
ชีวิตหมอในโรงพยาบาลถูกบอกเล่าในซีรีส์เกาหลีมาหลายครั้งหลายหน ก่อนหน้านี้ เคยมีซีรีส์ที่พูดถึงแก๊งคุณหมอที่ชอบตั้งวงเล่นดนตรีกันจนผู้คนติดใจ ส่งผลให้สร้างซีซันสองตามมา คราวนี้ ผุดสปินออฟเล่าเรื่องแก๊งแพทย์ประจำบ้านปี 1 ในชื่อ ‘Resident Playbook’ หรือ ‘เพลย์บุ๊คชุดกาวน์‘ ขึ้นมา โดยมีหมอรุ่นพี่ตามกลับมาแจม
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์เรื่องนี้?
หลังฟีลกู้ดและเพลิดเพลินไปกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนในโรงพยาบาลยุลเจ ก็ได้เวลาติดตามเอาใจช่วยเหล่าหมอประจำบ้านปี 1 ของแผนกสูตินรีเวช แห่งโรงพยาบาลยุลเจสาขาจงโนกันบ้าง ใน ‘เพลย์บุ๊คชุดกาวน์’ ซีรีส์เกาหลีสปินออฟของ ‘เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์’ หันมาเล่าเรื่องของหมอรุ่นใหม่ที่ยังทำผิดพลาดบ่อยครั้ง ต้องโดนดุเป็นประจำ ต้องผ่านวัดใจว่าจะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้ นอกจากรับมือกับหมอและพยาบาลแล้ว ก็ต้องรับมือกับคนไข้หลากเคส พร้อมกับรับสภาพเมื่อต้องเจอกันที่หนักหน่วง
แคสต์ตัวละครหลักมาได้น่าสนใจ นอกจากมี โกยุนจอง เป็นตัวชูโรง ตัวละครอื่นก็นับว่ามีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง บวกกับมีรุ่นพี่จากภาคดั้งเดิมมารับเชิญแทบทุกตอน ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวน่าติดตาม
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Resident Playbook’
ซีรีส์นี้จะบอกเล่าชีวิตของเหล่าหมอประจำบ้านปี 1 แผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลยุลเจสาขาจงโน พวกเขาทั้งสี่เป็นหมอเรสิเดนซ์มือใหม่วัยยี่สิบแปด อันได้แก่
โออียอง (Go Youn Jung จากซีรีส์ ‘Moving’ และ ‘เกมท้าตาย’) อดีตหมออินเทิร์นของที่นี่ ที่จำใจต้องกลับมาอีกครั้งเพราะหนี้สิน 50 ล้านวอนให้ต้องชดใช้ ส่วน พโยนัมกยอง (Shin Shi A จากหนัง ‘แม่มดมือสังหาร 2‘) เพื่อนสมัยเด็กของอียองผู้มีบุคลิกเจ้าแม่แฟชั่น ขณะที่ ออมแจอิล (Kang You Seok จากซีรีส์ ‘ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน’) หนุ่มอดีตไอดอลดังเพลงเดียว และคนสุดท้าย คิมซาบี (Han Ye Ji) สาวแว่นอัจฉริยะที่พูดและคิดเหมือนเอไอ
ทั้งสี่ต้องเจอปัญหารุมเร้าทุกอย่าง จนหมอรุ่นพี่ต่างก็ห่วงว่าจะอยู่ไม่ยืดและเก็บกระเป๋าหายหน้าไป ด้วยพวกเขายังเป็นหมอที่อ่อนหัด จึงมักทำสิ่งผิดพลาดซ้ำๆ เลยโดนดุอยู่บ่อยครั้ง พบเจอแรงกดดันในโรงพยาบาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องสั่งสมทั้งประสบการณ์และจิตใจ ต้องทั้งปรับตัวและพัฒนาตนเองเพื่อจะก้าวขึ้นเป็นหมอรุ่นพี่ในปีต่อไป
รีวิวซีรีส์ ‘เพลย์บุ๊คชุดกาวน์‘
เพราะที่บ้านของโออียอง แม้จะมีฐานะดี แต่กิจการของคุณพ่อดันมาล้มละลาย ลูกสาวก็ใช้เงินมือเติบ จนมารู้ตัวอีกทีก็พบว่าตนเป็นหนี้อยู่ 50 ล้านวอน ทำไงล่ะทีนี้ ต้องทำงานหาเงินมาชดใช้หนี้ล่ะสิ และเพราะมีเส้นสายนิดหน่อย ทำให้โออียองได้กลับเข้าไปเป็นหมอในโรงพยาบาลเดิมที่เคยมาเป็นอินเทิร์น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้
เรื่องราวของเรสซิเดนซ์ปีหนึ่ง ที่ต้องเก่งและแกร่งให้พอ
ในยามที่โรงพยาบาลกำลังขาดคน หมอใหม่ทั้งสี่จึงเป็นเหมือนไข่ในหินที่บุคลากรทั้งแผนกต้องรักษาไว้ ในขณะเดียวกันก็ต้องเคี่ยวเข็ญอย่างหนัก เพื่อให้เขาทำหน้าที่หมอแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลยุลเจจงโนอย่างยอดเยี่ยม หมอปี 2-3-4 ในฐานะพี่เลี้ยง พวกเขาย่อมเข้าใจสภาวะที่หมอปี 1 ต้องเจอะเจอเพราะเคยผ่านด่านสาหัสนี้มาก่อน ด้านอาจารย์หมอก็คือแบบอย่างที่สำคัญที่จะทำให้พวกเขาเติบโต
รู้จักกับตัวละครในซีรีส์การแพทย์เรื่องนี้ให้ครบถ้วน เชิญทางนี้จ้า
ในทุกวัน แพทย์ประจำบ้านปี 1 ต้องเรียนรู้ชีวิตการเป็นหมอเพื่อไปต่อเฉพาะทาง พวกเขายังคงอ่อนประสบการณ์สุดในโรงพยาบาลรองลงมาจากพวกอินเทิร์น คือแม้จะรู้งานมากขึ้นกว่าตอนเป็นอินเทิร์นแล้วก็ตาม และนี่คือประสบการณ์การเป็นหมอที่รักษาคนจริงๆ ไม่ใช่แค่มาฝึกงานเป็นผู้ช่วยเท่านั้น พวกเขายังไม่รู้อะไรอีกมาก ยังวินิจฉัยโรคไม่เก่ง ประสบการณ์ไม่มากพอ ยังคลุกคลีกับผู้ป่วยไม่มาก การมาทำงานในโรงพยาบาลที่มีทั้ง หมอในและนอกแผนก พยาบาล ผู้ป่วย และญาติผู้ป่วย แถมยังเจอกับงานที่หนักและแทบคาดเดาอะไรไม่ได้ พวกเขาจึงต้องเรียนรู้ทุกด้านไปพร้อมๆ กัน
สำหรับโออียอง นอกจากเธอจะต่อสู้กับตัวเองที่ไร้แพสชั่นในการเป็นหมอ (แต่จำต้องทำเพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้) แล้ว เธอก็ยังต้องฝึกรับมือกับคนไข้ที่บางครั้งก็เอาแต่ใจ และบางหนก็น่าเห็นใจ แม้บางหนอาจกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ไม่ว่าใครก็ต้องรับมือหมอรุ่นพี่และอาจารย์หมอที่คอยจ้ำจี้จ้ำไช บางคนนิสัยเสียคอยแกล้ง แถมบางครั้งหมอปี 1 ก็โดนหมายหัวและเกลียดขี้หน้า เพราะพวกเขามักก่อความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหลายครั้งต้องเฝ้าถามตัวเอง นี่เรายังสมควรเป็นหมออยู่มั้ย เราไร้ค่าไปแล้วเหรอ ไม่มีใครต้องการเราแล้วอย่างนั้นเหรอ
ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาวัดใจ ว่าจะรับมือกับงานนี้ไหวไหมหรือจะวิ่งหนีไปดี กับงานที่ไม่มีเวลาเลิกแน่นอน ยุ่งเสียจนไม่มีเวลาจะกินข้าว แต่ความท้อนั้นมันจะมาแค่ช่วงแรกเท่านั้น ไม่นานปรับตัวได้ ก็จะพบว่างานรุมเร้าเพิ่มขึ้น แต่ความชำนาญก็จะเพิ่มเป็นเงาตามตัวเช่นกัน
ความสปินออฟ เลยจะได้พบหมอคุ้นหน้าจาก ‘Hospital Playlist’ ไม่เว้นตอน
ด้วยความที่มันเป็นซีรีส์ภาคแยกของ ‘เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์’ ที่ได้รับความนิยมจนมีมา 2 ซีซัน ทำให้ ‘เพลย์บุ๊คชุดกาวน์’ เรื่องนี้ จะมีหมอรุ่นพี่ที่แวะเวียนมาให้หายคิดถึงกันทุกตอน (เว้นไว้แค่ 2 ตอนแรกเท่านั้นแหละมั้ง) ไม่ว่าจะเป็นหมอมินฮา (Ahn Eun Jin) ที่ตอนนี้ประจำอยู่ รพ.ยุลเจซงโด รู้จักกันดีกับหมอโดวอน และเห็นความเป็นหมอแผนกสูติฯ ในตัวของโออียอง, จากนั้นก็เป็นหมอจุนวาน (Jung Kyoung Ho), หมอจองวอน (Yoo Yeon Seok) อีอิกซุน (Kwak Sun Young) และหมอจางคยออุล (Shin Hyun Bin)
เอาแค่ผ่านไป 8 ตอน ตัวหลักก็มาเกือบครบแล้ว นับดูก็จะรู้ว่ายังขาดใครไป เรียกได้ว่า ตัวไหนโผล่มา คนที่ผูกพันกับตัวละครใน 2 ซีซันหลักเป็นต้องใจฟูกันแน่นอน
เรื่องรักของบรรดาหมอๆ ยังคงไม่ขาด
ไม่ใช่แค่หมอประจำบ้านปี 1 ที่จะต้องเรียนรู้การเป็นหมอที่ดี แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตของตนเองต้องจัดการด้วย ไล่กันไปตั้งแต่หมอโออียอง ตัวเด่นของเรื่องที่เป็นฝ่ายชอบหมอคูโดวอนก่อน และเป็นฝ่ายรุกเองอีกต่างหาก จนโดวอนเองก็ปฏิเสธความรู้สึกตัวเองได้ไม่มิด แต่ก็ไม่วายมีมือที่สามเข้ามาแทรกแซง ฮัมดงโฮ (Kim E Jun จากหนังเรื่อง ‘Nothing Serious’) หมอหนุ่มแผนกวิสัญญีคนนั้นนั่นไง เขาคงเป็นบททดสอบหัวใจของสองหมอ หรือบางทีอาจจะเป็นตัวเร่งให้ต่างคนต่างแสดงออกกันมากขึ้นก็เป็นได้
ด้านนัมกยองก็แอบคบหาแบบรัก ๆ เลิก ๆ กับแฟนหนุ่ม ปิดบังความจริงกับเพื่อนหมอ ขณะที่ก็มีบางอย่างชวนให้สงสัยในความสัมพันธ์ของซาบีกับแจอิล เอาเป็นว่า ดู ๆ กันไปให้ถึงบทลงเอยก็คงจะรู้กันแหละน่า
ลงลึกไปถึง ความคิด ความรู้สึก ของหมอและผู้ป่วย
ซีรีส์มันเก็บรายละเอียดหลายอย่างที่ทำให้เรามองเห็นชีวิตและการทำงานในฐานะแพทย์ในโรงพยาบาลอยู่พอสมควรเหมือนกัน ยกตัวอย่าง เช่น คูโดวาน เขาคือหมอคนดีของทั้งแผนกที่ทุ่มเทให้กับงานอย่างไม่เคยปริปากบ่น แต่เมื่ออยู่นอกเวลางาน เขาดูเหมือนเป็นอีกคน ถ้าให้มอง ก็เชื่อว่า เขาแบกมันจนหนักอึ้งแล้ว เวลาที่จะได้อยู่กับตัวเองก็คงอยากวางมันจากบ่าบ้าง นั่นก็เป็นเรื่องโออียองต้องทำความเข้าใจ
และหลายครั้ง เราก็จะได้ยินคำปลอบโยนดีๆ จากหมอที่บอกกับคนไข้ พาให้รู้สึกว่าในสิ่งที่ดูว่าแย่ ก็ยังมีสิ่งดีๆ ให้มองอยู่เช่นกัน ทำให้มองเห็นว่า การเป็นหมอ นอกจากจะใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญในการรักษาแล้ว จิตวิทยาก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ ยังไงเป็นหมอ ไหวพริบก็ควรต้องมี
จะดูซีรีส์เรื่องนี้ให้ได้อรรถรสครบถ้วน ต้องดูอีก 2 เรื่องในจักรวาลเดียวกันด้วย
เอาเข้าจริงแล้ว แพทย์ประจำบ้านก็ยังไม่ถือเป็นหมอชนชั้นต่ำสุดในโรงพยาบาล เพราะพวกเขายังเก่งกว่าอินเทิร์นที่เป็นหมอจบหมาด ๆ ไม่มีประสบการณ์จริงเลย ในสภาวะที่โรงพยาบาลขาดคน ขนาดอินเทิร์นก็ยังต้องเก็บไว้ให้ได้เช่นกัน
นอกนั้น ก็คงเป็นเรื่องปัญหาและการประสานงานระหว่างแผนก การกระทบกระทั่งระหว่างหมอสูติฯ ที่มีกับหมอแผนกกุมารเวชบ้าง แผนกวิสัญญาบ้าง แผนกฉุกเฉินบ้าง ก็ต้องแก้กันไปทีละเปลาะ
สุดท้าย เราก็คงต้องลุ้นกันดูว่า โออียอง ที่จำใจมาเป็นหมอเพราะต้องชดใช้หนี้ จะเปลี่ยนแปลงหัวใจตนเองได้มั้ย รับการเป็นหมอได้หรือเปล่า และแผนกที่เธอเลือกจะเป็นสูติฯ หรือไม่ ส่วนเรื่องความรัก เธอจะลงเอยกับหมอคูโดวอนหรือเปล่า
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Resident Playbook / เพลย์บุ๊คชุดกาวน์ / 언젠가는 슬기로울 전공의생활 / Someday Wise Resident Life |
ผู้กำกับ | Lee Min Soo/อีมินซู |
ผู้เขียนบท | Kim Song Hee/คิมซงฮี (‘Reply 1988’ และ ‘Hospital Playlist’) |
นักแสดง | Go Youn Jung/โกยุนจอง, Shin Shi A/ชินชีอา, Kang You Seok/คังยูซอก, Han Ye Ji/ฮันเยจี, Jung Joon Won/จองจุนวอน |
แนว/ประเภท | คอมเมดี้, ดราม่า |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 12 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 12 เมษายน – 18 พฤษภาคม 2025 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Egg Is Coming, Netflix Studios, tvN |