รีวิวซีรีส์ A Shop For Killers | ถูกไล่ล่าอยู่ในร้านลับของนักฆ่า

ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องถูกดัดแปลงสร้างบทมาจากนิยาย เรื่องนี้ก็เช่นกัน แถมน่าจะเป็นแนวที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบซะด้วย ผมกำลังเขียนถึง ‘A Shop For Killers’ ซีรีส์แนวแอ็คชันทริลเลอร์ที่นำโดย อีดงอุค และ คิมฮเยจุน ซีรีส์ความยาว 8 ตอนที่แบ่งฉายสัปดาห์ละ 2 ตอน ทางสตรีมมิ่งดังอย่าง Disney+ Hotstar นั่นเองแหละครับ

ความคิดเห็นส่วนตัวของนายแพท

นี่มันซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชันทริลเลอร์ที่น่าจะเข้าถึงผู้คนได้ง่าย แต่ก็อีกแหละ ตามสไตล์ของซีรีส์เกาหลี มันต้องมีเรื่องดราม่าครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องตามเคย ในที่นี้ ก็คือความผูกพันของอาหลานที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่นัก เพราะความลับเกี่ยวกับร้านขายอาวุธที่อาปิดบังไว้มานานราว 10 ปี แต่ก็สั่งสอนทักษะต่างๆ ทั้งด้านการใช้สมองและศิลปะป้องกันตัวโดยไม่บอกเหตุผลมาตลอด จนเมื่ออาตายไปนั่นแหละ ถึงได้รู้ตัวว่าต้องถูกตามล่า แต่เคราะห์ดีที่มีตัวช่วย หลานสาวเริ่มค่อยๆ รู้ความลับเกี่ยวกับร้านของอา และต้องย้อนนึกถึงทุกสิ่งที่อาสอนมาใช้เพื่อเอาตัวรอด

มันจึงอาจเริ่มต้นแบบหนืดๆ เพราะเล่าดราม่าปูพื้น และอาจมีบางฉากที่ถูกเล่าซ้ำ แต่หลังจากนั้นไป ก็น่าจะเข้าสู่ช่วงลุ้นระทึกกันไปจนจบแล้วล่ะ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘A Shop For Killers’

ในช่วงวัยเด็กของ จองจีอัน (Kim Hye Jun/คิมฮเยจุน จากซีรีส์เรื่อง ‘ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด’ และ ‘นักสืบอัจฉริยะ’) เธอสูญเสียทั้งพ่อแม่ไปในเหตุที่ไม่คาดฝันท่ามกลางงานศพของยาย และกลายเป็นเด็กกำพร้าในทันที แต่ยังดีที่ได้ จองจินมัน (Lee Dong Wook/อีดงอุค จากซีรีส์เรื่อง ‘ตำนานรักจิ้งจอกเก้าหาง’ และ ‘กอบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ’) ชายหนุ่มผู้เป็นอาที่เลี้ยงดูเธอมา แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว อาของตนทำมาหากินอะไร

เธอแยกออกมาใช้ชีวิตของตัวเองในช่วงที่เธอศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย แต่แล้ววันหนึ่งก็กลับได้ข่าวว่า อาของเธอเสียชีวิตแล้ว และเมื่อเธอกลับมาบ้านของอา เธอก็พบว่าตนกำลังถูกตามล่าของกองกำลังกลุ่มหนึ่ง พร้อมๆ กับความลับเกี่ยวกับร้านของอาที่กำลังถูกเปิดเผยให้เธอได้รับรู้

รีวิวซีรีส์ ‘A Shop For Killers’

จองจีอัน ในปัจจุบันคือ เด็กสาวผมสั้นที่เพิ่งจบมหา’ลัย กำลังอยู่ในวัยสาว 21 ขวบ ที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับอาของตัวเองเลย ทั้งๆ ที่มีความน่าสงสัยมากมายหลายอย่างระหว่างที่อาเลี้ยงดูเธอมา ทุกพฤติกรรมของอาล้วนชวนให้เคลือบแคลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องตู้เก็บของที่อาต้องเลือกใช้แต่ตู้เหล็กเท่านั้น เรื่องการฝึกปรือฝีมือการต่อสู้ เรียนรู้จักการเอาตัวรอด สอนให้จดจำบางสิ่งบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่าจะต้องจำไปทำไม แต่ในวันที่รู้ว่าอาตาย เธอจำต้องรื้อฟื้นทุกสิ่งที่อาสอนมาใช้ให้มากที่สุด

ทั้งนี้ ทั้งนั้น จะปิดบังไม่เขียนเลยก็คงไม่ได้ เพราะชื่อเรื่องมันก็บอกอยู่ทนโท่แล้วว่า นี่มันเรื่องของร้านค้าสำหรับนักฆ่า ใช่แล้วล่ะ ความลับของอาคือเปิดร้านค้าออนไลน์ขายอาวุธชนิดต่างๆ แบ่งประเภทของอาวุธและกลุ่มลูกค้าตามสี และมีกฎเกณฑ์อีกต่างหาก ว่าเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นผู้ถูกร้องขอต้องมาช่วยกลุ่มสีเขียว ซึ่งก็ได้แก่ จองจินมัน และ จองจีอัน สองอาหลานนั่นแหละครับ

ทีนี้ สิ่งที่จะเป็นปริศนาอยู่นิดหน่อยก็ตรงที่ เหตุใดเมื่ออาของเธอตายลง เหล่านักฆ่าทั้งหลายจึงหันพุ่งเป้ามาสังหารเธอนี่สิ

การดำเนินเรื่องของซีรีส์มันเริ่มตรงช่วงเวลาที่จองอีอันถูกส่องกระสุนจนต้องหลบกันหัวซุกหัวซุนภายในบ้านของคุณอา ก่อนที่จะเริ่มย้อนกลับไปเล่าอดีตก่อนที่สองอาหลานจะได้มาอยู่ร่วมกัน สองตอนแรกจึงเริ่มด้วยความลุ้นระทึกโดยที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ก่อนจะเปลี่ยนแนวมาเป็นดราม่าความผูกพันของอากับหลาน เรียกได้ว่า เล่าอดีตสลับกับปัจจุบันไปเรื่อย จนมาถึงตอนสามนี่แหละที่จะตั้งใจเล่าไปในทางแอ็คชันทริลเลอร์แบบจริงจัง

ในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นความสามารถของ Ahn Se Bin/อันเซบิน ที่เล่นเป็นจองจีอันวัยเด็กน้อยได้น่ารักน่าชัง แล้วไม่ได้มีแต่ตัวละครจองจีอันคนเดียวที่ต้องต่อสู้กับเหล่านักฆ่าซะเมื่อไหร่ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ก็น่าจะเป็นพรรคพวกของอาที่เข้ามาช่วยไว้ รวมไปถึง แบจองมิน (Park Ji Bin/พัคจีบิน จากซีรีส์ ‘นักสืบอัจฉริยะ’ และ ‘The Killer’s Shopping List’) หนุ่มเพื่อนของจีอันที่เก่งด้านแฮกเกอร์ เขาคือผู้ค้นพบร้านลับของคุณอา อีกคนคือ โซมินฮเย (Geum Hannah/กึมแฮนา จากหนังเรื่อง ‘Kim Ji-Young: Born 1982’) สาวผมสั้นปากแดงที่เก่งทั้งศิลปะการต่อสู้และการใช้มีดกับปืน

เมื่อยิ่งเหตุการณ์ผ่านไป ก็จะยิ่งได้พบกับพันธมิตรที่มาช่วยเหลือรับมือกับเหล่านักฆ่า หนึ่งในนั้น ก็คือ พสิน (Kim Min/คิมมิน จากซีรีส์ ‘ลำนำคนโฉด’ และ ‘Black Knight’) ครูที่สอนมวยไทยให้กับจีอัน และ บราเธอร์ (Lee Tae Young/อีแทยอง จากซีรีส์ ‘My Dearest Part 2’) ชายลึกลับในหน้ากากท่าทางเพี้ยนๆ ที่ดูไม่ออกว่าจะไม้ไหนกันแน่ ส่วนที่เหลือดูท่าจะมีแต่คนร้ายฝ่ายตรงข้าม งั้นเราก็จะข้ามพวกเขาไปละกัน …อ้าว ซะงั้นอ่า

เอาจริงๆ ก็รู้สึกลุ้นระทึกดีในฉากแอ็คชันต่างๆ ซึ่งก็จะมีดนตรีประกอบคอยมาบิวต์อารมณ์ให้ แต่ก็จะรู้สึกลุ้นได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนักในช่วง 2 ตอนแรก แต่เมื่อเรื่องผ่านมาถึงตอนที่สาม ด้วยการเล่าซ้ำในสิ่งที่ตอนเปิดเรื่องได้เล่าไว้ ทำให้เป็นตอนที่ให้ความรู้สึกสั้นไปในทันที แต่ข้อดีของมันก็คือ มันทำให้เราได้คิดตามทันเรื่องได้ว่า ตัวละครจองจีอันที่เราคิดว่าน้องเขาฉลาดสามารถวิเคราะห์มุมและวิถีกระสุนของมือไรเฟิลได้ แท้จริงก็ยังมีความไม่เม้กเซ้นส์ปะปนอยู่ในนั้น จนอาจชวนให้กังขาได้ว่า นี่น้องเขาฉลาดจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย เป็นต้น

ขณะที่ในตอนที่ 4 ตอนนี้ไม่มีเล่าท้าวความใดๆ แล้ว เน้นมุ่งหน้าไปอย่างเดียว พร้อมกับเปิดเผยความลับบางอย่างเกี่ยวกับห้างลับของอา และความจริงเกี่ยวกับบางตัวละคร มีช่วงเวลาให้ลุ้นอยู่พอสมควร เป็นตอนที่เน้นแอ็คชันทริลเลอร์เต็มที่ที่สุดแล้วในจำนวน 4 ตอนที่ผ่านมา แถมตอนนี้ ยังมีเรื่อง ‘มวยไทย’ ศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ร่างกายหลายส่วนที่เป็นอาวุธ ไม่ว่าจะหัว หมัด ศอก เข่า แข้งและเท้า ทำให้คาดหวังว่าจะได้เห็นลีลามวยไทยแบบเต็มๆ จากจองจีอันในตอนถัดๆ ไป

ระหว่างทาง เราอาจจะได้พบแง่มุมเล็กๆ ในการใช้ชีวิตที่โผล่เข้ามาในสิ่งที่คุณอาสั่งสอนหลานสาว แน่นอนว่า มันก็เป็นเรื่องดีๆ ที่แทรกอยู่ในซีรีส์แนวแอ็คชันทริลเลอร์เรื่องนี้

โดยรวมแล้ว มันเป็นซีรีส์แนวแอ็คชันแหละ เลยไม่ต้องคิดอะไรมาก ตามเรื่องไปเรื่อยๆ ก็สนุกได้แล้ว เพียงแต่หลายช็อตที่อาจจะรู้สึกตัดช้าไป ไม่กระชับบ้าง อะไรบ้าง ก็อาจจะรู้สึกขัดใจกันบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเอง

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์