นี่เป็นวันที่สี่แล้วสินะที่ผมเดินเข้าโรงหนังติดต่อกัน จนมันเหมือนจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง หรือกลายเป็นที่ทำงานแห่งที่สองไปแล้วก็เป็นได้ วันนี้ เกิดความรู้สึกอยากจะดูหนังญี่ปุ่น โดยเฉพาะมันเป็นหนังที่มีดาราสาวที่ชื่นชอบแสดงอยู่ในนั้นด้วย ‘Parks’ คือชื่อสั้นๆ ของมัน และผมกำลังเขียนถึงมันให้คุณได้อ่านในตอนนี้
หนังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของสวนสาธารณะอิโนกาชิระ สวนสาธารณะที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมานานในย่านคิชิโจจิ
ย่านที่ผมมีคิดว่าจะไปเยือนดูสักที…
เรื่องย่อหนัง ‘Parks’
แน่นอนว่า เขาก็ต้องเขียนเรื่องราวให้มีสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นศูนย์กลางและจุดเกิดเหตุของเรื่อง มันเริ่มต้นตรงที่ จุน (Ai Hashimoto) เธอเป็นเด็กมหาวิทยาลัยที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ใกล้สวนสาธารณะอิโนะกาชิระนี่เองครับ ความที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับสวน ตื่นมาก็ได้เห็นวิวสวนแล้ว
ช่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาเสียจริงๆ
เธอมักจะชอบขี่จักรยานในสวนเป็นกิจวัตร แต่มีลักษณะอย่างหนึ่งของเธอก็คือความสับสน ลังเล และโลเล นั่นทำให้เธอยังคงเรียนไม่จบ และยังทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างเลย
แต่ในวันหนึ่ง เธอก็ได้พบกับ ฮารุ (Mei Nagano) สาวน้อยวัยมัธยม ที่เจอกันตอนจุนยืนอยู่ตรงระเบียงห้องพอดี อารุกำลังตามหาซาชิโกะซึ่งเป็นคนรักเก่าของพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ โดยใช้เบาะแสเป็นจดหมายที่พ่อทิ้งไว้
สืบไปสืบมาจนได้ไปพบกับ โทคิโอะ (Shota Sometani) ชายหนุ่มที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของซาชิโกะ เขาแจ้งว่าซาชิโกะเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นาน
สิ่งที่สำคัญสำหรับหนังเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นที่เทปรีลที่อัดเสียงกีตาร์ของพ่อและซาชิโกะเอาไว้ โทคิโอะไปเจอมันเข้า และจุนก็ไปหาเครื่องเล่นมาได้ แต่ดูเหมือนเพลงเก่าแต่งเองเมื่อ 50 ปีก่อนเพลงนั้นจะหลงเหลือเพียงครึ่งเดียว เพราะเทปส่วนที่เหลือนั้นชำรุด
ทั้งสามจึงตัดสินใจแต่งท่อนที่ขาดหายไปขึ้นใหม่
รีวิวหนัง ‘Parks’
เริ่มต้นเรื่องมานี่ เรียกได้ว่าเอาใจนายแพทไปได้เลย เพราะหนังมีซีนที่ได้เห็นน้องไอเต็มๆ ขี่จักรยานในสวนสวยที่เต็มไปด้วยซากุระ รอยยิ้มและความน่ารักของไอ ฮาชิโมโตะ คือสิ่งที่หลายคนต้องการ ก่อนที่หนังจะเริ่มต้นขึ้นจริงๆ
หนังเลือกจะแบ่งเล่าเป็นบทๆ เนื่องด้วยเพราะฮารุนั้น นอกจากจะตั้งใจมาเก็บเกี่ยวอดีตของพ่อเธอแล้ว เธอเองก็ตั้งใจจะหยิบเอาประสบการณ์ทั้งหมดไปเขียนเป็นหนังสืออีกด้วย เหตุนั้นเพราะเธอไม่อยากจะลืมภาพของพ่อเธอไป หลังจากพ่อเสีย แม่ก็กำลังจะแต่งงานใหม่ ความทรงจำที่กำลังจะลบเลือนจึงควรจะได้ถูกเติมเต็มอีกครั้งและบันทึกไว้ในรูปแบบตัวอักษร
หนังจึงมีกิมมิกในการเล่าเป็นบทแบบการอ่านนิยาย
จริงๆ แล้วจุนมีความสามารถหลายอย่าง รวมทั้งการร้องและเล่นกีตาร์ เธอมีเพื่อนเป็นนางแบบแบนเนอร์โฆษณา แต่เธอยังไม่จบมหาวิทยาลัย สุดท้ายต้องเรียนอีกปีเพราะไม่ยอมส่งวาทนิพนธ์ให้อาจารย์ แต่ในที่สุด
เมื่อจุนได้พบกับฮารุ สิ่งที่ฮารุนำมาให้เหมือนวัตถุดิบที่สร้างแรงบันดาลใจให้เธอเขียนมันขึ้น ประกอบกับการค้นพบเทปบันทึกเสียงของเพลงเก่าเพลงนั้น ทำให้อาจารย์ตั้งกฎขึ้นมาว่าเธอต้องแต่งเพลงนั้นให้จบ เขาถึงจะให้ผ่าน
มันกลายเป็นแรงผลักดันที่จุนไม่เคยมีมาก่อน
เรื่องราวช่วงครึ่งแรกนี่บันเทิงอย่างมาก การสืบหาเรื่องราวในอดีตจากคนและสิ่งของกลายเป็นเรื่องราวที่สนุก ทุกอย่างเกิดขึ้นทั้งในสวนและเมืองคิชิโจจิ เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพในตัวละครทั้งสาม ที่ต่างไม่รู้จักกันเลย แต่ได้มารู้จักเพราะการตามหาเรื่องราวของซาชิโกะ
ไม่ใช่ไอจังเท่านั้น แต่เมย์และโชตะก็เป็นส่วนผสมที่ดี เคมีที่เข้ากัน มันทำให้ครึ่งแรกของหนังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความรู้สึกภายในใจที่ว่า “น่ารักอะ”
ก่อนที่ครึ่งหลังอารมณ์หนังเปลี่ยนไปเป็นหนังคนละม้วนเลย
หนังเปลี่ยนโทนจากสดใสกลายเป็นอึมครึมอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้สึกได้ว่าผู้กำกับนิยมชมชอบในการเล่าเรื่องด้วยการให้ตัวละครในปัจจุบันอยู่ร่วมฉากกับตัวละครในอดีตอย่างมาก เพราะมักจะใส่กิมมิกนี้เข้ามาใช้เล่าบ่อยมาก ซึ่งแรกๆ ก็ดูเข้าทีดีอยู่ แต่มันชักจะถลำลึกมากเข้าไปทุกที จนเริ่มจะมีความมึนงงบังเกิดขึ้น
เริ่มจะเข้าใจยากขึ้นแล้วว่าตรงไหนจริงตรงไหนเทียม
ทำให้คนดูเริ่มต้องใช้สติปัญญาในการดูมากไปเงาตามตัว พอใช้กิมมิกนี้นานเข้า มันกลายเป็นหนังไม่ได้ดูง่ายอย่างตอนแรกเสียแล้ว และไม่เข้าใจสิ่งที่อยากจะสื่อทั้งหมด พอหนังถึงบทสรุปมันก็เลยไม่พึคเพียงพอ หนังช่วงท้าย ใช้เวลานานมากเกินไปในการหาบทลงเอย เหมือนจะจบแต่ก็ยังมีต่อ
แถมยังเหมือนยังมีตะกอนบางส่วนที่ยังนอนก้นอยู่
ส่วนที่ดีของหนังนั้นมีอยู่มากโขอยู่ สำหรับที่เป็นแฟนหรือติ่งของไอจังอยู่แล้ว นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด ไอจังดูโตขึ้น ไว้ผมยาวเลยบ่า และยังคงหน้าม้าเหมือนเคย คอสตูมการแต่งตัวก็ยังคงโดดเด่นเป็นสไตล์ของเธอเช่นเคย แต่สิ่งที่ทำให้หนังอย่าง ‘พาร์คส์’ ดูสดใสเพิ่มเป็นสองเท่าคงเป็นเพราะมี เมย์ นากาโนะ นั่นเอง
เมอิเป็นสาวน้อยที่ยิ้มน่ารักมาก จนแอบเผลอนอกใจไอจังไปในบางช็อต
หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่า ไอจังเล่นกีตาร์เป็น และไอจังร้องเพลงได้ แม้ไม่ถึงกับมีเทคนิคในการร้อง แต่ฟังแล้วเพลิน ขณะที่โชตะที่เราเห็นบ่อยๆ จากหนังหลายๆ เรื่อง (ที่เข้าไทยก็มี Bakuman (2015), Parasyte Part 1, Parasyte Part 2, Always: Sunset on Third Street 3, Himizu (2012) และที่ผมได้ดูก็คือ Wood Job! ถือเป็นนักแสดงญี่ปุ่นอีกคนที่มีผลงานเข้าไทยหลายเรื่องมากๆ) ในเรื่องนี้ได้โชว์ลีลาการร้องแร็ปด้วย
อีกจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ก็คือ การมีดนตรีประกอบเพราะๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสไตล์มินิมอล ฟังดูคล้ายๆ กับเพลงประกอบ ‘Little Forest’ ส่วนเพลงประกอบซึ่งก็คือเพลงที่พวกเขานำมาเขียนเพิ่มในหนัง เราจะได้ยินบ่อยจนชอบไปเองเลยแหละ
เมื่อโดยรวมยังติดปัญหาในช่วงท้ายของหนังอยู่บ้าง แต่ก็ชื่นชอบมากกับแต่ละฉากที่ถ่ายทำสวนอิโนะชากิระออกมาได้อย่างสวยงาม ตอกย้ำในใจยิ่งกำชับกับตัวเองเป็นหนักหนาว่า
ถ้าไปโตเกียวต้องแวะไปเดินเที่ยวสวนสาธารณะอิโนะกาชิระให้ได้เลย
ชื่อภาพยนตร์: Parks / พาร์คส์ / PARKS パークス
ผู้กำกับภาพยนตร์: Natsuki Seta
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Natsuki Seta
นักแสดงนำ: Ai Hashimoto (ไอ ฮาชิโมโตะ), Mei Nagano (เมย์ นากาโนะ), Shota Sometani (โชตะ โซเมะตานิ), Shizuka Ishibashi, Ryu Morioka, Shiro Sano, Reiya Masaki
ดนตรีประกอบ:
ความยาว: 118 นาที
แนว/ประเภท: Drama
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/ท, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 29 มิถุนายน 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย:
พาร์คส์
Parks - 8
8
PARKS パークス
เรื่องราวช่วงครึ่งแรกนี่บันเทิงอย่างมาก การสืบหาเรื่องราวในอดีตจากคนและสิ่งของกลายเป็นเรื่องราวที่สนุก ทุกอย่างเกิดขึ้นทั้งในสวนและเมืองคิชิโจจิ เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพในตัวละครทั้งสาม
1 คอมเมนต์