รีวิวซีรีส์ Doctor Cha คุณหมอชา | แม่บ้านที่อยากเป็นหมอ มากกว่าเป็นแม่

เมื่อหญิงคนหนึ่งที่เคยเรียนเก่งด้านแพทย์ แต่แล้วก็เดินออกจากเส้นทางการเป็นหมอ หันไปทำหน้าที่ภรรยา แม่ของลูกๆ และเป็นแม่บ้านมา 20 ปี ตัดสินใจจะทำเพื่อตัวเอง ลุกขึ้นมาติวหนังสือเพื่อสอบแล้วกลับไปเป็นแพทย์ใหม่ มันจะเป็นอย่างไรต่อ ขอเชิญทุกท่านพบกับเรื่องราวของ ‘Doctor Cha’ ซีรีส์ที่ใช้ชื่อไทยอย่างตรงไปตรงมาว่า ‘คุณหมอชา’ ที่เราจะรีวิวถึงกันในวันนี้

ซีรีส์เรื่องนี้อยู่ในบริการของ Netflix เขียนบทโดย จองยอรัง กำกับโดย คิมแดจิน เล่าเรื่องราวของหญิงวัย 46 คนหนึ่ง ที่น่าจะเป็นแพทย์คนเก่ง ได้ช่วยเหลือคนไข้ และวันนี้ ก็น่าจะได้เป็นอาจารย์หมอไปเรียบร้อยแล้ว แต่วันนี้ เธอยังเป็นแค่แม่บ้าน

มีแต่นักแสดงตัวประกอบที่ได้มาเล่นเป็นตัวเอก

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Doctor Cha’

ชาจองซุก (Uhm Jung Hwa/ออมจองฮวา จากซีรีส์เรื่อง ‘Our Blues เวลาสีฟ้าหม่น’ และ ‘A Witch’s Love’) เป็นภรรยาของอาจารย์หมอหัวหน้าแผนกผ่าตัด ซออินโฮ (Kim Byung Chul/คิมบยองชอล จากซีรีส์เรื่อง ‘All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้’ และ ‘Sisyphus: The Myth รหัสลับข้ามเวลา’) และมีลูก 2 คน คือ ซอจองมิน (Song Ji Ho/ซงจีโฮ) และซออีรัง (Lee Seo Yeon/อีซอยอน) เธอดำรงตนเป็นแม่บ้าน ที่ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง เลี้ยงดูลูกทั้งสองที่กำลังจะได้เป็นแพทย์ อยู่ใต้โอวาทของสามี และอยู่ในบ้านที่แม่สามีเป็นใหญ่

อันที่จริงแล้ว เธอเคยเป็นนักเรียนแพทย์คนเก่ง เคยได้เป็นศัลยแพทย์ แต่เหตุเพราะจองมินประสบอุบัติเหตุ เลยต้องตัดสินใจเดินออกจากเส้นทางอาชีพหมอ มาเป็นแม่บ้าน โดยที่ไม่รู้เลยว่าสามีแอบคบหาอยู่กับรักแรกอย่าง ชเวซึงฮี (Myung Se Bin/มยองเซบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘A Piece of Your Mind’ และ ‘Prince Hours’) อาจารย์หมอในโรงพยาบาลเดียวกัน

วันหนึ่ง เธอก็พบว่าตนกำลังเป็นโรคตับอักเสบแบบเฉียบพลัน และต้องปลูกถ่ายตับ หลังเธอรอดจากความตายมาได้ เธอตั้งใจจะใช้ชีวิตโดยเอาตัวเองเป็นใหญ่ จากนี้เธอจะอยู่เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น ทำอะไรที่อยากจะทำ และสิ่งสำคัญก็คือ เธอตั้งใจจะกลับไปเป็นหมออีกครั้ง ด้วยการเตรียมตัวสอบใหม่เพื่อเป็นแพทย์ประจำบ้านให้ได้ ลบคำสบประมาทของสามี แถมโรงพยาบาลที่เธอเข้าไปทำงาน ยังเป็นที่เดียวกับที่สามีและรักแรกของเขาทำอยู่ซะด้วย

รีวิวซีรีส์ ‘คุณหมอชา’

เริ่มต้นมา มันบอกเล่าถึงชีวิตของแม่บ้านที่ถูกกดทับทุกทาง ทั้งฝ่ายสามีที่ดูไม่ได้รักเธอสักเท่าไหร่ ไม่เคยสนใจเรื่องกระหนุงกระหนิง วางท่าเป็นใหญ่ ยิ่งแม่สามียิ่งแล้วใหญ่ เจ้ากี้เจ้าการทุกอย่าง สามีของเธอก็ดันคิดเองไม่ได้ จะทำอะไรยังต้องขออนุญาตโน่นนี่จากแม่ตัวเอง หันมองลูก ที่ถูกเลี้ยงให้โตมาเป็นหมอเพราะตระกูลนี้เป็นตระกูลหมอ ลูกสาวค่อนข้างเจ้าปัญหาหน่อย ลูกชายยังพอคุยกันได้บ้าง ทุกวัน เธอมีหน้าที่ทำอาหาร ดูแลบ้าน สภาพไม่ต่างกับคนรับใช้สักเท่าไหร่ ทุกอย่างเธออดทนกับมันมาโดยตลอด ราวกับเชือกที่ขึงตึงตลอดเวลา โดยไม่รู้ว่า มันกำลังจะขาดผึง

แม่บ้านในครอบครัวชายเป็นใหญ่ ไม่ไหวจะทนแล้วโว้ย!

ในวันที่จู่ๆ เธอก็เป็นลมล้มฟุบไป มารู้สึกตัวอีกทีในโรงพยาบาล และได้พบกับคุณหมอสุดหล่อชื่อ รอยคิม (Min Wook Hyuk/มินอุคฮยอก จากซีรีส์เรื่อง ‘If You Wish Upon Me’) บอกให้รู้ว่าเธอเป็นตับอักเสบที่ค่าตับสูงมากกกกก แต่หลังมองเห็นธาตุแท้ของแม่ผัว-สามี และรอดจากความตายมาได้ เหมือนเธอปล็ดล็อกตัวตน ฉันจะทำตามหัวใจตัวเองบ้าง ไม่ทำแล้วงานบ้าน ฉันจะออกไปช็อปปิ้ง และทำอะไรที่อยากจะทำ เธอเคยบอกในตอนนึงว่า เธอคือแม่บ้านที่อยากเป็นหมอมากกว่าเป็นแม่ เอาเข้าจริง เธอก็ไม่ใช่คนที่จะละทิ้งครอบครัวไปหรอก แต่เธอแค่กำลังหาจุดสมดุลของตัวเองซะมากกว่า

นี่มันซีรีส์ที่พูดถึงหญิงผู้ถูกกดทับอยู่ในครอบครัวที่ชายเป็นใหญ่ ตั้งท้องตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ลาออกจากการเป็นแพทย์มาเป็นแม่บ้านยาวนาน 20 ปี เพราะการป่วยหนักครั้งนี้แหละที่ทำให้เธอรู้ตัวว่า “ถึงเวลาของฉันซะที!”

เป็นหมออีกครั้งในวัยเกือบ 50 ก็ต้องเจอปัญหาเยอะหน่อยนะ!

แต่ก็นึกภาพออกเลย เป็นแม่บ้านมา 20 ปี แม้มีใบประกอบวิชาชีพหมอ ถูกเรียกว่าคุณหมอ แต่แทบจะลืมเลือนทักษะของหมอไปแล้ว พอคิดได้ว่า ชีวิตนี้ฉันอยากเป็นหมอนี่นา ก็ต้องมาเตรียมติวสอบให้ตัวเองใหม่ กว่าจะเข้าทำงานได้ต้องฝ่าด่านสัมภาษณ์ หลังเข้าได้ก็ยังต้องเจออีกสาระพัด ไหนจะเรื่องอายุและหน้าตาที่น่าจะเป็นอาจารย์หมอได้แล้ว ไหนจะต้องรับมือกับคนไข้หลากหลายแนว เพื่อนร่วมงานก็เด็กกว่า งานก็หนักหนาจนส่งผลต่อสุขภาพ ต้องปิดบังไม่ให้ใครรู้สถานะที่แท้จริง รับมือที่ทำงานไม่พอ ยังต้องเผชิญหน้ากับคนในบ้านอีก

แค่มาอยู่โรงพยาบาลเดียวกับสามี ก็ต้องเตรียมเจอกับความยุ่งยากแล้ว จองซุกยังต้องมาทำงานร่วมรักแรกของสามี ไป ๆ มา ๆ ได้มาอยู่แผนกเดียวกับสามีและลูกชายอีก กับสภาพของคนที่ร้างราการเป็นหมอไปนาน เงอะ ๆ เงิ่น ๆ แต่ต้องยอมรับสภาพ แถมยังต้องลุ้นว่า จะเกิดเหตุร้ายกับร่างกายของตนขึ้นมาวันไหน เพราะคนที่ผ่านการปลูกถ่ายอวัยวะทำมา ร่างกายจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เอาน่า ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องลุ้นไปกัน

ถึงยังไง เธอก็ยังมีคนที่คอยช่วยอยู่แหละน่า

ในเมื่อ ชาจองซุก คือแม่บ้านที่ต้องการจะกลับมาเป็นหมอ เธอคือหญิงผู้กำลังค้นหาคุณค่าในตัวเอง อยากใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง อยากทำในสิ่งที่เองต้องการ แต่เหมือนโชคยังดี ที่เธอมีคนรอบข้างที่เข้าใจ คอยให้คำปรึกษา ทำให้พาเดินทางกลับมาสู่ชีวิตที่เธอควรจะได้เดินเมื่อนานมาแล้ว

หนึ่งคือ เธอได้แม่เป็นโค้ชชีวิต โอด็อกรเย (Kim Mi Kyung/คิมมีกยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘โรแมนซ์ฉบับเร่งรัด’ และ ‘พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง’) แม่จอมแกร่งของจองซุก สองคือ แบคมีฮี (Baek Joo Hee/แบคจูฮี) เพื่อนสมัยเรียนที่ตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการเสริมความงาม ผู้ที่คอยให้คำปรึกษาอย่างดีตลอดมา

และสาม เขาคือ รอยคิม แพทย์หนุ่มผู้มองเห็นคุณค่าในตัวของซองจุก มองว่าเธอเป็นหมอที่ดีได้ คอยเคียงข้างและเข้าข้างจองซุกอยู่เสมอ ทั้งเขายังเป็นแพทย์เจ้าของไข้ของจองซุกด้วย การที่เขาย้ายมาอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ก็ทำให้ดูแลคนไข้รายนี้ได้อย่างใกล้ชิดจนเริ่มจะคิดอะไรไกลเกินกว่าแค่เพื่อนร่วมงาน ขณะเดียวกัน หมอรอยก็กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคุณสามีของเธอด้วย

ด้านชเวซึงฮี แม้เธอจะมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย เพราะเป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่ แต่ในตอนนี้ เธอกลับทำตัวเป็นเมียน้อย ที่ต้องคอยหลบซ่อนความสัมพันธ์กับหมอซออินโฮ ดูท่า… ลูกสาวของซึงฮีเองก็อาจจะเป็นลูกของเธอกับเขา ซึ่งเธอก็ยังคงหวังในใจว่า สักวันหนึ่ง เขาจะเลิกกับเมียมาแต่งงานกับตน

นอกจากคนเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีนักแสดงอีกคนที่น่าสนใจ หมอจอนโซรา (Jo A Ram/โจอารัม หรือ ฮเยยอน อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป gugudan จากซีรีส์เรื่อง ‘The Killer’s Shopping List’) เธอเป็นหมอหัวหน้าของมินจอง (และก็ของจองซุกด้วยแหละ) ที่แอบคบหากันลับหลังแม่ ผมสนใจเธอคนนี้ ก็คงเพราะเห็นว่าน่ารักดี

ความรู้สึกโดยรวม ๆ เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้

จากที่ดูมา 5-6 ตอน ส่วนตัวมองว่า ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องฉากการผ่าตัดเหมือนกับเรื่องอื่น ๆ การช่วยเหลือคนไข้อย่างการปัมป์หัวใจอาจจะดูไม่สมจริงนัก มีแต่ภาพการรักษาคนไข้แบบไม่ลงลึก พอให้รับรู้ถึงชีวิตของการทำงานเป็นหมอในโรงพยาบาล บทซีรีส์มันค่อนข้างเทไปเล่าเรื่องการรับมือกับชีวิตหมอประจำบ้านวัยเฉียด 50 ในโรงพยาบาล และเรื่องดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครเสียมากกว่า นอกจากนี้ ก็เพิ่มเติมเคสคนไข้ที่ต่างก็มีปัญหาครอบครัวที่แตกต่างกันไปเข้ามา ซึ่งก็นับว่า ทำออกมาสะท้อนชีวิตจริง และพาขำได้อยู่หลายจุด ทำให้เห็นว่า นักแสดงทั้งหลายต่างก็สวมบทบาทในพาร์ทคอเมดี้ได้เยี่ยมอยู่

สิ่งที่ชอบใจ ก็คงเป็นการใส่แง่มุมของสังคมเกาหลีที่ยังคงความชายเป็นใหญ่อยู่มาก ซึ่งเราก็จะพบเห็นปัญหาครอบครัวที่เป็นผลจากแนวความคิดเช่นนี้อยู่ในหลายเคสของคนไข้ อีกอย่างหนึ่ง แม้จะเล่าเรื่องสามีที่คบชู้ กับอีกคนที่ยังทำตัวเหมือนเมียน้อย แต่มันก็มีเหตุในอดีต ที่ทำให้เราเองก็ไม่อาจจะโกรธเกลียดคนเป็นเมียน้อยได้อย่าง 100% นัก เพราะเธอก็มีมุมดราม่าของตนเอง ด้านนางเอกในเรื่องก็ท้องในวัยอุดมศึกษา แม้จะไม่ถึงกับเป็นคุณแม่วัยใส แต่ก็ทำให้ชีวิตเธอแตกต่างไปจากที่คาดหวัง มันทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยเธอให้สามารถรับมือได้ไหวกับชีวิตการเป็นหมอ ในสภาพที่อายุและร่างกายไม่ค่อยเอื้อเท่าที่ควร

และด้วยความที่มันเป็นซีรีส์แนวหมอๆ ที่บทพาขบขัน มันก็เลยพาให้เราอยากไปต่อได้ไม่ยากเลย

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์

รวมซีรีส์แนวหมอๆ อ่านรีวิวได้ที่นี่

• รีวิวซีรีส์ ‘Life ค่าชีวิต’
• รีวิวซีรีส์ ‘Hospital Playlist 2’
• รีวิวซีรีส์ ‘Dr. Romantic Season 1’
• รีวิวซีรีส์ ‘Dr. Romantic Season 2’
• รีวิวซีรีส์ ‘Dr. Romantic Season 3’
• ชวนดู! 11 ซีรีส์เกาหลีแนวหมอ แต่ละเรื่องมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร