หากจะถามว่ามีหนังนักสืบเรื่องไหนที่พอจะทัดเทียมความยิ่งใหญ่ของ เจมส์ บอนด์ ได้ ก็คงมีหลายคนตอบเหมือนๆ กันว่า คงไม่มี แต่ถ้าจะนึกไปว่าหนังนักสืบภาคต่อที่เล่าเรื่องออกมาได้สนุกแถมจะเลือกจะแตกต่างจากหนังนักสืบมีชื่อก็คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหนังจากหนังสือขายดีอย่าง ‘Jason Bourne’ ต้องอยู่ในความคิดของคุณแน่ๆ
เมื่อผู้กำกับอย่าง Paul Greengrass โบกมือบอกไม่มากำกับภาคต่อ เจสัน บอร์น ก็ถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของคนอื่นและได้เสียงตอบรับที่ค่อนข้างไม่โอเค จนในที่สุด โปรเจกต์ชุบชีวิตของนักสืบกระดูกเหล็กไหวพริบเฉียบก็กลับมาอีกครั้ง ‘เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย’ ที่ได้ทั้งผู้กำกับฯ คนเดิมกับนักแสดงนำอย่าง Matt Damon ที่ได้กลับมาร่วมงานกัน
แต่เป็นครั้งแรกที่ Tony Gilroy ไม่ได้อยู่ร่วมเขียนบทหนัง
เรื่องย่อหนัง ‘Jason Bourne’
เจสัน บอร์น (Matt Damon) ผู้ที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องแล้วทุกอย่าง ไม่สิ เขายังไม่รู้บางอย่างและกำลังสืบหาความจริงในอดีตอยู่ ชีวิตของอดีตสายลับอย่างเขา ได้แต่ร่อนเร่หากินด้วยการต่อสู้ไปวัน ซ่อนอยู่ในเงามืดที่ไม่มีใครมองเห็น ตามก็ไม่เจอ ทั้งที่ก็ไม่ได้ปิดหน้าตาแต่อย่างใด
วันหนึ่ง นิกกี้ พาร์สัน (Julia Stiles) แอบลักลอบเจาะระบบเพื่อเก็บข้อมูลบางอย่างไป และถูกเฮเธอร์ ลี (Alicia Vikander) เจ้าหน้าที่ซีไอเอสาวสวยตรวจพบเหตุดังกล่าว เธอจึงแจ้งกับ โรเบิร์ต ดิวอี้ (Tommy Lee Jones) ผอ.ซีไอเอ ว่า
เธอจึอาสาจะตามล่าทั้งสองคนให้พบ
เหตุการณ์ประท้วงที่หน้ารัฐสภากรีกทำให้เป็นฉากบังหน้าในการนัดพบกันและหลบหนีของทั้งเจสันและนิกกี้ ทว่าก็ทำให้เห็นด้วยว่าปฏิบัติการในการตามล่าเขานั้นไฮเทคขึ้นมา ไม่รู้ว่าเจสัน บอร์น กำลังตามหาอะไร เขาอาจกลับมาแก้แค้นและทำลายทั้งองค์กร หรืออาจต้องการอย่างอื่น
แต่ที่มั่นใจได้คือ มีคนรอจัดการเขาอยู่อย่างแน่นอน
รีวิวหนัง ‘เจสัน บอร์ด ยอดจารชนคนอันตราย’
บอร์นภาคนี้เปลี่ยนแนวไปถ่ายทำกันแถวกรีซและลาสเวกัส เป็น ‘ยอดจารชนคนอันตราย’ อาจไม่ได้หยิบมาจากหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งโดยตรง เป็นครั้งแรกของบอร์นที่ Paul Greengrass ลงมือเขียนบทเองกับมือ และได้มือตัดต่อในภาคเก่าๆ มาช่วยเขียนด้วย
ๆไ
เขียนบทใหม่ อ้างอิงจากเรื่องราวเก่าก่อน
หนังพยายามที่จะฟื้นความทรงจำของผู้คนที่เข้าไปชมในวันนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก หากไม่เคยชม 3 ภาคแรกมาก่อนหรือลืมเลือนมันไปแล้วก็คล้ายๆ ว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่นั่นแหละ ซึ่งหมิ่นเหม่ว่าจะเข้าใจหนังยากหน่อยหากไร้ซึ่งประสบการณ์ แต่ถ้าพอเคยผ่านมาบ้างแม้จะลืมๆ เลือนๆ ก็น่าจะพออ้อมแอ้มทำความเข้าใจกับตัวหนังกันไปได้อยู่
เพิ่มเติมตัวละครใหม่ๆ โดยเฉพาะ ผอ. ดิวอี้ ที่มีลุงทอมมี่รับบทเข้ามาเพื่อสร้างเรื่องราวใหม่ๆ พร้อมตัวละครเก่าที่มีเรื่องราวแต่หนหลังอย่าง แอสเซท (Vincent Cassel) ที่ทำให้เจสัน บอร์น ได้มีพื้นที่ในการแสดงตนหลบหลีกการไล่ล่า
ที่สำคัญก็คือตัวละครสาวสืบคนใหม่อย่าง เฮเธอร์ (Alicia Vikander) ที่ไม่ใช่แค่สวยแต่ยังมีสมองอีกด้วย
หนังพูดถึงโครงการต่างๆ ที่ถูกปกปิดเป็นความลับกันมาตลอด ซึ่งถ้าใครไม่คุ้นก็อาจจะลำบากในการตามเรื่องหน่อยนะ
ใช้เวลาไปมากกับการชิงไหวชิงพริบ
ในช่วงต้น หนังอาจจะใช้เวลาไปบ้างในการปูเรื่องราวซึ่งเราพอเข้าใจ แต่หลังจากนั้น หนังก็ค่อนข้างสร้างความตื่นตากับฉากจลาจลในเอเธนส์จากมุมต่างๆ สร้างความน่าตื่นเต้นให้อยู่พอประมาณว่าในที่สุดแล้ว เจสันจะทำสำเร็จหรือไม่หรือจะพลาดท่ายังไง
หนังจุดประกายความน่าสนใจมาได้ประมาณหนึ่งแล้ว ณ เวลานี้
‘เจสัน บอร์น’ มีฉากขับรถไล่ล่าที่น่าสนุกไม่ใช่เล่น แต่หลังจากนั้น มันคือชิงไหวชิงพริบของคนจับกับคนล่า ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่มีแค่ 2 ฝ่าย ช่วงแรกก็พอจะน่าสนใจอยู่หรอก แต่พานานๆ ไป เรื่องราวมันไม่ได้กระเพื่อมหรือมีขึ้นมีลงเลย แถมยังดำเนินเรื่องได้ไม่เคลียร์เท่าที่ควร จนคนดูอาจจะรู้สึกสงสัยอยู่ในใจว่าไอ้คนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ต้องรอไปสักพักถึงจะเริ่มเข้าใจ
ความเนิ่นนานและไร้การกระเพื่อม แถมชั้นเชิงในเล่ายังดูดร็อป ไร้สีสันอะไรใหม่ๆ ในการชิงไหวกัน รวมๆ กันแล้วมันทำให้หนังช่วงกลางค่อนข้างน่าง่วงไปนิด
ส่วนหนึ่งคือทำให้คนที่รอคอยหนังออกอาการผิดหวังอยู่หน่อยๆ
ช่วงท้ายเจสัน แอคชัน… มันพีคมาก
คงจะเป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่สนุกไปไม่ได้ ถ้าขาดฉากที่ทำให้รู้สึกมันระห่ำในหนังเรื่องนี้ ‘เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย’ มีฉากแอ็คชั่นให้เราได้มันกันสองช่วง ช่วงหนึ่งนั้น อาจไม่ถึงกับพีคหนักแต่ก็พอไปได้อยู่
แต่ฉากแอ็คชั่นที่อยู่ใกล้ช่วงท้ายของหนังนี่สิ
ถือเป็นหนังแอ็คชั่นที่มันระห่ำได้ใจสำหรับคนที่รอคอยภาคต่อของเจสัน บอร์น เป็นอย่างมาก ทำให้จากที่นั่งง่วงๆ อยู่กับช่วงก่อนหน้า พลันตาสว่างมานั่งลุ้นไปกับฉากไล่ล่าบนถนนที่น่าตื่นเต้นที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่ก็น่าเสียดายที่ของดีๆ มีให้ชมกันน้อยเกิน บทของการชิงไหวชิงพริบก็ไม่ได้เฉียบคมอะไรนัก แถมยังเนิ่นนานจนชวนหลับอีก
อาจไม่ใช่การรอคอยที่สมหวังสักเท่าไหร่!
ชื่อภาพยนตร์: Jason Bourne / เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย
ผู้กำกับภาพยนตร์: Paul Greengrass
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Paul Greengrass, Christopher Rouse
นักแสดงนำ: Matt Damon, Tommy Lee Jones, Alicia Vikander, Vincent Cassel, Julia Stiles, Riz Ahmed
แนว/ประเภท: Action, Thriller
ความยาว: 163 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 28 กรกฎาคม 2559
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Universal Pictures, Kennedy/Marshall Company, The, Captivate Entertainment
เจสัน บอร์น ยอดจารชนคนอันตราย
Jason Bourne - 7.1
7.1
Jason Bourne
ถือเป็นหนังแอ็คชั่นที่มันระห่ำได้ใจสำหรับคนที่รอคอยภาคต่อของเจสัน บอร์น เป็นอย่างมาก ทำให้จากที่นั่งง่วงๆ อยู่กับช่วงก่อนหน้า พลันตาสว่างมานั่งลุ้นไปกับฉากไล่ล่าบนถนนที่น่าตื่นเต้นที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่ก็น่าเสียดายที่ของดีๆ มีให้ชมกันน้อยเกิน บทของการชิงไหวชิงพริบก็ไม่ได้เฉียบคมอะไรนัก แถมยังเนิ่นนานจนชวนหลับอีก อาจไม่ใช่การรอคอยที่สมหวังสักเท่าไหร่!