ส่องผลงาน อีซองคยอง (Lee Sung Kyung) สาวหน้าเก๋ ตาสวย หุ่นนางแบบ

สำหรับคอซีรีส์ทั้งหลาย เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอคนนี้ อีซองคยอง (Lee Sung Kyung) ซึ่งสำหรับตัวเอง ก็ถือว่า ค่อนข้างจะรู้จักเธอช้าอยู่สักหน่อย เพิ่งจะเริ่มมาติดตามผลงานของเธอได้เพียงไม่นานนัก แต่พอได้เจอกันเรื่องแรก มันก็จะมีเรื่องสอง เรื่องสาม ตามมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ คิดว่าคงถึงทีต้องเขียนถึงซะแล้วล่ะ

เธอเป็นนักแสดงสาวที่ส่วนตัวรู้สึกได้ถึงความตัวสูง ขายาว นอกจากความสวยหวาน นางเอกหน้าเก๋ และตาคมแล้ว อีกสิ่งที่โดดเด่นบนใบหน้าของเธอก็คือ ความน่ารักสดใสกับตาสีน้ำตาลธรรมชาติมาแต่กำเนิดนั่นเอง

ประวัติอันย่นย่อของ อีซองคยอง

อีซองคยอง (이성경) เกิดวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1990 เกิดที่เมืองโกยาง คยองกี ประเทศเกาหลีใต้ครับ เป็นสาวเลือดกรุ๊ป B ผู้มีความสูง 175 เซนติเมตร (5’9″) จึงไม่แปลกถ้าจะรู้สึกว่าเธอดูขายาวมากโดยเฉพาะเวลาเธอใส่กางเกงยีนส์ และไม่แปลกถ้าจะเธอถูกจับคู่กับนักแสดงชายตัวสูงเป็นประจำ ในระดับอุดมศึกษา เธอจบจากมหาวิทยาลัยสตรีดงดุก (Dongduk Women’s University) ในด้าน Performance Arts and Modeling และปัจจุบัน อยู่ในสังกัด YG Entertainment ครับ

ด้วยรูปร่างที่สูงผอม เธอจึงเหมาะเหม็งกับอาชีพนางแบบจริงๆ ซองคยองเริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงในฐานะนางแบบก่อน เคยได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ SBS Super Model Contest และได้รับรางวัล Rex Award ในปี 2008 แต่หลังจากเดบิวต์ในฐานะนักแสดงแล้ว เธอก็หยุดรับงานเดินแบบและมุ่งมั่นด้านการแสดงเต็มตัว ผลงานเปิดตัวในฐานะนักแสดงของเธอก็คือ ‘It’s Okay, That’s Love’ ที่เป็นซีรีส์ในปี 2014 ก่อนจะตามมาด้วยซีรีส์เรื่อง ‘Flower of the Queen’ โดยเธอได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากเวที MBC Drama Awards จากเรื่องนี้ด้วย

ส่วนในด้านการร้องเพลงนั้น แม้เธอไม่เคยเป็นเด็กฝึกที่ไหน แต่ความสามารถในการร้องนั้นถือว่าโดดเด่น เธอเคยร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘Trolls’ พร้อมพากย์เสียงเป็นตัวละครป็อปปี้ในเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งยังได้มีโอกาสร่วมงานกับ The Papers ในซิงเกิล ‘I Love You’ ในปี 2013 ด้วยนะ

นอกจากจะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือและรับงานในบทบาทที่หลากหลายแล้ว เธอก็มีความสามารถ ทั้งด้านร้อง เต้น แสดง เล่นดนตรี และกีฬา มีน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีบุคลิกสดใส ร่าเริง ใครอยู่ด้วยก็มีความสุข ในด้านความรักนั้น เธอเคยคบหาเป็นแฟนกับ นัมจูฮยอก (Nam Joo Hyuk) ก่อนตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ลงไป

ผลงานซีรีส์ของ อีซองคยอง

เอาเข้าจริง ผลงานของ อีซองคยอง นั้นก็นับว่าไม่น้อยเลย หลายคนก็อาจจะมีปัญหาว่า การย้อนกลับไปติดตามผลงานย้อนหลังต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย แต่ก็ไม่น่าจะยากเกินจนทำให้สำเร็จไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้ เราขอมาไล่เรียงกันไปเลยดีกว่า ว่าที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เธอมีผลงานอะไรให้เราชมกันบ้าง

ปี 2014 | It’s Alright, This Is Love | ถ้ารักกันมันก็โอเค

ผลงานเดบิวต์ในฐานะนักแสดงของซองคยอง เป็นซีรีส์จากช่อง SBS ที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ ‘It’s Okay, That’s Love’ นั่นแหละครับ มันเป็นเรื่องราวความรักของนักเขียนนิยายสืบสวนฆาตกรรมกับคุณหมอสาวสวยโสดซิง ที่นำแสดงโดย กงฮโยจิน และ โจอินซอง ซึ่งในเรื่องนี้ เธอได้รับบทบาทสมทบเป็น โอโซนยอ เด็กนักเรียนมัธยมปลาย ผู้มีบุคลิกอันโดดเด่นด้วยผมน้ำตาลแดงแซมชมพู แต่เพราะขาดความรักทำให้กลายเป็นคนก้าวร้าว หลังได้งานพาร์ทไทม์ในร้านกาแฟ เธอก็ปรับปรุงตัวกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ในเรื่องนี้ เธอเป็นแฟนสาวของพัคซูกวาง (รับบทโดย อีกวางซู) ครับ

ปี 2015 | Flower of the Queen

ข้ามฟากมาที่ซีรีส์ช่อง MBC กันบ้าง เรื่องนี้มีนักแสดงนำเป็น อีจงฮยอก และ คิมซองรยอง เล่าเรื่องของนักแสดงสาวผู้ทะเยอทะยานที่เป็นเจ้าของรายการทำอาหาร กับชายหนุ่มลูกคนโตของตระกูลที่ทำธุรกิจขนาดใหญ่ ฝ่ายหญิงเคยทอดทิ้งลูกสาวเพื่อโอกาสในวงการ แต่เธอก็ได้พบกับลูกสาวตอนโต ที่รับบบทโดย อีซองคยอง นั่นเอง

ในเรื่องนี้ ถือได้ว่าซองคยองได้รับบทบาทแสดงนำเป็นครั้งแรก แม้จะเป็นในฐานะคู่รอง เธอเล่นเป็นคังอีซอล คู่กับ ยุนพัค ที่เล่นเป็นพัคแจจุน และด้วยความสามารถทางการแสดงที่โดดเด่น ส่งให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากเวทีประกาศรางวัล MBC Drama Awards 2015 

ปี 2016 | Cheese in the Trap | แผนรักกับดักหัวใจ

ดูเหมือนนักแสดงสาวหน้าใหม่คนนี้จะยังมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กับซีรีส์รอมคอมดราม่าที่สร้างจากเว็บตูน ออนแอร์ทางช่อง tvN เรื่องนี้เล่าเรื่องรรักของฮงซอล (รับบทโดย คิมโกอึน) นักศึกษาสาวผู้ต่อต้านสังคม ด้วยฐานะของครอบครัวทำให้เธอต้องทำงานพาร์ทไทม์ตลอดเวลาเ เธอโดนรุ่นพี่หนุ่มสุดฮอตแสนเพอร์เฟ็กต์อย่าง ยูจอง (รับบทโดย พัคแฮจิน) รุกจีบหนัก แต่จู่ๆ แพคอินโฮ (รับบทโดย ซอคังจุน) หนุ่มอารมณ์ร้อนแต่จิตใจดี ที่รู้ถึงด้านมือของยูจองก็เดินเข้ามา นำพารักสามเส้าให้บังเกิดขึ้น

งานนี้ซองคยองได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นอีกครั้ง ด้วยลีลาการเล่นใหญ่ในบทของ แพคอินฮา พี่สาวฝาแฝดของแพคอินโฮ เจ้าแม่แฟชั่นที่บ้าแบรนด์เนมผู้แอบชอบยูจอง อ่อ เรื่องนี้ก็มี นัมจูฮยอก ร่วมเล่นด้วยนะครับ

ในปีเดียวกัน เธอก็ปล่อยซิงเกิ้ลเพลงคัฟเวอร์อย่าง ‘My Lips like Warm Coffee’  ที่ร่วมงานกับ เอ็ดดี้ คิม (Eddy Kim) ออกมาด้วยนะ

ปี 2016 | Doctors | ตรวจใจเธอให้เจอรัก

คราวนี้ ซองคยองเปลี่ยนตัวเองมาเป็นศัลยแพทย์ประสาทผู้ที่ทั้งมีความฉลาด เก่ง รวยแต่มีชีวิตที่ขมขื่น ในซีรีส์การแพทย์จาก SBS ที่มีอีกชื่อไทยว่า ‘เการัก กาวน์ใจ’ ซีรีส์เล่าเรื่องราวของกลุ่มแพทย์ ที่นำโดย ฮเยจอง (รับบทโดย พัคชินฮเย) หญิงสาวที่เติบโตมาอย่างยากลำบากและมีปมในวัยเด็ก ทำให้เธอดูเป็นคนก้าวร้าว แต่เธอก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจาก ฮงจีฮง (รับบทโดย คิมแรวอน)

ในเรื่องนี้ อีซองคยองเล่นเป็น จินซออู คุณหนูเอาแต่ใจที่เกิดมาในครอบครัวหมอ ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว เลยถูกบีบให้ต้องเป็นหมอตามไปด้วย แม้จะได้รับความรักและความเอาใจใส่ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งขาดหายไป การได้ดูเรื่องนี้ จะทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวไปอีกขั้นของเธอครับ

ปี 2016-2017 | Weightlifting Fairy Kim Bok-Joo | นางฟ้ายกน้ำหนัก คิมบ๊กจู

ผลงานซีรีส์รอมคอมสุดฮาทางชอง MBC ที่พาให้อีซองคยองดังเปรี้ยงปร้างอย่างฉุดไม่อยู่ และยังเป็นเรื่องแรกที่เธอได้เล่นเป็นนางเอกเต็มตัวอีกด้วย เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของนักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิกจางมีรัน เล่าเรื่องราวของ คิมบ๊กจู นักศึกษามหาวิทยาลัยกีฬาผู้เล่นกีฬายกน้ำหนักที่แสนจะไม่ป็อบเอาเสียเลย ทำให้ไม่เคยมีแฟน กับนักว่ายน้ำหนุ่มสุดหล่ออย่าง จองจุนฮยอง (รับบทโดย นัมจูฮยอก) ที่ออกสตาร์ทผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง สองคนพบกันเพราะอุบัติเหตุทางจักรยาน

เรื่องนี้ เพื่อรับบทนักยกน้ำหนัก ซองคยองต้องเพิ่มน้ำหนักตัวถึง 5 กิโลกรัมเลยเชียวแหละ ทั้งคู่สนิทกันมากเพราะได้เป็นนางแบบนายแบบได้ถ่ายแบบคู่กันบ่อย จนในที่สุดก็มีข่าวการคบกัน ก่อนที่ต่อมา YG จะให้ข่าวว่า ทั้งสองได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กัน หลังจากเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ต่อสาธารณชนเป็นเวลา 4 เดือน

นอกจากนี้ ในปี 2017 ซองคยองก็ยังได้ไปเล่นรับเชิญในซีรีส์​ ‘While You Were Sleeping’ อีกด้วยนะครับ

ปี 2018 | About Time | หยุดเวลาเพื่อรัก

หลังได้รับบทนางเอกไปแล้วในปีก่อน ในปีถัดมา ก็ได้เวลาของเธออีกครั้ง ซีรีส์เรื่อง ‘หยุดเวลาเพื่อรัก’ ที่ซองคยองเล่นเป็น ชเวมิคาเอลา หรือ มิคา นักแสดงมิวสิคัลสาว ที่มีความสามารถในการมองเห็นเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ เมื่อมองเห็นเวลาชีวิตที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เธอได้พบกับชายหนุ่มที่เมื่ออยู่ใกล้ เธอจะสามารถหยุดนาฬิกาชีวิตของเธอได้ เขาคือ อีโดฮา (รับบทโดย อีซังยุน) ประธานของบริษัทวัฒนธรรมเอ็มเคกรุ๊ป ทำให้เธอพยายามทุกทางที่จะได้อยู่ใกล้กับเขา

ใครที่ได้ชม ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวคือ เคมีแสนสั่นสะท้านของมิคาและอีโดฮา ทั้งยังถือการได้รับบทนี้ ทำให้เหมือนเธอได้เข้าใกล้กับความฝันของตนเอง ที่อยากจะเป็นนักแสดงละครเวที และนอกจากแสดงนำแล้ว อีซองคยอง ยังได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ถึง 3 เพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘Tomorrow will be a better day!’, ‘I’ และ ‘Only You’ ใครอยากฟังเสียงของเธอ เปิดฟังได้เลย เราแปะมาให้แล้ว

ปี 2020 | Dr. Romantic 2 | คุณหมอ​โรแมนติก ปี 2

ดูเหมือนคาแรกเตอร์หมอจะเข้าตาผู้สร้างซีรีส์ ในที่สุด ซองคยองก็ได้รับบทหมออีกครั้ง ในเรื่อง ‘คุณหมอโรแมนติก ปี 2’ ภาคสองของซีรีส์สุดเข้มข้นของเหล่าคุณหมอในโรงพยาบาลทลดัมอันห่างไกล ที่มีอาจารย์หมอคิม (รับบทโดย ฮันซอกกยู) ศัลยแพทย์อัจฉริยะเป็นตัวยืน และมี ชาอึนแจ (ที่รับบทโดย อีซองคยอง) ศัลยแพทย์ทรวงอกที่มีปัญหา เป็นหมอผ่าตัดแต่ไม่สามารถผ่าตัดคนไข้ได้ และ ซออูจิน (รับบทโดย อันฮโยซอบ) ศัลยแพทย์ทั่วไป หมอที่ถูกมองเป็นตัวปัญหา ต่างย้ายเข้ามาใหม่ และได้อาจารย์หมอช่วยสอนเรื่องการเป็นหมอ

งานนี้ ใครๆ ก็บอกว่า ซองคยอง สอบผ่านในทั้งด้านการเป็นศัลยแพทย์และเคมีความเข้ากันดีกับอันฮโยซอบ ซีรีส์ได้รับเรตติ้งค่อนข้างสูง อีกทั้งซีรีส์และนักแสดงต่างก็ได้รับรางวัลกันถ้วนหน้า

ในปีเดียวกันนี้ ซองคยอง ก็ยังได้ไปเล่นรับเชิญเป็นนางแบบแฟนเก่าของแจซอกในซีรีส์ครอบครัวเรื่อง ‘Once Again ขอเริ่มรักอีกครั้ง’ กว่าจะได้เจอก็ต้องเป็นตอนที่ 53-54 โน่นแน่ะ ฉะนั้น ใครอยากจะเธอก็ต้องดูกันยาวจนเกือบจบเลยล่ะ

ปี 2020 | Record of Youth | เส้นทางดาว

‘Record of Youth เส้นทางดาว’ เป็นซีรีส์ที่เล่าชีวิตของคนในวงการบันเทิง ซาฮเยจุน (รับบทโดย พัคโบกอม) ชายหนุ่มจิตใจที่ไม่ค่อยรุ่งในแวดวงการแสดง ต่างจากเพื่อน วอนแฮฮโย (รับบทโดย บยอนอูซอก) ที่เริ่มต้นมาพร้อมกันแต่กลับไปได้รุ่งกว่า ระหว่างที่ต้องเลือกว่าจะเข้ากรมดีไหม ก็มีสาวอีกคนเข้ามา อันจองฮา (พัคโซดัม) ผู้ช่วยในร้านเสริมสวยที่เป็นติ่งของฮเยจุน

ในเรื่องนี้ ซองคยองรับบทเป็น จินซออู นักแสดงที่ได้ร่วมงานกับซาฮเยจุนในซีรีส์เรื่องใหม่ของเขา ซึ่งจะโผล่มาเฉพาะตอนที่ 12-13 แถมมีฉากที่พวกเขากอดกันในระหว่างถ่ายทำด้วยนะ

ปี 2022 | Sh**ting Stars | สาวพีอาร์กับนายซุปตาร์ตัวป่วน

เอาเข้าจริง นี่คือ ซีรีส์เรื่องแรกเลยแหละที่ผมได้เจอกับซองคยอง ‘สาวพีอาร์กับนายซุปตาร์ตัวป่วน’ ครั้งนี้ เธอรับบทนำแบบฉายเดี่ยวจริงจัง และได้เล่นคู่กับ คิมยองแด ซีรีส์แนวรอมคอมที่บอกเล่าชีวิต ความรัก และความสัมพันธ์ ของหัวหน้าพีอาร์สาว โอฮันบยอล กับ กงแทซอง นักแสดงชายตัวท็อปในสังกัด ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาก่อน แต่ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ดูไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไรนัก

ซีรีส์เล่าเรื่องเบื้องหลังของวงการบันเทิง ในเรื่องมีทั้งตัวละครที่เป็นเหล่าดารา ทีมพีอาร์ ผู้จัดการ นักข่าว รวมไปถึงแฟนคลับ เป็นรอมคอมที่ดึงแทบจะทุกอย่างมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้ตลอดเวลา จนยอมรับเลยว่า ซองคยอง เล่นคอเมดี้ได้เก่งพอตัวเลย

ปี 2023 | Call It Love

จากคาแรคเตอร์หมอในซีรีส์ดราม่าแนวหมอๆ มาสวมบทพีอาร์ในซีรีส์รอมคอมอารมณ์ดี มาถึงซีรีส์โรแมนติกดราม่าเรื่องนี้ ‘Call It Love’ ที่เล่าเรื่อง ชิมอูจู ลูกสาวคนรองในจำนวนพี่น้อง 3 คน หลังพ่อตาย ทั้งสามพี่น้องถูกเมียใหม่ของพ่อไล่ออกจากบ้าน ทำให้เธอต้องการแก้แค้นกับลูกชายของนาง ฮันดงจิน (รับบทโดย คิมยองกวัง) ผู้เก็บซ่อนความเหงาไว้ภายใต้ท่าทีเงียบขรึม ก่อนที่จะรู้ตัวว่าได้ตกหลุมรักเขาเข้าให้แล้ว

เรื่องราวที่ออกไปในทางปลอบประโลม เมื่อต่างคนต่างมีแผลใจ ได้พบกันเพราะความต้องการแก้แค้น แต่กลับกลายเป็นความอบอุ่นที่ไม่ทันได้คาดหวัง ซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความเหงาของทั้งเรื่องราวและงานภาพ ซองคยองปรับตัวเองให้กลายเป็นสาวบุคลิกแรงๆ ก่อนจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่โหยหาความรักจากอีกฝ่าย เป็นอีกเรื่องพิสูจน์ความเก่งในเชิงการแสดงของเธอได้เป็นอย่างดีเลยครับ

ปี 2023 | Dr. Romantic 3 | คุณหมอโรแมนติก ปี 3

ซีรีส์แนวหมอที่เดินต่อมาถึงภาค 3 แล้ว และก็ยังคงเป็น ฮันซอกกยู ที่รับบทนำเป็นบูยงจูหรืออาจารย์คิมเช่นเดิม เช่นเดียวกันหมอคู่นำที่ก็ยังคงเป็น อีซองคยอง และ อันฮโยซอบ ‘Dr. Romantic 3’ เป็นเรื่องราวช่วงต่อมาที่โรงพยาบาลทลดัม มีอาคารหลังใหม่ ศูนย์อุบัติเหตุที่อาจารย์คิมวาดฝันไว้ พร้อมต้อนรับการมาถึงของอาจารย์ชาจินมัน พ่อของหมอชาอึนแจ ที่จะมาดูแลศูนย์อุบัติเหตุ ภาคนี้จะได้เห็นซีนหวานๆ ของหมอชาและหมอซออูจินมากขึ้น พร้อมทั้งได้เห็นความรักของคู่รองอย่าง พยาบาลพัคและหมอยุน ด้วยครับ

ผลงานหนังของ อีซองคยอง

ก็ไม่ได้มีแค่ซีรีส์นะ ที่ซองคยองรับเล่น เพราะงานหนังก็มีเข้ามาเช่นกัน แล้วเธอก็รับสลับกันไปกับงานซีรีส์ด้วย ซึ่งรวมๆ แล้วก็ได้มาประมาณนี้

• ปี 2018 | ‘Broker’
• ปี 2018 | ‘Love+Sling’
• ปี 2019 | ‘Miss & Mrs. Cops’ ชื่อไทย ‘คู่หูตำรวจหญิงเหล็ก’
• ปี 2020 | ‘Heart Attack’

ปี 2019 | Miss & Mrs. Cops | คู่หูตำรวจหญิงเหล็ก

หนังเรื่องนี้มีฉายในบริการของ Netflix ด้วยแหละทุกคน ในเรื่องนี้ ซองคยองรับบทเป็น โชจีฮเย สายสืบหญิงจอมมุทะลุที่มักทำให้ทีมเดือดร้อนอยู่เนืองๆ จนถูกย้ายมาฝ่ายบริการตำรวจ ร่วมทีมกับ พัคมียอง (รับบทโดย รามีรัน) ในบทอดีตตำรวจสายสืบหญิงคนที่เคยออกภาคสนามแต่ถูกย้ายมาทำงานเอกสารหลังคลอดลูก และยางจางมี (รับบทโดย ซูยอง) เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ‘คู่หูตำรวจหญิงเหล็ก’ เล่าเรื่องการรวมตัวของตำรวจหญิง เพื่อช่วยกันสืบคดีหญิงถูกวางยาและถ่ายคลิป ผสมผสานกันทั้งความเป็นหนังแอ็กชันและคอเมดี้ นอกจากได้เห็น ซองคยอง วาดลีลาพะบู๊ได้สะใจ ยังได้เจอ วีฮาจุน มาเล่นบทร้ายอีกต่างหาก

ซึ่งในเรื่องนี้ ซองคยองของเราก็ร่วมร้องเพลงประกอบคู่กับรามีรัน ชื่อเพลง ‘Show Time’ ครับผม

รวมรางวัลที่ อีซองคยอง เคยได้รับ

ด้วยการที่เป็นนักแสดงและเป็นนางแบบผู้มีความสามารถ ทำให้เธอได้รับมากมายหลายรางวัล เท่าที่พอจะรวบรวมได้ก็มีประมาณนี้ครับ

• ได้อันดับที่ 11 และได้รับรางวัล Rex Award ในรายการ SBS Super Model Contest ในปี 2008
• ได้อันดับที่ 5 และได้รับรางวัล Unix Hair News และ Daily Award ในรายการ SBS Asia Pacific Super Model Contest ในปี 2009 
• รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best New Actress in Drama Special) บนเวที 2015 MBC Drama Awards จากซีรีส์เรื่อง ‘Flower of the Queen’
• รางวัล Rising Star Award บนเวที 11th Max Movie Awards ในปี 2016 
• รางวัล Excellent Actress (mini series) สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที MBC Drama Award ในปี 2016 จากเรื่อง ‘Weightlifting Fairy Kim Bok-Joo’
• รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม AAA Best Actress Award จากเวที Asia Artist Awards 2020
• รางวัล Excellence Award สาขานักแสดงนำหญิง จากเวที SBS Drama Award 2020 จากเรื่อง ‘Dr. Romantic 2’

ส่วนใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวของเธอ ก็เข้าไปได้เลยที่ IG: /heybiblee/