดียว

ไม่รู้ว่าจะมีใครรู้สึกเหมือนผมรึเปล่า ว่าปิศาจบางตัวนั้นให้ความรู้สึกคล้ายที่เคยเห็นใน ‘Star Wars’

จะว่าไป ตัวอย่างหนังก็แทบจะเล่าไปเกินครึ่งเรื่องแล้ว เพราะฉะนั้น จะไม่ดูก็ได้นะครับ สิ่งที่เราจะเข้าไปซึมซับกับหนังเรื่องนี้ก็คือ ฟีลลิ่งแบบปริ่มๆ ของสองตัวละครที่ต่างวัยทว่ารักกันมาก แต่ต้องพลัดพรากกันไปคนละโลก ทำให้อีกฝ่ายต้องเดินทางไกลสุดเสี่ยงเพื่อไปช่วยคนรักกลับคืนมา

เราจะได้เห็นภาพสวยๆ ของยมโลกที่แตกต่างจากภาพที่เราคิดไว้ตลอดมา กับเทคนิคพิเศษที่เนียนในระดับหนึ่ง แต่ละเอียดในการเคลื่อนไหว เป็นหนังแฟนตาซีโรแมนติกที่ดูเพลิน น่ารัก คิกคัก และเสียน้ำตา

“มหัศจรรย์โลกแห่งความตาย” น่าประทับใจไม่น้อยเลย

ชื่อภาพยนตร์: Destiny The Tale of Kamakura / มหัศจรรย์โลกแห่งความตาย / Destiny: Kamakura Monogatari
ผู้กำกับภาพยนตร์: Takashi Yamazaki
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ryohei Saigan (manga), Takashi Yamazaki (screenplay)
นักแสดงนำ: Masato Sakai, Mitsuki Takahata, Shinichi Tsutsumi, Min Tanaka
ประเทศ: ญี่ปุ่น
ความยาว: 132 นาที
แนว/ประเภท: Crime, Drama
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ปี: 2017
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 22 กุมภาพันธ์ 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Abe Shuji, Chukyo TV Broadcasting Company (CTV), Culture Entertainment Co.