รีวิวหนัง About Time | อยากย้อนเวลา ให้เธอ(ปิ๊ง)รักฉันอีกครั้งจัง

ถ้าคุณย้อนเวลาไปยังอดีตได้ คุณจะทำอะไรให้เกิดขึ้นกับชีวิต คำถามที่ดูน่าสนใจ แต่การพัฒนามันออกมาเป็นหนังในยุคสมัยนี้ มันต้องสร้างสรรค์คำตอบที่เป็นยิ่งกว่าคำตอบ หนังเรื่องหนึ่งที่สร้างมาจากชีวิตทั้งชีวิตของคนกำกับ หนังที่เขาเชื่อว่าจะบ่งบอกเรื่องราวของการใช้ชีวิตให้กับคนดูได้ ‘About Time ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก’ ผลงานสุดท้ายของ Richard Curtis ครับ

เขาคือคนที่ทั้งเขียนบทและกำกับ เมื่อดูหนังจบก็พบว่า หนังมันถูกกลั่นกรองมาจากชีวิตทั้งชีวิตของคนจริงๆ คนที่จะเขียนมันขึ้นมาได้ ต้องดำเนินชีวิตมาจนถึงจุดที่จะเข้าใจชีวิตได้อย่างถ้วนถี่ และเมื่อเขาเอาสิ่งที่เขาได้จากการใช้ชีวิตมาสร้างเป็นหนัง มันจึงเป็นอะไรที่เข้าถึงคนดูอย่างมากๆ

Richard Curtis มีเครดิตมามากมายทั้งในมุมของการเป็นมือเขียนบท ผู้กำกับหนัง และโปรดิวเซอร์ แทบจะเรียกได้ว่า ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่เคยผ่านตาคุณมาก่อน ไม่ว่าจะ ‘Love Actually’, ‘Notting Hill’, ‘Bridget Jones’s Diary’, ‘War Horse’, ‘Four Weddings and a Funeral’ และอีกมากมายเลยเชียวแหละ

รีวิวหนัง ‘About Time’

เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงครอบครัวที่ดูประหลาดเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ภาพของครอบครัวที่ดูมีความสุขดี มีพ่อแม่พี่น้องและลุงอาศัยอยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างบุคลิก ไม่มีใครเหมือนกัน แต่วันหนึ่ง วันที่ลูกชายคนโตอย่าง ทีม (Domhnall Gleeson) อายุครบ 21 ปี พ่อของเขา (Bill Nighy) ก็เล่าว่า ลูกชายในตระกูลเราทุกคนจะมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ เดินทางย้อนเวลาได้แต่จะได้เพียงย้อนอดีตไปยังที่ที่เคยรู้จักเท่านั้น

ทิมผู้มีปมเรื่องความรัก ดูเป็นคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการจีบสาวๆ จุดประสงค์หลักที่เขาคิดจะใช้มันก็คือ “หาแฟน” ก่อนที่เขาจะได้พบกับนางเอกที่ชื่อเหมือนแม่ แมรี่ (Rachel McAdams จากหนัง ‘The Vow’, ‘Midnight in Paris’, ‘The Notebook’) ในเวลาต่อมา

เรื่องราวใน ‘ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก‘ ก็ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น หนังเล่าไว้ครบทุกช่วงของชีวิต เหมือนจะพยายามให้เราเห็นชีวิตของคนหนึ่งคนแบบ “ครบๆ” ช่วงแรกเริ่มที่ได้ลองของใหม่ การเดินทางข้ามเวลากลับไปแก้ไขอดีต ได้เห็นว่ามันทำอะไรได้และทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะได้พบอีกหลายๆ บทเรียนเมื่อเขาย้ายถิ่นฐานและได้ที่ทำงานใหม่ มันไม่ได้เป็นหนังรักผสมตลกเพียงเท่านั้น แต่มันยังมีส่วนผสมของหนังชีวิตที่เกาะเกี่ยวอย่างเป็นเนื้อเดียวกันอีกด้วยครับ

เคมีของพระกับนางดูเข้ากันได้ดีมาก การเลือกนางเอกคนนี้มาถือว่าเหมาะสมมากๆ เช่นกัน ตอนที่เราได้เห็นเธอครั้งแรกบนจอ เรายังรู้สึกเลยว่า เราตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้พร้อมๆ กับพระเอก อยากเป็นแฟนกับเธอ อยากใช้ชีวิตกับเธอไปตลอด หนังมีเรื่องบนเตียงเยอะเหมือนกันนะ แต่เป็นในแบบน่ารักๆ อะ (ไม่เห็นน่าจะให้เรท R เลยแฮะ)

เพลงประกอบก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมหนังได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ละเพลงที่ส่งมาไพเราะโดนใจ ผสานไปกับเรื่องราวได้อย่างดี

หนังเต็มไปด้วยมุขตลกๆ ที่เป็นเรื่องจริงของชีวิต ฉากกุ๊กกิ๊กๆ ของคู่รักมันช่างน่ารักจนต้องยิ้มและขำตาม ขณะที่ช่วงหลังๆ ของหนัง เริ่มจะเข้าสู่โหมดหนังชีวิตมากขึ้น ซึ่งก็พบว่าน้ำตาซึมไปหลายช่วงทีเดียว

มันคือความจริงของชีวิตที่เอาพล็อตแฟนตาซีมาเกี่ยวกระหวัดเอาไว้ และอธิบายมันออกมาได้อย่างมีพลังและน่าเชื่อถือ

หากเรามีพลังในการย้อนกลับไปแก้ไขอดีต นั่นหมายถึงเรามีโอกาสที่สองให้ได้แก้ตัว สิ่งที่เราเห็นว่ามันผิดพลาด เรายังมีอีกครั้ง (หรืออีกหลายๆ ครั้ง) ให้แก้ไข ชีวิตนี้เราคงไม่ต้องกดดันอะไร ไม่ต้องห่วงว่าจะตัดสินใจผิดหรือไม่ และในโลกความจริง เราต่างก็รู้ว่าเราไม่มีพลังจะไปแก้ไขอดีต ทุกสิ่งที่เราทำคือปัจจุบันที่เพียงจะมีผลต่อนาคต ผิดแล้วผิดเลย พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีให้แก้ไข ไม่มีให้เริ่มใหม่ แต่ก็อีก ในหนังก็บอกให้เรารู้ว่า ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะเปลี่ยนแปลงได้ บางอย่างถึงพยายามจะเปลี่ยนแปลงมันก็ใช่จะได้ผลอย่างที่หวังไว้

การกลับไปแก้ไขอาจจะเปลี่ยนบางอย่างได้ แต่บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้เช่นกัน

แล้วช่วงเวลาน้ำตาซึมก็ถือกำเนิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องรักแล้ว มันดราม่าครอบครัวมาอย่างชัด เรารู้สึกได้ว่าหนังให้อะไรกับเรา ให้มุมมองในการใช้ชีวิตนั่นเอง จะเลือกแบบไหน ถ้ามีทางเลือกให้สองทาง เติบโตผ่านประสบการณ์แล้วจะเข้าใจ

เพราะชีวิตเราไม่มีเทคสอง ต้องดำเนินไปไม่ว่ามันจะอย่างไร สุขกับมันเข้าไว้กับวันที่มันเป็น

ชื่อภาพยนตร์: About Time / ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Richard Curtis
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Richard Curtis
นักแสดงนำ: Domhnall Gleeson, Rachel McAdams, Bill Nighy, Lydia Wilson, Lindsay Duncan, Richard Cordery
แนว: Comedy, Drama, Sci-Fi
เรท: USA/R
ความยาว: 123 นาที
สตูดิโอ/ผู้จัดจำหน่าย: Translux, Working Title Films, ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์ อีสต์)
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 10 ตุลาคม 2556 (รอบพิเศษ 3-9 ตุลาคม 2556)