รีวิว Luca | ลูก้า เมื่อลูกก้าวข้ามกฎขึ้นบกมาพบโลกใหม่

เกือบแล้ว เกือบจะได้ดูในโรงหนังแล้ว แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนผัน ทุกอย่างจึงเลื่อนไปจนในที่สุด ก็ได้รับข่าวว่า แอนิเมชันเรื่องนี้จะได้ฉายในระบบสตรีมมิ่ง ดูกันที่บ้านไม่ต้องออกไปเสี่ยงภัยภายนอกอีกแล้ว ฟังดูเหมือนจะดี แต่ก็ต้องแลกมากับการดูความเคลื่อนไหวในจอเล็ก พร้อมๆ กับการเปิดให้บริการของ Disney+ Hotstar เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และหนังเรื่องแรกที่นายแพทหยิบมารีวิวก็คือ ‘Luca’ นั่นเอง

มันเป็นเรื่องราวของเมืองชายทะเลที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปีศาจทะเลที่น่าเกลียดน่ากลัวและคอยจะทำร้ายมนุษย์อยู่ ผู้คนจึงพากันหวาดกลัวแต่ตั้งมั่นจะจับตัว แต่แท้ที่จริง พวกเขาเป็นเพียงเผ่าพันธุ์ที่อยู่กับอย่างสงบสุขใต้ท้องทะเล ถ้าพวกเขาเกิดขึ้นมาบนบกแล้วอยู่ปะปนกับผู้คนล่ะ

มันจะเป็นยังไง?

เรื่องย่อแอนิเมชัน ‘Luca’

ตำนานที่ถูกเล่าขานต่อเนื่องกันมา ใกล้เกาะแห่งนั้นจะเป็นพำนักของเหล่าปีศาจทะเล ผู้คนจึงไม่ค่อยไปหาปลาใกล้แถบนั้นกันเท่าไหร่ แต่ตำนานหลอกเด็กเหล่านั้นเป็นจริง มีปีศาจทะเลจริงๆ แต่พวกเขาเป็นเพียงปลาที่รูปร่างหน้าคล้ายคลึงกับมนุษย์ พูดได้ ว่ายน้ำและมีครีบ

ลูก้า (พากย์เสียงโดย Jacob Tremblay จากหนังเรื่อง ‘Room’ และ ‘Wonder’) เด็กชายที่อาศัยอยู่กับครอบครัวใต้ทะเล เขาถูกปลูกฝังมาว่ามนุษย์คือปีศาจบกที่ไม่ควรเข้าใกล้ ถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเหนือน้ำ เขาจึงมีชีวิตประจำวันอยู่กับการต้อนฝูงปลาไปเลี้ยงตามแนวสาหร่าย มีแค่คุณยายที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว

แต่วันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ อัลแบร์โต้ (พากย์เสียงโดย Jack Dylan Grazer จากเรื่อง Shazam! และ It) ที่กล้าและพาเขาขึ้นบกไปพบกับสิ่งแปลกใหม่แม้ต้องแหกกฎที่พ่อแม่ห้ามเอาไว้ มันทำให้เขารู้ว่า เมื่อเขาขึ้นมาบนบก ร่างกายของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนเหมือนปีศาจบก ในที่สุด เขาก็เข้าไปในเมืองโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจะหาเวสป้าเป็นของตัวเองสักคัน โดยมีข้อเตือนประจำใจ คือ ห้ามโดนน้ำ

ที่นั่น ลูก้าและอัลแบร์โต้ ได้พบกับ จูเลีย (Emma Berman) เด็กสาวที่ไม่ค่อยมีเพื่อน พวกเขาทั้งสามรวมตัวกันเป็นทีมอ่อนด๋อยเพื่อเข้าแข่งขันปอร์โตรอสโซ่คัพชิงเงินรางวัล พร้อมกันนั้น ก็ต้องรับมือพ่อของจูเลียที่เป็นนักล่าปีศาจทะเล

งานนี้ ลูก้ากับอัลแบร์โต้จะรอดมั้ยน้า?

รีวิวแอนิเมชัน ‘ลูก้า’

ก่อนอื่นก็คงต้องบอกว่า มันเป็นหนังแอนิเมชันฉบับครอบครัว มันจึงเหมาะกับเด็กและเหล่าคนดูที่มีหัวใจเป็นเด็กทั้งหลายเป็นจุดสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีแง่มุมชวนฉุกคิดสำหรับผู้ใหญ่อยู่เช่นกัน

ปีศาจทะเล กับ ปีศาจบก

แนวคิดแฟนตาซีที่ใส่ลงมาในคาแรกเตอร์ของลูก้าที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘ปีศาจทะเล’ (ในความคิดของเหล่ามนุษย์) พวกเขาน่าจะมีลักษณะเป็นปลาชนิดหนึ่ง แต่มีความล้ำเลิศด้านสติปัญญาที่เทียบเท่ามนุษย์ พวกเขาเลือกจะซุกซ่อนตัวให้รอดพ้นจากสายตาของชาวเมือง Portorosso พ่อแม่ถึงขนาดออกกฎห้ามไม่ได้ลูกชายอย่างลูก้าโผล่ขึ้นเหนือน้ำหรือปรากฏตัวให้มนุษย์ (ที่พวกเขาเรียกว่า ‘ปีศาจบก’) พบเห็น แต่เพราะความอยากรู้บวกความเบื่อในชีวิตที่ซ้ำซาก เมื่อมาเจอกับคำชักชวนของอัลแบร์โต้ที่เคยคุ้นกับโลกบนพื้นแผ่นดินมาก่อน ผลักดันลูก้าให้ฝ่าฝืนกฎของพ่อแม่ และค้นพบบางสิ่งที่ถูกปกปิดมานาน

เมื่อเขาขึ้นมาบนบก พอเนื้อตัวแห้ง ร่างก็กลายเป็นมนุษย์ หางและเกล็ดก็หดหาย บนหัวมีผม สีตาก็แปรเปลี่ยน ลักษณะเช่นนี้ เขากลมกลืนกับเหล่าปีศาจบกได้แน่ แต่เขาต้องไม่ให้ตัวถูกน้ำอย่างเด็ดขาด

เขาได้เรียนรู้ว่า ‘ปีศาจบก’ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย มีทั้งดีและร้ายปะปนกัน การพบเจอสิ่งใหม่กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของลูก้าให้เปล่งประกาย ทำให้เขารู้สึกลิงโลด ทั้งได้เพื่อนใหม่ ทั้งอยากจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่รู้จบ

มิตรภาพ และการเติบโต

เอาจริงๆ มันไม่ได้มีความซับซ้อนใดนักในการสร้างตัวละครเหล่านี้ ทุกตัวถูกสร้างขึ้นมาด้วยการใส่เหตุผลอย่างง่ายๆ เพื่อเป็นแรงส่งให้เกิดการกระทำ แต่จินตนาการที่วางให้ตัวเอกเป็นมนุษย์ปลาที่มีชีวิตอยู่ในน้ำนั้นน่าสนใจดี พวกเขามีชีวิตคล้ายชาวนาที่เลี้ยงสัตว์ ปลูกและเก็บเกี่ยวพืชผัก ดูเป็นชีวิตที่สุขสงบดี

แอนิเมชันเรื่องนี้ว่าด้วยมิตรภาพ สองคนที่มีอุปนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ลูก้ามีความกระตือรือร้น อัลแบร์โต้มีความมั่นใจ แต่ทั้งสองกลับคบเป็นเพื่อนกันได้อย่างสนิทใจ ความไม่เกรงกลัวสิ่งใดของอัลแบร์โต้ทำให้ลูก้าที่ไม่เคยกล้าอะไรมาก่อน ได้เรียนรู้และกล้าทำสิ่งต่างๆ ให้มากขึ้น เป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันลูก้าไปสู่สิ่งใหม่ๆ

ลูก้ารู้สึกอิจฉาอัลแบร์โต้ที่พ่อแม่ให้อิสระ แต่ในวันนี้ เขาได้ทะลายกำแพงออกนอกกรอบมาได้แล้ว

ที่เมืองปอร์โตรอสโซ สองสหายได้พบกับตัวร้ายอย่างเอร์โคเล่ (พากย์เสียงโดย Saverio Raimondo) ที่เป็นหัวโจกและมุ่งหมายต้องการเอาชนะการแข่งขันเปอร์โตรอสโซ่คัพในปีนี้อีกครั้ง ทำให้ลูก้าและอัลแบร์โต้มองเห็นหนทางที่จะมีเวสป้าเป็นของตัวเองสักคัน

แต่พวกเขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ เธอชื่อ จูเลีย ที่ถูกมองว่าเป็นขี้แพ้และมุ่งมั่นจะเอาชนะเพื่อโค่นเอร์โคเล่ลงให้จงได้ ความต้องการเอาชนะของสองสหายสะกิดใจจูเลียจนบอกรับร่วมทีม จูเลียเป็นคนที่ทำให้ลูก้าขี่จักรยานเป็น ทำให้เขาได้เรียนรู้จักกล้องดูดาวและได้ความรู้อีกมากมายบนโลกนี้ ที่ถ้าเขาไม่ขึ้นมาบนบก เขาคงไม่มีวันได้รู้ มิตรภาพของลูก้าและอัลแบร์โต้กำลังถูกท้าทาย เมื่อมีจูเลียเข้ามาทำให้โลกและความคิดของลูก้าเปลี่ยนไป

ปมหนึ่งที่ถูกหยิบมาเล่า คือ การที่พ่อแม่ผู้สร้างลูกมา หวังดีต่อลูก โดยการจับขังไว้ให้อยู่ในสายตา ให้อยู่แต่ในจุดที่พวกเขาเชื่อว่าลูกจะปลอดภัย มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการ พ่อแม่ปิดกั้นจินตนาการและโอกาสในการเรียนรู้โลกกว้างของลูก แอนิเมชันเรื่องนี้คงพยายามบอกว่า สิ่งที่พวกเขาควรทำคืออะไร

ที่จะลืมไปเสียมิได้ ก็คงจะเป็นเจ้าเหมียวอ้วน มาเคียเวลลี (Machiavelli) เป็นแมวนักแย่งซีนประจำเรื่อง แม้ไม่มีบทต้องพูด (ก็เป็นแมวนี่เนอะ) แต่สีหน้าท่าทางทำให้คนดูเดาได้ทันทีว่า มันคิดสิ่งใดอยู่ ปรากฏทีไรก็ชวนขำชวนยิ้มไม่เว้นวาย นางรับบทเป็นแมวแสนรู้ที่รู้ทันลูก้าและอัลแบร์โต้ไปเสียหมดทุกอย่าง

สกอร์ดี ภาพสดใส ให้พลัง

อีกหนึ่งความสุดยอดของแอนิเมชันเรื่องนี้ ก็คือสกอร์ประกอบภาพยนตร์ที่ทำให้ไพเราะน่าฟัง คลอเคล้ากันไปกับเรื่องราวและส่งเสริมให้เพลิดเพลินไปกับภาพ หนังค่อนข้างในเวลากับการบอกเล่าจินตนาการอันสดใสของลูก้า ด้วยการสร้างออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวเหนือจริง ถ้าใครจะอยากดูซ้ำสองก็คงไม่แปลกหรอก ว่ามะ?

ด้านงานภาพก็ใส่สีสันที่สดใสในบรรยากาศแบบซัมเมอร์ บวกกับโลเกชันเมืองชายทะเลสไตล์อิตาลี เหล่าปีศาจทะเลที่มีสีสันสวยงามแปลกตา เป็นแอนิเมชันที่สร้างมาสำหรับดูพร้อมหน้าในครอบครัวที่มีเด็กๆ แถมยังให้แง่คิดกับทุกเพศทุกวัยไปในคราวเดียวกัน

แม้ความจริงโลกมันจะไม่ได้มีแต่แง่บวกเท่านั้นก็ตามทีเถอะ!

ภาพยนตร์เรื่อง: Luca / ลูก้า
ผู้กำกับ: Enrico Casarosa (ผลงานการกำกับเรื่องก่อนหน้า แอนิเมชันขนาดสั้น ‘La Luna’)
ผู้เขียนบท: Jesse Andrews, Mike Jones
นักแสดง: Jacob Tremblay, Jack Dylan Grazer, Emma Berman, Marco Barricelli, Sacha Baron Cohen, Saverio Raimondo
ความยาว: 95 นาที
แนว/ประเภท: Animation, Adventure, Comedy, Family, Fantasy
เรท: PG
อัตราส่วน: 1.85 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 30 มิถุนายน 2021 ผ่าน Disney+ Hotstar
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Pixar Animation Studios, Walt Disney Pictures